วันพุธ, ตุลาคม 9, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมหนุ่มไปเที่ยวผับโดนนักเลงเตะปลายคางสลบกรามเคลื่อนคดีไม่คืบ

หนุ่มไปเที่ยวผับโดนนักเลงเตะปลายคางสลบกรามเคลื่อนคดีไม่คืบ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายสมศรี แสนบุญศิริ อายุ 76 ปี และนางรินทร์ แสนบุญศิริ อายุ 66 ปี ชาวบ้านทับกุง ต.ทับกุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ว่าหลานชายไปเที่ยวผับกับเพื่อนในเขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังผับปิดระหว่างยืนอยู่หน้าร้าน ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้หญิงโดนทำร้าย แต่กลับโดนนักเลงรุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บ 1 ในกลุ่มคู่กรณีกระโดดเตะเข้าหน้าหลานชายจนสลบ ผ่านมา 10 วัน คดีไม่คืบ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีภาพวงจรปิดขณะเกิดเหตุเป็นหลักฐาน และได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุดรธานี ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2566

นายธนกฤต หรือน้องโอม ผู้บาดเจ็บนอนอยู่ในบ้าน ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ ปากมีแผลพูดไม่ชัด เล่าว่า คืนวันที่ 15 พฤษภาคม เพื่อน 4 คน ชวนไปเที่ยวผับชื่อโอมายก๊อต บริเวณไฮเทคไนท์บาร์ซ่า ถนนทหาร เขตเทศบาลนครอุดรธานี  ต่อมามีผู้หญิงที่มาเที่ยวร้องขอความช่วยเหลือว่าถูกผู้ชายรังแกที่หน้าร้าน เพื่อนที่ไปด้วยกันได้เดินไปถาม ก็จบไปด้วยดี พอถึงเวลากลับบ้าน พวกตนออกมาหน้าผับ พวกตนโดนกลุ่มผู้ชายหลายคนรุมทำร้าย โดยมีการ์ดของร้านมาระงับเหตุห้ามปราม พอตนเผลอก็โดนลอบเตะหน้าจนสลบ โดยไม่รู้จักว่าเป็นใคร  อยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย

นางรินทร์ เล่าว่า ผู้บาดเจ็บเป็นหลานชายชื่อ นายธนกฤต แสนบุญศิริ หรือน้องโอม อายุ 21 ปี ซึ่งพ่อกับแม่ได้แยกทางกันตั้งแต่เด็ก พวกตนซึ่งเป็นปู่กับย่า จึงได้รับเลี้ยงน้องโอม ด้วยการเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่หน้าบ้าน ส่งเสียให้หลานเรียนหนังสือจนจบชั้น ปวช.3 วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังเรียนจบก็ออกมาทำงานรับจ้างเพื่อหาเงินช่วยปู่กับย่า พอดีมีญาติอยากให้น้องโอมไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ จึงได้ไปสมัครงานที่จัดหางานจังหวัดอุดรธานี และไปเรียนภาษาเกาหลีใน จ.อุดรธานี เรียนคอร์สแรก 2 สัปดาห์จบแล้ว และกำลังเรียนคอร์สที่สอง

“ น้องโอมได้รับบาดเจ็บ กระดูกใบหน้าแตก กรามเบี้ยว ได้ไปแจ้งตำรวจ ผ่านมา 10 วัน แต่คดีไม่คืบหน้า จับคนที่ทำร้ายร่างกายน้องโอมยังไม่ได้ หลังโดนเตะหน้าสลบ เพื่อนได้นำส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี หมอบอกว่ากรามเคลื่อน กระดูกใบหน้า 2 ชิ้น ต้องผ่าตัด เพื่อนจึงได้โทรศัพท์มาบอกปู่กับย่า  จึงได้ไปดูหลาน ก็รู้สึกตกใจ ปากเป็นแผลพูดไม่ได้ พอกลับมาอยู่บ้านก็ดีขึ้น  แต่ต้องกินอาหารอ่อน เห็นคลิปที่หลานถูกทำร้าย ทำไมถึงทำรุนแรง คล้ายกับจะฆ่าให้ตาย ”

นายสมศรี เล่าว่า  หลังจากไปดูหลานที่โรงพยาบาล และดูคลิปที่หลานถูกทำร้าย ก็รู้สึกว่าเจ็บใจมาก หลานเรียนจบก็มาทำงานเลี้ยงปู่ย่า หลานไม่ได้เกเรหรือหาเรื่องใคร หลานเป็นความหวังของครอบครัว ที่จะต้องทำงานเลี้ยงดูปู่กับย่า  ทำไมถึงได้ทำร้ายกันขนาดนี้ ทำเกินกว่าเหตุ ถ้ามีมีดคงจะถูกแทงตาย  พอเตะจนสลบแล้วยังมีคนกระทืบซ้ำ ไม่ได้ต่อสู้เลย อยากให้ตำรวจจับกุมคนที่ทำร้ายหลานมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างรวดเร็วที่สุด

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments