วันจันทร์, เมษายน 29, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมหนุ่มคลั่งควงมีดฟันปาก ด.ญ.13 ฟันร่วงปากเหวอะเย็บ 16 เข็ม

หนุ่มคลั่งควงมีดฟันปาก ด.ญ.13 ฟันร่วงปากเหวอะเย็บ 16 เข็ม

เหตุสะเทือนขวัญหนุ่มเสพยาคลั่งอาละวาดปั่นจักรยานควงมีดตัดอ้อย ฟันเด็กหญิง 13 ปี ครั้งแรกเข้ากลางอกแต่เป็นสันมีด ไม่หนำใจฟันซ้ำเข้าริมฝีปากบน จนปากเหวอะ ฟันหน้าแตก หนุ่มคลั่งกำลังจะฟันซ้ำ เพื่อนบ้านกระโดดเข้าช่วยได้ทัน ก่อนวิ่งหนีเข้าไปในบ้านใกล้กัน รอดตายหวุดหวิด

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 6 กันยายน 2566 พ.ต.ท.ทศพล นนทะคำจันทร์ รอง ผกก.สส สภ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี นำกำลังจับกุมนายณัฐพงศ์ แก้วรักษา หรือหน่อง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 239 หมู่ 2 บ้านพังคี  ต.โนนหวาย อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาใช้มีดฟัน ด.ญ.สุจิรา ต่อลบรัมย์ หรือแป้ง อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1  ได้รับบาดเจ็บบริเวณปาก ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดเวลา 17.50 น. วันที่ 5 กันยายน ที่ถนนหน้าบ้านผู้ต้องหา โดยแจ้งข้อหา “ทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส” ควบคุมตัวไปโรงพักทำการสอบสวน

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 17.50 น.วันที่ 5 กันยายน 2566 พ.ต.ท.สิทธิพงษ์ ปัญจะนะ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หนองวัวซอ ได้รับแจ้งเหตุ มีเด็กถูกคนคลั่งใช้มีดฟันได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณถนนหน้าบ้านเลขที่ 239 หมู่ 2 บ้านพังคี ต.โนนหวาย จึงนำกำลังตำรวจทั้งสายตรวจและตำรวจสืบสวน กู้ชีพเทศบาลตำบลภูผาแดง ออกไปที่เกิดเหตุ พบ ด.ญ.สุจิรา หรือน้องแป้ง ถูกฟันด้วยอาวุธมีดบริเวณริมฝีปากบน เป็นแผลเหวอะหวะเนื้อห้อยลงมา ฟันหน้าหักหล่นหาย 2 ซี่ เลือดไหลออกมาจำนวนมาก ต้องใช้ผ้าปิดบาดแผล เจ้าหน้าที่รีบนำส่งโรงพยาบาลหนองวัวซอ อาการปลอดภัย

นอกจากนี้ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานไฟฟ้าของน้องแป้งล้มอยู่กลางถนน และรถจักรยานปั่นและมีดพร้าสำหรับตัดอ้อย ของนายณัฐพงศ์หรือหน่อง ผู้ก่อเหตุทิ้งอยู่กลางถนน  ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งตำรวจได้ดักซุ่มอยู่บริเวณหน้าบ้านนายณัฐพงศ์ เพราะเชื่อว่านายณัฐพงศ์ต้องย้อนกลับมาบ้าน กระทั่งเช้าวันที่ 6 กันยายน นายณัฐพงศ์ได้กลับมาบ้านจริง ตำรวจจึงเข้าจับกุมควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่โรงพัก  ท่ามกลางความโล่งใจของชาวบ้าน

พ.ต.อ.หฤษฎ์ คำจุมพล ผกก.สภ.หนองวัวซอ ได้นำตัวนายณัฐพงศ์ฯ ผู้ต้องหามาทำการสอบสวน โดยให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้มีดฟันน้องแป้งจริง โดยก่อนเกิดเหตุตนได้เสพยาบ้าเข้าไป 2 เม็ด จากนั้นได้ถือมีดตัดอ้อย พร้อมปั่นจักรยานออกไปตามถนนในหมู่บ้าน ก่อนจะย้อนกลับบ้าน พบน้องแป้งขี่รถจักรยานไฟฟ้าผ่านหน้าบ้าน จึงใช้มีฟันน้องแป้งได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนทำไปโดยไม่รู้สาเหตุ และอยากขอโทษน้องแป้ง แต่ก็นิ่งเงียบไปไม่พูดอะไรเพิ่มเติมอีก

