เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 28 สิงหาคม 2565 ที่ สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก (สอบสวน) สภ.เมือง อุดรธานี ได้นำ “เสี่ย ป.” นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อุดรธานี อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาคดี “ครอบครองสื่อมาลก และครอบครองอาวุธปืน” และยังถูกแจ้งความดำเนินคดี “พรากผู้เยาว์” มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีทนายและญาติ นำเอกสารการครอบครองอาวุธปืน ขนาด .32 มม. ที่ตรวจยึดได้ในบ้านพักมายืนยัน จากนั้นควบคุมตัวพิมพ์ลายนิ้วมือ และเตรียมส่งฝากขังที่ศาล จ.อุดรธานี
พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก. สอบสวน สภ.เมือง อุดรธานี เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ เตรียมนำตัวไปฝากขัง ซึ่งเสี่ย ป.ไม่มีอาการเครียด ซึ่งในการประกันตัว เสี่ย ป. ทางทนายความ จะไปยื่นขอประกันตัวที่ศาล ส่วนหลักฐานยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม จากเมมโมรี่การ์ด และโน้ตบุ๊ค ส่งไปให้พิสูจน์หลักฐาน จ.นครราชสีมา ยังอยู่ในขั้นตอนการกู้
นายประนอม อุทรักษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ติดตามให้ความคุ้มครองเด็ก กรณีคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม “เสี่ย ป.” เพราะไปเกี่ยวข้องกับเด็กผู้หญิงหลายคน โดยในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ได้พบพูดคุยกับเด็กทั้ง 8 คน อายุระหว่าง 14-17 ปี รวมทั้งได้พูดคุยกับพ่อแม่ และผู้ปกครองทุกคนแล้ว
” เด็กผู้หญิงทั้ง 8 คน ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวไม่สมบูรณ์ ทำให้ พมจ.ตัดสินใจนำเด็กผู้หญิง 6 คน มาอยู่ในความดูแลชั่วคราว ในระหว่างการสอบสวน ส่วนที่เหลืออยู่กับครอบครัว 2 คน ซึ่งจากการได้พูดคุยต่อเนื่อง ทำให้ความสัมพันธ์ของเด็ก และครอบครัวมีแนวโน้มดีขึ้น ”
พมจ.อุดรธานี กล่าวต่อว่า วันนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวน เป็นวิธีการสอบสวนเฉพาะของเยาวชน มีสหวิชาชีพเข้าไปร่วมด้วย พร้อมบันทึกเทปเก็บเป็นหลักฐาน เมื่อสอบสวนเสร็จจะพิจารณาส่งเด็กกลับไปอยู่กับครอบครัว โดยเจ้าหน้าที่ของ พมจ.จะลงไปตรวจติดตามประเมิน อย่างใกล้ชิดและเป็นระยะ ขณะเดียวกันเด็กหรือผู้ปกครองสามารถปรึกษา พมจ.ได้ตลอดเวลา
นายประนอม. อุทรักษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี ตอบข้อซักถามด้วยว่า เด็กผู้หญิงทั้ง 8 คน จะเป็นผู้ถูกกระทำ เข้าข่ายความผิดการค้ามนุษย์ หรือความผิดอื่นหรือไม่ เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน จะเป็นผู้ให้ความเห็น พมจ.จะเข้าไปให้การคุ้มครองเด็ก ไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน น.ส.ออย นามสมมุติ อายุ 19 ปี ชาวอุดรธานี หนึ่งในหญิงสาวที่เคยอยู่กับเสี่ย ป. ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมนำเอกสารการผ่อนรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 คันที่จอดอยู่ในบ้าน “เสี่ย ป.” คืน โดยอ้างว่าเป็นผู้ผ่อนชำระ แต่ถูกเสี่ย ป.ยึดเอามาไว้
โดยก่อนหน้า น.ส.ออยฯ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว่า ขณะอายุ 17 ปี เสี่ย ป.ได้ทักเฟซกับทักไลน์มาหา โดยไม่รู้ว่าได้เฟซและไลน์มาจากไหน ก็ได้คุยผ่านระบบมาเรื่อยต่อมาเสี่ย ป.นัดกินข้าว ตนเองก็ไปกับเพื่อน เสี่ย ป.บอกว่าชอบตนอยากได้อะไรให้บอก จึงบอกไปว่าอยากทำฟันและเสริมจมูก เสี่ย ป.ก็พาไปดัดฟัน 8,000 บาท แล้วพูดว่า “หนูต้องให้พี่บ้างนะ” แต่ตนยังไม่ยอมไปร่วมหลับนอนด้วย
“ เสี่ย ป.ซื้อโทรศัพท์ไอโฟน 8 พลัสให้ ราคา 14,000 บาท แต่เมื่อไม่ยอมไปนอนด้วย ก็ทวงโทรศัพท์ไม่นานก็เอามาคืน และให้ไปอยู่ที่หอพักของเสี่ย ป. ก็ได้ชวนเพื่อนมาอยู่ด้วย พอเพื่อนไม่อยู่ก็มารับไปกินข้าว บังคับให้ไปนอนที่บ้านด้วย เมื่อปฏิเสธก็ทำหน้าโมโห ที่สุดก็ต้องยอมนอนด้วย ตอนนั้นอายุ 17 ย่าง 18 เสี่ย ป.บังคับให้มีอะไรด้วย 2 ครั้ง ไม่รู้ว่าถ่ายคลิปไว้หรือไม่ ตอนนั้นยังไม่จัดห้องเป็นสตูดิโอ แต่จะเปิดวีดีโอโป้ไปด้วย อีกทั้งขอให้หาเด็กสาวมาให้แต่ไม่ทำ ”
น.ส.ออย เล่าต่อไปว่า เพื่อนที่อยู่ด้วยกลับไปอยู่บ้าน ตนก็มีแฟนมาอยู่ด้วย ทำให้เสี่ยไม่พอใจ บอกว่าจะคิดค่าเช่าห้องย้อนหลัง 5,000 บาท เมื่อไม่มีเงินจ่ายเสี่ยก็ยึด จยย. ฮอนด้า เวฟ 110 สีน้ำเงินดำ ซึ่งตนผ่อนงวดเหลือเพียง 7 งวด โดยตามไปยึดที่หอพักใหม่ที่ตนย้ายไปอยู่ ตอนนั้นมีเงินจ่าย 5,000 บาท ก็ไม่ยอม บอกคิดค่าทำฟันอีก 8,000 บาท รวมเป็นเงิน 13,000 บาท ก็ไม่กล้าไปแจ้งความเพราะกลัว จนเกิดเรื่องจึงมาติดต่ออยากได้รถคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานมาเพิ่มเติมว่า ที่ศาล จ.อุดรธานี ญาติ “เสี่ย ป.” ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว ในการฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ 1 ศาล จ.อุดรธานี มีความเห็นให้ผู้ต้องหาประกันตัว ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างสู้คดี ด้วยการวางหลักทรัพย์ 50,000 บาท …..