วันศุกร์, พฤษภาคม 3, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมคลั่งยาคว้าไม้เท้าหวดตาไม่ยั้งสำนึกกราบ 9 ครั้งลาบวชชดใช้ความผิด

คลั่งยาคว้าไม้เท้าหวดตาไม่ยั้งสำนึกกราบ 9 ครั้งลาบวชชดใช้ความผิด

เมื่อเวลา 19.40 น. วันที่ 3 กันยายน 2565 ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.หนองแสง ได้รับแจ้งเหตุชายหลอนยาเสพติด ใช้ไม้เท้าทำร้ายตาตนเอง ที่บ้านเลขที่ 94 ม.8 ต.แสงสว่าง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.จิรชัย ศรชัยประสิทธิ์ รอง สวป.สภ.หนองแสง นำกำลังตำรวจสายตรวจพร้อมอุปกรณ์เข้าระงับเหตุ โดยมีนายเจด็จ ไชยคำ กำนัน ต.แสงสว่าง นายอาณัติ เนตรภักดี ผญบ.ท่ายม เจ้าหน้าที่ อส. ชรบ. ควบคุมสถานการณ์ไว้เบื้องต้น ท่ามกลางชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมามุงดูกันเป็นจำนวนมาก

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบนายสุรชัย ชัยวุฒิ หรือป๊อบ อายุ 36 ปี มีอาการคุ้มคลั่งอาละวาด ตะโกนโวยวาย ถือเหล็กแหลมและฆ้อนเดินไปมาหน้าบ้าน โดยปิดประตูขังนายบุญ ชัยวุฒิ อายุ 79 ปี เจ้าของบ้าน ผู้เป็นตาไว้ในบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ใช้ไม้เท้าของตาฟาดเข้าที่หลังและแขนข้างซ้าย และมีบาดแผลที่มือข้างขวา เนื่องจากฉุดกระชากตาเข้าไปในบ้าน จนถูกกลอนประตูบาดต้องเย็บ 4 เข็ม ขณะที่ยายและญาติคนอื่นหนีกระเจิงไปก่อนหน้า ระหว่างนั้นตำรวจได้วางแผนกันชาวบ้านและผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ เพราะนายป๊อบยังไม่มีท่าทีสงบลง ช่วงหนึ่งนายป๊อบได้ลากตัวตาบุญออกมาหน้าบ้าน ก่อนที่จะกราบขมา เนื่องจากสำนึกผิด บอกเพียงว่าจะบวชทดแทนความผิด

หลังจากปิดล้อมไว้นานเกือบ 3 ชม. ตัวของนายบุญ ได้อาศัยจังหวะนายป๊อบเผลอหนีออกมาได้ และถูกนำตัวส่ง รพ.หนองแสงทันที ตำรวจจึงตัดสินใจยิงปืนช็อตไฟฟ้าใส่นายป๊อบจนล้มลงข้างแคร่ไม้หน้าบ้าน และใช้เหล็กง่ามเข้าควบคุมตัวได้ในที่สุด พร้อมของกลางเหล็กแหลมยาว 40 ซม. ฆ้อนด้ามไม้ 1 อัน และฆ้อนด้ามเหล็ก 1 อัน รวมทั้งไม้เท้าอะลูมิเนียมสภาพบิดงอ 1 อัน ก่อนที่จะนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ก่อนที่ช่วงเช้าจะนำตัวนายป๊อบไปปฐมพยาบาลที่โรงพยาบาลและตรวจหาสารเสพติดจนพบว่าปัสสาวะมีสีม่วง ก่อนที่นายป๊อบจะสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุเสพยาบ้าไป 1 เม็ด และทำร้ายตาจริง

ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 กันยายน 2565 ร.ต.อ.คมกริช ไชยวรรณ รอง สว.สอบสวน สภ.หนองแสง ได้เชิญนายบุญ ชัยวุฒิ อายุ 79 ปี และญาติ พร้อมด้วย น.ส.กาญจนา อินทร์อุดม อายุ 37 ปี เพื่อนบ้านที่ถูกนายสุรชัยฯ ใช้ฆ้อนทุบฝาปิดท้ายกระบะรถปิกอัพมาสอบสวนปากคำเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีกับนายสุรชัยฯ ให้ถึงที่สุด ส่วนนายสุรชัยฯ ยังให้การวกวนพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง ยังถูกขังไว้ในห้องควบคุม สภ.หนองแสง เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหานายสุรชัยฯว่า ”ทำร้ายบุพการีได้รับบาดเจ็บ , บุกรุกและทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยผิดกฎหมาย และประพฤติตนวุ่นวาย

นายบุญฯ เปิดเผยว่า นายป๊อบเป็นหลานชายคนโต แม่นายป๊อบป่วยเสียชีวิตไปตั้งแต่นายป๊อบยังเด็ก พ่อทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ ตาและยายจึงเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กจนรักเหมือนลูกคนหนึ่ง ที่บ้านอยู่ด้วยกัน 4 คน มีตา ยาย หลานชายก็คือนายป๊อบ และหลานสาว นายป๊อบมีประวัติเสพยาบ้ามานานแล้ว ก่อนหน้านี้ไปมีครอบครัวที่ จ.ลำพูน นานหลายปี แต่ไม่มีลูก พอเลิกกับภรรยาก็กลับมาอยู่กับตายาย นายป๊อบไม่ได้ทำงานเป็นหลักแหล่ง เคยไปทำงานที่ จ.ชลบุรี ได้พักหนึ่ง ก็กลับมาที่บ้านนี้ได้ 1 ปีกว่า เคยถูกนำตัวไปบำบัดยาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง กลับมาที่บ้านจึงไม่ให้ทำงาน ให้อยู่ที่บ้านกลัวจะมีเงินซื้อยามาเสพอีก

“ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 วัน นายป๊อบมีอาการเปลี่ยนไป ปกติจะเป็นคนเงียบๆ แต่เริ่มพูดมากขึ้น พูดเพ้อเจ้อ จนกระทั่งค่ำวานนี้ นายป๊อบเริ่มมีอาการหวาดระแวง ถือเหล็กแหลมและฆ้อน ทุบแคร่ไม้ ทุบท่อน้ำประปาและมิเตอร์น้ำ ลามไปถึงทุบฝากระโปรงท้ายรถกระบะเพื่อนบ้าน ยายและญาติคนอื่นจึงหนีกระเจิงไปหลบอยู่ที่อื่น แต่ตนป่วยเป็นโรคเก๊าท์ ความดัน เดินเหินไม่สะดวกจึงหนีไม่ทัน นายป๊อบได้แต่พูดว่ากลัวจะมีคนมาทำร้าย อยากให้ตาอยู่ด้วย พอตนจะหนีออกจากบ้านก็กระชากตนเข้าบ้านจนมือบาดกับกลอนประตู ที่สุดหลานคว้าไม้เท้ามาฟาดตนที่หลังและแขนจนบาดเจ็บ พอหลานสาวอีกคนมาเจรจาก็มีท่าทีสงบลง กราบและขอโทษและบอกว่าจะบวชทดแทนความผิด ระหว่างนั้นจึงหนีออกมาได้ อยากให้จับหลานไปบำบัด จับไปดำเนินคดีในคุกให้นานที่สุด ”

นางบุญหนา ชัยวุฒิ อายุ 77 ปี ยายนายป๊อบ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ 3 วัน หลานชายเริ่มอาการผิดปกติ คิดว่าคงจะมีอาการหลอนยา เพระเห็นวันหนึ่งหายออกจากบ้านไปนานผิดสังเกต ตนจึงบอกตาและลูกหลานให้เก็บสิ่งของมีคมไปเก็บซ่อนไว้ให้ห่างจากหลานชาย ช่วงเย็นวันเกิดเหตุ ตนเลี้ยงเหลนอยู่หน้าบ้าน พอตนจะเข้าไปในบ้านเพื่อเข้าห้องน้ำ หลานพูดจาไม่รู้เรื่อง ถามว่าตนมาหาใคร เห็นท่าไม่ดีจึงรีบหอบเหลนไปอยู่บ้านญาติอีกหลัง เสียใจมากที่หลายชายก่อเหตุทำร้ายตาแท้ๆแบบนี้ เลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่แบเบาะ เห็นมีอาการทางประสาทก็ไม่ให้ไปทำงานที่ไหนอีก ให้อยู่บ้านเฉยๆกับตายาย แต่ก็ยังหวนกลับไปเสพ จนมีอาการหลอนและคลั่งอย่างที่เห็น

นส.อุไร ยวนหมื่น อายุ 33 ปี หลานสาวตาบุญ และลูกพี่ลูกน้องนายป๊อบ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนออกไปกรีดยาง พอญาติโทรศัพท์ไปบอกก็รีบกลับมาที่บ้านทันที ตนกับนายป๊อบสนิทกันพูดคุยกันได้ จึงตัดสินเข้าไปเจรจาให้นายป๊อบสงบลง จนนายป๊อบก้มลงกราบตา ก่อนหน้านี้นายป๊อบพูดจาไม่รู้เรื่อง บอกเพียงแค่ว่าจะมีคนมาทำร้าย อยากให้ตาอยู่ในบ้านด้วย ไม่อยากให้ตาหนีไปไหน ตอนเจรจานายป๊อบบอกว่า สมองมันคิดไปเรื่อยเปื่อย กลัวไปหมด ไม่รู้กลัวอะไร พอตาจะหนีก็เลยจับไม้เท้ามาฟาดตา ปกตินายป๊อบจะเป็นคนเงียบๆ เด็กๆที่บ้านที่เป็นลูกหลานก็รักนายป๊อบ ชอบเล่นกับหลาน แต่เมื่อวานหลานเห็นเหตุการณ์กันหมด ได้แต่ร้องไห้ตกใจและวิ่งหลบหนีกันกระเจิง อยากให้จับตัวไปดำเนินคดีให้เข็ด รักษาให้หาย กลัวว่าจะเกิดเหตุรุนแรงมากกว่านี้

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments