วันศุกร์, เมษายน 26, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมอดีตกำนันวัย 71 ปีนตัดต้นหว้าเผาถ่านวูบตกกระแทกพื้นดับ

อดีตกำนันวัย 71 ปีนตัดต้นหว้าเผาถ่านวูบตกกระแทกพื้นดับ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 11 มีนาคม 2565 ขณะที่ ร.ต.อ.พอดี ไชยคำหาญ รอง สว.สอบสวน สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ภ.จ.อุดรธานี ว่ามีเหตุชายสูงวัย อายุ 71 ปี พลัดตกต้นไม้สูง 10 เมตร เสียชีวิต บริเวณริมถนนลูกรังด้านหลัง อบต.หมูม่น อ.เมืองอุดรธานี หลังจากชาวบ้านและญาติพยายามปั๊มหัวใจ เพื่อช่วยเหลือชีวิตประมาณ 20 นาที จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน

ที่เกิดเหตุพบศพนายประเวท ผิวดำ อายุ 71 ปี อดีตกำนัน ต.หมูม่น อยู่บ้านเลขที่ 19 ม.13 บ.หมูม่นพัฒนา ต.หมูม่น อ.เมืองอุดรธานี นอนหงายเสียชีวิตอยู่ใต้ต้นหว้า ลำต้นขนาด 1 คนโอบ สูง 15 เมตร โดยมีนางลุ ผิวดำ อายุ 71 ปี ภรรยาและญาตินั่งร้องไห้อยู่ข้างศพ ด้วยความโศกเศร้าเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตรวจสอบสภาพศพในเบื้องต้น พบซี่โครงหลังด้านขวาหักและยุบ ญาติไม่ติดใจในสาเหตุ แต่ต้องนำศพไปชันสูตรที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ถึงสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากผู้ตายทำประกันชีวิตไว้

จากการสอบถามชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ อบต.หมูม่น ทราบว่า ผู้ตายเป็นคนขยันทำงาน และก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ ผู้ตายและคนงาน รวม 2 คน ขับรถปิกอัพสี่ประตูมาขอตัดต้นไม้ที่อยู่ในพื้นที่ของเพื่อนบ้าน หลังจากทาง อบต.หมูม่น ได้มีโครงการสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) จากเดิมเป็นถนนลูกรังความกว้าง 4 เมตร เป็นถนนคอนกรีตกว้าง 6 เมตร รวมระยะทาง 800 เมตร ผู้ตายและคนงาน ได้มาทยอยตัดต้นไม้ไปแล้วประมาณ 5 ต้น จากทั้งหมด 10 ต้น แต่ต้องใช้บันไดเหล็กปีนขึ้นไปตัดกิ่งปลายต้นไม้ลงมาก่อน เนื่องจากต้นไม้บางต้นอยู่ใกล้เสาไฟฟ้า เกรงจะได้รับอันตราย โดยวันนี้ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแจ้งมาว่าจะตัดกระแสไฟฟ้าในเขตพื้นที่ ต.หมูม่น ตั้งแต่เวลา 09.30 -17.00 น. เพื่อซ่อมบำรุงและเพิ่มประสิทธิภาพ ผู้ตายและคนงาน จึงเร่งมือช่วยกันตัดต้นไม้ที่เหลือ ก่อนผู้ตายจะพลาดตกลงมากระแทกพื้นเสียชีวิตจากความสูงราว 10 เมตร

สอบสวน นายไสว จับมั่น อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 ม.1 ต.หมูม่น เจ้าของที่นา เปิดเผยว่า ต้นไม้ที่ผู้ตายตกลงมาอยู่ในที่นาของตนเอง ก่อนหน้านี้ทาง อบต.หมูม่น มีโครงการจะขยายถนนและเทคอนกรีต ต้นไม้บางส่วนอยู่ในเขตทาง ผู้ตายจึงมาขอตัดต้นไม้ไปเผาเป็นถ่านขาย จึงยกให้โดยไม่คิดเงิน แต่ต้องมาตัดเอาเอง ซึ่งเตาเผาถ่านของผู้ตายอยู่ห่างไปราว 200 เมตร ตั้งแต่เช้าวันนี้ผู้ตายมาตัดต้นไม้กับลูกน้องผู้ชายชื่อนายกุ้ง พอช่วงใกล้จะเที่ยงวัน ตนผ่านมาบริเวณนี้ จึงนั่งดูทั้งสองคนช่วยกันตัดต้นไม้อยู่ใกล้ๆกัน ระหว่างนั้นผู้ตายบอกว่ารู้สึกเวียนหัว เพราะว่ายังไม่ได้กินข้าวเช้า และบอกอีกว่าขอตัดกิ่งไม้อีกซักกิ่งก่อนแล้วจะพักเที่ยงกลับบ้านไปกินข้าว ก่อนปีนขึ้นไปบนต้นไม้อีกครั้ง จนปีนไปถึงยอดต้นไม้อยู่สูงจากพื้นประมาณ 10 เมตร

”ระหว่างนั่งดูผู้ตายใช้มีดพร้าตัดกิ่งไม้อยู่ไม่นาน ผู้ตายได้ตกลงมาพร้อมกับกิ่งไม้กระแทกพื้นอย่างแรง ลักษณะคว่ำหน้าลอยตกลงมาคล้ายหมดสติ หรือวูบเป็นลมตั้งแต่อยู่บนต้นไม้ ตนจึงรีบวิ่งไปดูผู้ตาย ตอนนั้นผู้ตายมีอาการหายใจแผ่วลง ตนจึงทำการปั้มหัวใจ แต่ก็ทำการช่วยเหลือได้ไม่เต็มที่ เพราะตนเองก็ป่วยเป็นโรคปอด ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง จนผู้ตายนอนนิ่งไป ขณะเดียวกันนายกุ้งลูกน้องผู้ตาย ได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ พอเจ้าหน้าที่มาถึงก็ทำการปั้มหัวใจอีกครั้ง แต่ก็ช่วยเหลือไม่ทัน คาดว่าผู้ตายน่าจะเป็นลมหมดสติ เนื่องจากผู้ตายยังไม่ได้กินข้าว และวันนี้มีอากาศร้อนมาก ยิ่งเป็นช่วงเที่ยงวันแดดจะแรงเป็นพิเศษ คงจะวูบหมดสติและตกลงมาเสียชีวิต”

ด้านนางพิศวาส ผิวดำ อายุ 69 ปี น้องสาวผู้ตาย เปิดเผยว่า พี่เป็นคนขยัน ชอบหาอะไรทำอยู่ตลอดเวลา แม้ลูกหลานบอกให้อยู่บ้านเฉยๆ ก็ไม่ยอม เวลาว่างจะออกไปทำงาน ตามแต่จะมีคนว่าจ้าง หรือแม้แต่ช่วยงานผู้อื่นตามกำลัง และได้ทำเตาเผาถ่านเป็นอาชีพเสริมด้วย ปกติพี่จะกลับบ้านมากินข้าวเที่ยงกับครอบครัวทุกวัน หากไม่มาก็จะโทรศัพท์มาบอก แต่วันนี้หายไปนานผิดปกติ โทรหาก็ไม่มีคนรับสาย จนกระทั่งมาทราบข่าวร้ายอีกครั้งว่า พี่ชายตกต้นไม้เสียชีวิตแล้ว

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments