เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 มิถุนายน 2562 ที่สุสารหรือ “เบ้า” เก็บศพ ด.ช.กุศลวัฒน์ หรือน้องเก้า อยู่ศรีเจริญ อายุ 6 ปี 9 เดือน ภายในฌาปนสถานวัดป่าส่งเสริมธรรม ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่คนร้ายทุบทำลาย แล้วเจาะเอากะโหลกหน้าผาก ไปตั้งแต่ก่อนวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ นัดหมายกับครอบครัวของน้องเก้า ขอเปิดสุสารเก็บศพเก็บหลักฐานประกอบสำนวน
โดยนางสมหมาย ปัญญาทิพย์ อายุ 62 ปี ยายทวด , นางอุไรรัตน์ สุวรรณหงส์ ยาย พร้อมญาติ เดินทางมาประกอบพิธี ขอขมาบอกกล่าวกับศพน้องเก้า เพื่อขอเปิดสุสารให้ตำรวจตรวจสอบ โดยญาติได้ใช้ค้อนปอนด์กะเทาะขอบเปิดฝาปูนออก พบร่างน้องเก้าอยู่บนสังกะสี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนำร่างออกมา ตรวจสภาพหัวกะโหลกน้องเก้า ที่ถูกคนร้ายเจาะหน้าผาก เป็นรูวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว และตรวจดูสภาพภายในกะโหลก และสิ่งของต่างๆ ที่ทางญาตินำใส่ในสุสาร
ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจเก็บวัตถุพยานที่สุสาร พร้อมตรวจสอลบพื้นที่ใกล้เคียง พบว่าใต้ต้นไม้ข้างเมรุ ฝั่งทิศตะวันตก ห่างจากสุสารน้องเก้า พบถุงใส่เสื้อผ้าและรองเท้านักเรียนของน้องเก้า ที่ทางญาติยืนยันว่า เป็นข้าวของเครื่องใช้ ที่ญาติใส่ไว้กับศพน้องเก้า เมื่อนำสิ่งของแยกออก มีทั้งกระเป๋าเป้ เสื้อผ้า รองเท้า จึงเก็บวัตถุพยานเพิ่มเติม ซึ่งทางญาติระบุว่า เป็นของที่ใส่ไว้กับศพน้องเก้า คนร้ายน่าจะเอาไปด้วย แล้วนำกลับมาคืนภายหลัง เพราะครั้งก่อนของเหล่านี้หายไป
นางอุไรรัตน์ สุวรรณหงส์ ยายน้องเก้า เปิดเผยว่า คนร้ายเพิ่งนำของมาทิ้งไว้ เพราะวันเกิดเหตุเราเดินดูรอบ ๆ แล้วไม่มี ตนเป็นคนเอาใส่ในสุสารให้หลานเองกับมือ อยากให้ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้ ขณะที่แม่ของน้องเก้าใกล้พ้นโทษ จะถูกปล่อยตัวออกมาในวันศุกร์นี้ ซึ่งเขาทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาทำกับน้องเก้าแบบนี้ เขางงยังทำอะไรไม่ถูก บอกว่าให้กลับบ้านก่อน จึงจะคิดว่าจะทำอย่างไรต่อ
“ ตั้งแต่เกิดเหตุน้องเก้าเขามาหา หลังจากที่มีคนนำผ้าขาวมาทำพิธีให้กับน้องเก้า เขามาที่บ้านมาเปิดประตูก๊อกแก็ก เหมือนทุกวันที่น้องเก้ายังอยู่บ้าน เข้าห้องน้ำ เปิดมุ้งนอน เขาเคยทำอย่างไรก็มาหาทำอย่างนั้น ซึ่งไม่ได้ฝันหลานมาหาแบบตัวเป็น ๆ เหมือนมาบอกให้เรารู้ว่า เขายังอยู่ตรงนี้ เหมือนกับเขายังไม่ไปไหน ตนกว่าตำรวจจะจับตัวคนร้ายได้ ซึ่งฉันมั่นใจว่าต้องตับตัวคนร้ายได้แน่ ”
พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า วันนี้แจ้งญาติผู้เสียชีวิตว่า จะทำการเก็บหลักฐานเพิ่มที่ศพผู้ตาย เพราะตำรวจไม่เคยเปิดและเห็นศพเลย โดยให้ทางญาติมาทำการเปิดให้ ซึ่งหลักฐานได้เพิ่มพอสมควร คิดว่าหากผลการตรวจดีเอ็นเอ. น่าจะสอดคล้องกับผลดีเอ็นเอ.กับบุคคลที่น่าสงสัย ที่ส่งไปตรวจชุดแรกในวันเกิดเหตุ คาดว่าผลออกมาน่าจะเป็นอย่างนั้น แต่หากผลตรวจออกมาเป็นในทางอื่น ก็จะเก็บไว้เป็นพยานหลักฐานหรือวัตถุพยานอีกชิ้นหนึ่ง ที่จะนำไปสู่ตัวคนร้ายได้
“ ส่วนกระเป๋าเสื้อผ้ารองเท้าที่พบว่ามีการนำมาวางคืนไว้ใกล้ ๆ ศพน้อง คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มคนร้ายนำมาคืน เพราะเป็นของที่อยู่ในเบ้าเก็บศพ ซึ่งวันแรกที่ลงพื้นที่ไม่พบ จึงให้ชุดสืบสวน ทั้งของ ภ.จว.อุดรธานี และ สภ.ห้วยหลวง หาข้อมูลว่ามีการนำมาวางคืนเมื่อไหร่ ส่วนการตรวจสอบสภาพศพพบว่า มีการเจาะเป็นรูกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว ซึ่งจะต้องของใหม่ หรือว่าทื่อก็จะดูว่าทื่อขนาดไหน เพื่อนำไปสู่วัสดุที่ในการเจาะ ส่วนอวัยวะอื่นหรือข้าวของอื่นไม่มีหายไป ”
พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ฯ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าติดตามตัวคนร้าย รอผลการตรวจดีเอ็นเอ โดยได้ประสานเร่งผลการตรวจสอบ คาดว่าผลน่าจะออกใน 7-10 วัน ส่วนของใหม่ที่เก็บในวันนี้จะเร่งส่งตรวจ เพื่อให้ผลออกมาทั้ง 2 ส่วนพร้อมกัน ส่วนเรื่องสำนักหมอผีทั้งหลาย เราก็ยังไม่ได้ตัดทิ้งทั้งหมด เพราะบางสำนักพบว่าเกี่ยวกับเรื่องลักษณะนี้ พร้อมกับทางตำรวจสืบสวนภาค 4 ก็ร่วมลงพื้นที่ 12 จังหวัด เพื่อหาแนวทางสืบสวนไปสู่ตัวคนร้ายร่วมกัน โดยไม่มีรายงานว่าจังหวัดอื่นๆ มีเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุแบบนี้
