เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 27 ตุลาคม 2565 ที่ สภ.เมืองอุดรธานี คณะนักสังคมสงเคราะห์จาก สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี เดินทางมาสอบปากคำเด็กสาวอายุ 15-18 ปี รวม 6 คน ที่เกี่ยวข้องกับการจับกุม “เสี่ย ป.” นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อุดรธานี วัย 55 ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาครอบครองสื่อลามก และครอบครองอาวุธปืน รวมทั้งถูกแจ้งความคดีกระทำอนาจาร และพรากผู้เยาว์ ว่าเป็นเหยื่อถูกกระทำ หรือพยานในคดี
ขณะที่ “เสี่ย ป.” ยังอยู่ในห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา สภ.เมืองอุดรธานี ตลอดทั้งวันยังไม่ได้นำตัวออกมาสอบสวนเพิ่มเติม จากมีการสอบปากคำเบื้องต้นไปแล้ว หลังจากถูกควบคุมตัวคืนที่ผ่านมา ทั้งนี้มีผู้แสดงตัวเป็นญาติ มาสอบถามการขอประกันตัว โดยได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนว่า “เสี่ย ป.” ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และในวันพรุ่งนี้จะนำตัวไปฝากขังที่ศาล จ.อุดรธานี หากญาติประสงค์จะประกันตัว สามารถยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวที่ศาล จ.อุดรธานี ได้
พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ชี้แจว่า วันนี้เจ้าหน้าที่จาก สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เข้ามาคัดกรองเยาวชน 6 คน ซึ่งได้ทำตามขั้นตอนตั้งแต่เช้า เพื่อให้เสร็จสิ้นทั้งหมดในวันนี้ เพื่อพรุ่งนี้จะมีการสอบสวน โดยสหวิชาชีพตามกฎหมาย สำหรับผู้ที่ยังเป็นเยาวชน ที่ สนง.อัยการ จ.อุดรธานี สำหรับผู้ต้องหาก็จะสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังพรุ่งนี้เช่นกัน
ส่วนที่บ้านของ “เสี่ย ป.” ซ.สามัคคี 6 ม.1 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี พบว่าบ้านถูกปิดเงียบ มีเพียงรถ จยย. จอดอยู่ในบริเวณรั้วบ้าน 5 คัน หลังจากคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี นำหมายค้นของศาล จ.อุดรธานี เข้าตรวจค้นบ้านพบเด็กสาว 2 คน พร้อมหลักฐานวัสดุลามก ควบคุมตัว “เสี่ย ป.”ไปดำเนินคดี จากนั้นบ้านหลังนี้ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ
เพื่อนบ้าน เล่าว่า มาเช่าบ้านอยู่ในชุมชนนี้ 1 ปี เห็นมีเด็กสาวอย่างน้อย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์แวะเวียนมาหาเสี่ย ป. บ่อย ๆ ทั้งกลางวันและกลางคืนวันละ 2-3 ครั้ง โดยรู้ว่า “เสี่ย ป.” มาอยู่ในชุมชนนี้ราว 2-3 ปี ไม่เคยออกมาพบปะเพื่อนบ้าน ชอบเก็บตัวอยู่ในบ้าน จะเห็นก็เพียงออกมาทิ้งขยะ ช่วงกลางดึกและช่วงเช้ามืด และจะเห็นขับรถออกเข้าบ้านและกลับเข้าบ้านเท่านั้น รู้สึกตกใจที่เห็นตำรวจมาควบคุมตัวเสี่ย ป. และรู้สึกสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานให้ดี อย่าให้ออกมาจากบ้านมาเที่ยวในเวลากลางคืน หรือไปกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักก็จะเป็นการดี”
