เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 พ.ต.ต.เศรษฐวิทย์ คุณเศรษฐ์ สว.(สอบสวน) สภ.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุคนผูกคอตาย ที่กระท่อมนา ท้ายหมู่บ้านผ่านศึก 1 หมู่ 3 ต.บ้านตาด จึงพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมไม้ยกพื้น มุงด้วยสังกะสี กั้นด้วยผ้าใบ ตั้งอยู่กลางทุ่งนา พบศพนายศักดิ์ชัย แก้วโสภา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 หมู่ 3 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ใช้เชือกไนล่อนสีแดงผูกคอกับขื่อหลังคา สภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินตัวเดียว ตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ จากการชันสูตรไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย เสียชีวิตมาประมาณ 3-4 ชั่วโมง
นางหนูพิน บัวลา อายุ 66 ปี ป้าผู้ตาย ให้การว่า มีชาวบ้านมาบอกว่าหลานผูกคอตาย ตนจึงออกมาดู ตนเลี้ยงผู้ตายมาตั้งแต่เด็กและสนิทกับตนมาก ผู้ตายมาเช่าที่ทำนา 4 ไร่ และปลูกกระท่อมนาอยู่ที่นี่ และคบหาเป็นแฟนกับนางติ๊ก อายุ 42 ปี มีบ้านอยู่ติดกันได้ 2 ปี ซึ่งบ้านผู้ตายกับแฟนสาวอยู่ติดกัน เมื่อ 2 เดือนก่อนนางติ๊กได้ปันใจไปมีแฟนใหม่ ทำให้ผู้ตายคิดมาก เพราะผู้ตายรักนางติ๊กคนเดียว และเคยพยายามผูกคอตายมาแล้ว แต่ช่วยไว้ทัน ตนคิดจะมาสอบถามและพูดให้กำลังใจหลาน แต่เห็นผู้ตายทำนาขยันขันแข็ง คิดว่าจะไม่เกิดเหตุอะไร แต่ก็มาผูกคอตายอีก สาเหตุก็คงคิดมากเรื่องนางติ๊ก เสียดายหลานมาก เพราะเป็นคนทำมาหากิน
นางรำไพ แก้วโสภา อายุ 57 ปี แม่ผู้ตาย ให้การว่า ผู้ตายเป็นคนขยัน ไม่ค่อยพูด ไม่สุงสิงกับใคร แต่มาอยู่กินกับนางติ๊กซึ่งเป็นแม่ม่ายได้ประมาณ 2 ปี แต่เมื่อ 2 เดือนก่อนนางติ๊กได้ไปมีสามีใหม่อยู่อีกหมู่บ้าน ทำให้ผู้ตายเสียใจและคิดมาก และยังคิดว่าตนกับแม่นางติ๊กวางแผนให้นางติ๊กไปมีสามีใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยพยายามผูกคอตาย แต่ชาวบ้านเห็นก่อนและมาช่วยไว้ทัน ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ผู้ตายมาขอเงินตน 50 บาท เอาไปเติมน้ำมันรถจักรยานยนต์ ซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและบุหรี่ ตนเห็นผู้ตายยังปกติดี ไม่มีท่าทีว่าจะคิดสั้น พอตื่นเช้า ตนได้ออกไปทำงานรับจ้าง ส่วนผู้ตายออกมากระท่อมนา กระทั่งมีชาวบ้านมาบอกว่าลูกชายผูกคอตายแล้ว
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ตายน้อยใจที่ภรรยาไปอยู่กับผู้ชายคนใหม่ จึงคิดมากและผูกคอตายประชด ญาติไม่ติดใจ จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป