เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 พ.ต.ท.วทัญญู ขาวไชยมหา สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 5 เส้น ที่ร้านทองคูลินจิวเยาวราช เลขที่ 141 ถนนโพศรี เขตเทศบาลนครอุดรธานี พนักงานได้จับคนร้ายไว้ได้ จึงนำกำลังออกไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านจำหน่ายทอง 3 คูหา พบพนักงานหญิง ช่วยกันจับคนร้ายเป็นหญิง มือกำสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 5 เส้น โดย น.ส.เบญจวรรณ เหง้าเทพ อายุ 29 ปี พนักงานร้านทอง ให้การว่า คนร้ายเดินเข้ามาเหมือนลูกค้าทั่วไป ขอดูสร้อยคอทองคำ 1 บาท ซึ่งตนอยู่คนเดียว จึงเรียกเพื่อนมายืนเป็นเพื่อน ซึ่งตนได้นำทองลงมาให้ดู 5 เส้น คนร้ายหยิบเอาสร้อยทอง ก่อนจะบอกว่า “ขอปล้นหน่อย” และเตรียมจะวิ่งหนีออกจากร้าน ตนและเพื่อนจึงรีบคว้าตัวเอาไว้ และถามว่ามาก่อเหตุทำไม คนร้ายบอกว่าไม่มีข้าวกิน แต่ตนได้กลิ่นบุหรี่จากตัวคนร้าย เจ้าของร้านจึงโทรแจ้งตำรวจ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางไปโรงพักทำการสอบสวน
จากการสอบสวนทราบชื่อ น.ส.คำแพง น้อยแก้ว อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 314 ชุมชนผาสุก ถนนนเรศวร ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นหม้ายสามีตายจากมา 20 ปี ทิ้งให้เลี้ยงลูกตามลำพัง เมื่อปี 2561 ลูกสาวถูกจับติดคุกข้อหาขายยาบ้า ทิ้งให้ตนเช่าบ้านอยู่ตามลำพังคนเดียว โดยทำงานเป็นแม่บ้านอพาร์ตเมนต์ เมื่อ 3 เดือนก่อนตนถูกให้ออกจากงาน จึงมารับจ้างทำความสะอาด รับจ้างซักผ้า รีดผ้า บางวันก็มีงาน บางวันก็ไม่มีงาน ทำให้ต้องอดมื้อกินมื้อ และต้องหาเงินจ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 2,000 บาท ซึ่งหลังจากตกงานตนค้างค่าเช่าบ้านมา 1 เดือนแล้ว
“ เช้าวันนี้ตนไม่มีงานทำ ก็เท่ากับไม่มีเงินซื้อข้าวกิน จึงไปขอข้าววัดกิน และมีความคิดว่า ถ้าไปก่อเหตุปล้นร้านทอง จะได้ถูกตำรวจจับติดคุก มีที่อยู่ และมีข้าวกิน ไม่ต้องลำบากไปหาเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน จึงตัดสินใจเดินเข้าร้านทอง ทำทีเข้าไปซื้อทองแล้ววิ่งหลบหนี และถูกพนักงานจับส่งตำรวจ ”
พ.ต.ท.วทัญญู ขาวไชยมหา สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ประชาชนสามารถจับกุมคนร้ายได้ เพราะคนร้ายกระทำผิดซึ่งหน้า หยิบเอาสร้อยทองไว้ในมือ และกำลังจะวิ่งหลบหนี พนักงานจึงจับกุมตัวส่งตำรวจ และแจ้งข้อหา “วิ่งราวทรัพย์” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี ตามกฎหมาย ต่อไป