น.ส.ปิยะนุช กับพโก อายุ 20 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนอยู่บ้านใกล้กับนายณัฐพงศ์ ซึ่งนายณัฐพงศ์อาศัยอยู่บ้านคนเดียว เพราะว่าเสพยาบ้า ดื่มเหล้าเมาแล้วอาละวาด เอามีดจี้แม่ ทำให้แม่และยายกลัวต้องหนีออกไปเช่าบ้านปล่อยให้นายณัฐพงศ์อยู่บ้านตามลำพัง ก่อนเกิดเหตุนายณัฐพงศ์ดื่มเหล้าเมาแล้วอาละวาดทุบบ้านตัวเอง ก่อนจะถือมีดตัดอ้อยออกมาปั่นจักรยานไปตามหมู่บ้าน ก่อนจะกลับมาพบน้องแป้งขี่จักรยานไฟฟ้าสวนมา จึงใช้มีดฟัน 2 ครั้ง ครั้งแรกโดนหน้าอกแต่มีดไม่เข้าคาดว่าจะเป็นสันมีด ครั้งที่สองฟันปากน้องแป้ง และจะฟันซ้ำอีก สามีตนก็เลยกระโดดเข้าไปขวางกอดปล้ำสู้กัน ซึ่งนายณัฐพงศ์ได้ทิ้งมีดวิ่งหลบหนีไป พวกตนอยู่บ้านใกล้รู้สึกหวาดกลัว หวาดผวาตลอดเวลา เกรงว่าจะบุกเข้ามาทำร้ายคนในบ้าน

นายบุญรอด สองตน อายุ 45 ปี พ่อน้องแป้งเล่าว่า น้องแป้งไม่รู้จักกับนายณัฐพงศ์ผู้ก่อเหตุ น้องแป้งขี่รถจักรยานไฟฟ้าเล่นไปตามถนนในหมู่บ้าน ผ่านบ้านนายณัฐพงศ์ก็โดนฟันที่ริมฝีปากบน แพทย์เย็บ 16 เข็ม ฟันหัก 2 เล่ม ส่วนฟันซี่ที่เหลือก็โดนฟันหักครึ่ง แพทย์รอให้บาดแผลหายจะได้ถอนฟันหน้าออกทั้งหมด ถึงตอนนี้ลูกตนยังกินข้าวไม่ได้ ซึ่งหลังจากตำรวจจับตัวได้ ตนรู้สึกโกรธมาก ยิ่งรู้ว่าเมายาบ้าก็ยิ่งโกรธ ลูกตนขี่จักรยานไฟฟ้าเล่น ไม่ได้ไปทำอะไร  อยากให้ตำรวจดำเนินคดีจนถึงที่สุด

ส่วนนางสุวรรณ แก้วรักษา อายุ 59 ปี แม่นายณัฐพงศ์ ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนมีลูก 4 คน นายณัฐพงศ์เป็นลูกคนสุดท้อง สามีเสียชีวิตและแต่งงานใหม่แล้ว นายณัฐพงศ์เคยไปทำงานโรงงานที่ จ.ระยอง แต่งงานมีลูก 1 คน แต่ได้แยกทางกับภรรยา ซึ่งภรรยาเอาลูกไปเลี้ยง นายณัฐพงศ์เสียใจมากได้กลับมาอยู่บ้าน และพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง ทั้งขี่รถจักรยานยนต์ชนต้นไม้จนขาหัก กินน้ำยาล้างห้องน้ำ แต่ตนช่วยได้ทัน หลังจากนั้นก็หันมาดื่มเหล้า เสพยาบ้า ดื่มน้ำกระท่อม และเสพกัญชา และมักจะเอามีดมาไว้ใกล้ตัว ตนเกรงว่าจะได้รับอันตราย  จึงพายายอายุ 90 ปี และลูกหลานแยกออกไปเช่าบ้านอยู่ ได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว

“ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว แต่ก็นำกับข้าวมาแขวนไว้ประตูหน้าบ้าน เพราะกลัวว่าลูกจะหิว และลูกก็มาก่อเหตุฟันเด็กได้รับบาดเจ็บ รู้สึกเสียใจที่เกิดเรื่องขึ้น แต่ยังไม่ได้พุดคุยกับพ่อแม่ผู้บาดเจ็บ แต่ถ้าจะให้จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ก็คงไม่มี เพราะตนไม่มีงานทำ ตนพยายามพาลูกชายไปรักษาไปบำบัดอาการทางจิตมาแล้วหลายครั้ง แต่ลูกชายก็ไม่ดีขึ้น ซ้ำยังกลับมาติดยาเสพติดหนักมากขึ้นอีก จนมาก่อเหตุขึ้นเมื่อวานนี้”

เบื้องต้นตำรวจได้ตรวจปัสสาวะนายณัฐพงศ์ฯ พบว่าฉี่เป็นสีม่วง และรับสารภาพว่าเสพยาบ้า 2 เม็ด จึงแจ้งข้อหา “ทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments