กลุ่มต้านโรงไฟฟ้าชีวะมวล+ขยะ ตำบลผักตบ อ.หนองหาน ประกาศจุดยืนหน้าศาลากลาง ให้ยกเลิกย้ายไปที่อื่น หากดึงดันทำประชาพิจารณ์ 29 มกราคมนี้ จะยกระดับการชุมนุม ชวนคนทั้งอำเภอหนองหานขับไล่ ขณะตัวแทนบริษัทฯขอเปิดใจกว้าง เทคโนโลยีทันสมัย กฎระเบียบคุมเข้ม ไม่กระทบสิ่งแวดล้อม
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 มกราคม 2562 ที่ลานพลับพลาพิธีทุ่งศรีเมือง หน้าศาลากลางจังหวัดอุดรธานี กลุ่มคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าผสมผสาน (ชีวะมวล+ขยะ) ต.ผักตบ อ.หนองหาน กว่า 100 คน นำโดยนายคำปลาย คำแพงราช อดีต ผอ.โรงเรียนบ้านผักตบ นายเชิดชัย โคตรชาลี เลขาฯอดีต ส.ส.ทองดี มานิสสาร (ถึงแก่กรรม) เดินทางมาร่วมตัวยื่นหนังสือร้องเรียน ต่อผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี โดยนำป้ายต่อด้านมาประกอบการปราศรัย โจมตีหน่วยงานราชการ ขณะที่มีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้ง จนท.การข่าวติดตามอย่างใกล้ชิด
ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อน เข้าไปยื่นหนังสือภาคในศาลากลาง จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมาแจ้งว่า นายปราโมทย์ ธัญญพืช รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี จะมารับหนังสื่อกับผู้ชุมชนแทนผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ที่เดินทางไปเป็นประธานพิธี “วันครู” จากนั้นเจ้าหน้าที่ อส.รักษาการศาลากลาง จ.อุดรธานี ได้ปิดประตูเข้า-ออกศาลากลางจังหวัด ด้านสนามทุ่งศรีเมืองทั้ง 2 ด้าน สร้างความไม่พอใจแก่ผู้ชุมชน จนนายปราโมทย์ฯ รอง ผวจ.อุดรธานี เดินทางมาถึง
นายคำปลาย คำแพงราช กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงแบบหิ้ว ก่อนยืนหนังสือต่อรอง ผวจ.อุดรธานีว่า มายืนหนังสือ 3 ฉบับ เรื่องแรก คัดค้านการทำเวทีรับฟังความคิดเห็น โรงไฟฟ้าพลังงานผสมผสาน บ.ป่าก้าว ต.ผักตบ ที่ บ.ไทยโก้ เทคโนโลยี จก. แจกจ่ายเอกสารว่าจะจัดขึ้นวันที่ 29 มกราคมนี้ที่ โรงแรมหนองหานแกรนด์ และขอให้ถอนโครงการนี้ออกไป , 2.ขอให้ชี้แจงกรณีที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี แจ้งให้แขวงการทางอุดรธานี 2 รื้อถอนป้ายต่อต้านโรงไฟฟ้าออก และ 3. ขอให้ปิดโรงงานยางเครป บ.ปริ้น รับเบอร์ จก. บ.ป่าก้าว เพราะขาดมาตรฐานทำชาวบ้านเดือดร้อน
จากนั้นนายเชิดชัย โคตรชาลี เลขาฯอดีต ส.ส.ทองดี มานิสสาร ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนทั้ง 3 ฉบับ พร้อมประกาศกับผู้ชุมนุมว่า ทำงานการเมืองกับอดีต ส.ส.ทองดี มานิสสาร ติดต่อกันมาโดยตลอด แม้อดีต ส.ส.ทองดีฯจะจากไปแล้ว แต่ตนยังคงอยู่กับชาวบ้าน ไม่ได้ไปสังกัดพรรคการเมืองไหน เพราะกติกามันเยอะแยะมากมาย จะขอทำการเมืองภาคประชาชน จะขอนำชาวบ้านคัดค้านโรงไฟฟ้านี้ หากในวันที่ 29 มกราคมนี้ ยังจะจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น ชาวตำบลผักตบจะยกระดับการชุมชน จะชวนทั้ง อ.หนองหาน ออกมาขับไล่
ต่อมานายปราโมทย์ ธัญญพืช รอง ผวจ.อุดรธานี เดินทางเป็นประธานประชุม คณะทำงานติดตามผลกระทบ ที่อาจเกิดขึ้นจากโรงไฟฟ้า ต.ผักตบ ที่ห้องประชุมคำชะโนด อาคาร 2 ศาลากลาง จ.อุดรธานี มีนายทรรศชล พุทธรัตนา พลังงาน จ.อุดรธานี นำคณะทำงานจากภาคราชการ , นักวิชาการ , ทต.ผักตบ , กำนัน-ผญบ.ต.ผักตบ รวมทั้งนายคำปลาย คำแพงราช ตัวแทนกลุ่มคัดค้านและสมาชิก 10 คน เข้าร่วมประชุมเพื่อให้ความเห็น การทำเวทีรับฟังความคิดเห็น 29 มกราคมที่จะถึงนี้
นายทรรศชล พุทธรัตนา พลังงาน จ.อุดรธานี แจ้งถึงอำนาจหน้าที่ของคณะทำงาน เป็นเหมือนการให้คำปรึกษาแก่ ผวจ.อุดรธานี ไม่มีอำนาจสั่งการใดๆ พร้อมแจ้งการหารือไปยัง สนง.คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ) ว่า กกพ.รับทราบเรื่องมีชาวบ้านการคัดค้านแล้ว ซึ่งขณะนี้โครงการอยู่ระหว่าง รับฟังความคิดเห็นประชาชน และผู้มีส่วนได้เสีย อยู่ในกระบวนการการทำ อีไอเอ. ในส่วนขั้นตอนการพิจารณาของ กกพ. จะนำเอาคำคัดค้านของประชาชน มาประกอบการพิจารณา ตาม ม.47 และ 48 พรบ.ประกอบกิจการพลังงาน 2550
นายสุชา ไพเราะ นักวิชาการจาก สนง.กิจการพลังงานภูมิภาค จ.ขอนแก่น ตอบข้อซักถามว่า ที่ผ่านมาในการพิจารณาของ กกพ. เมื่อโครงการใด อีไอเอ.ผ่านความเห็นชอบแล้ว จะได้รับการอนุญาตให้ประกอบกิจการได้ทั้งหมด ส่วนที่มีประชาชนคัดค้าน จะกำหนดเป็นเงื่อนไขในใบอนุญาต ซึ่งก็จะมีกลุ่มที่คัดค้านฟ้องศาล ว่าการทำ อีไอเอ.ลัดขั้นตอน ขาดความสมบูรณ์
ขณะคณะทำงานที่เหลือมีความเห็น อาทิ สถานที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากโรงเรียนไม่ถึง 500 เมตร , โครงการอยู่ติดกับลำห้วยสาธารณะ , ขยับโครงการออกไปบริเวณอื่นได้หรือไม่ หรือเข้าในอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีซึ่งอยู่ไม่ไกล , หากมีการจัดทำเวลารับฟังความคิดเห็น ขอให้เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ให้เกิดเหตุวุ่นวาย และห่วงประชาชนในพื้นที่มีสภาพกดดัน จากแนวคิดที่แตกต่างกัน
นายคำปราย คำแพงราช แกนนำกลุ่มคัดค้านกล่าวว่า บริษัทฯประกาศในพื้นที่แล้วว่า จะจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นวันที่ 29 มกราคมนี้ แต่วันนี้มาขอให้คณะทำงานให้ความเห็น เรากลุ่มคัดค้านอยากให้เลิกโครงการ เพราะชาวบ้านไม่ต้องการ เกรงจะสร้างความเดือดร้อน เหมือนโรงไฟฟ้าชีวะมวลหลายแห่ง ซึ่งโรงไฟฟ้าเหล่านั้นไม่เกิน 10 เม็กกะวัตต์ แต่โรงฯที่ตำบลผักตบมากกว่า 20 เม็กกะวัตต์ อยากให้คณะทำงานเลิกโครงการ ให้ชาวบ้านที่มีความเห็นต่าง กลับมารักกันเหมือนเดิม แล้วโรงไฟฟ้าออกไป
“ ชาวบ้านตำบลผักตบ 12 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่ไม่เอาโรงไฟฟ้าแห่งนี้ เราส่งรายชื่อมาให้แล้ว 6,270 คน นอกจากนี้สมาชิกสภา ทต.ผักตบ ทุกคนก็ลงนามในหนังสือไม่สนับสนุน , ผญบ.ทุกหมู่ยกเว้นกำนัน ลงรายมือชื่อคัดค้านเช่นกัน เมื่อชาวบ้านไม่เอาก็ไม่ต้องทำเวที การมาบังคับให้ทำเวที เหมือนกับไล่หมาให้จนตรอก เพราะที่ผ่านมาเมื่อฟังความคิดเห็นแล้ว อีไอเอ.ก็จะผ่านความเห็นชอบ และทุกโครงการก็จะรับอนุมัติ ”
นายสิริศักดิ์ เลิศพุทธิภิญโญ ที่ปรึกษา บ.ไทยโก้ เทคโนโลยี จก. กล่าวว่า ในปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆพัฒนาขึ้น มาตรการของรัฐก็เข้มข้น เพื่อควบคุมกำกับดูแลให้โครงการ ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ผู้ลงทุนก็ต้องระมัดระวัง ไม่ให้เกิดปัญหาจนต้องถูกปิด ขอให้ผู้คัดค้านเปิดใจกว้าง ไปเสนอความคิดเห็นในเวที ทั้งข้อห่วงใย ข้อกังวน ตลอดจนข้อเสนอแนะ บริษัทฯพร้อมที่จะปฏิบัติตาม
นายปราโมทย์ ธัญญพืช รอง ผวจ.อุดรธานี กล่าวสรุปว่า เรื่องทั้งหมดจะสรุปส่งให้นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี พิจารณาตัดสินใจ และจะแจ้งให้ทุกฝ่าย โดยตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะมารับคำตอบวันที่ 18 มกราคมนี้ เนื่องจากเป็นวันสำคัญของชาวอุดรธานี จะขยับออกไปก่อนได้หรือไม่ โดยของให้ความมั่นใจกับการทำงานของข้าราชการ ที่มีความจริงใจ อยู่เคียงข้างประชาชน สำหรับการออกไปรับหนังสือนอกศาลากลางมีเหตุผล เรากำลังขับเคลื่อนแก้ปัญหาหลายเรื่อง และการแสดงออกวันนี้ของทุกคน