เมื่อเวลา 11.00 น วันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ขณะที่ พ.ต.ต.ธนนท์ ศรีกงพาน สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี นำลังออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ รับแจ้งจากพระอาจารย์ งี ธรรมโรจโน อายุ 50 ปี พระลูกวัดทิพย์รัฐนิมิตร (บ้านจิก) ชุมชนบ้านจิก ถ.นเรศวร เทศบาลนครอุดรธานี ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา (1 พ.ย.65) มีคนร้ายเป็นชายเข้ามาก่อเหตุลักอุ้มตู้บริจาคบุญกฐินสามัคคี ที่ตั้งอยู่หน้าองค์พระประธานภายในหอฉัน เหตุเกิดเวลา 20.50 น. โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเอาไว้ได้ จึงออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบพระอาจารย์ งีฯ และลูกวัด พร้อมด้วยลูกศิษย์ นำชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่วางตู้บริจาคให้ญาติโยมได้ร่วมสมทบงานบุญกฐินสามัคคีกับทางวัดฯ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 7 พฤศจิกายน นี้ เป็นตู้บริจาคเหล็กสีเหลือง ความสูง 40 ซม. กว้าง 70 ซม. ข้างในมีเงินที่ญาติโยมร่วมทำบุญประมาณ 2 หมื่นบาท เนื่องจากตั้งไว้ประมาณ 1 เดือน เปิดกล้องวงจรปิดดูพบคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 40-50 ปี รูปร่างสันทัด ตัดผมรองทรงสั้น สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขาสามส่วน ไม่สวมรองเท้า ย่องเข้ามาทางด้านข้างหอฉัน เปิดประตูเข้าไปยกเอาตู้บริจาคหลบหนีไป โดยใช้เวลาก่อเหตุราว 1 นาที
พระอาจารย์ งี ธรรมโรจโน เปิดเผยว่า เช้าวันนี้หลังจากฉันเช้าเสร็จ มีลูกศิษย์วัดมาบอกว่า ตู้รับบริจาคงานบุญกฐินของวัดหายไป จึงมาเปิดกล้องวงจรปิดทั้งข้องนอกและข้างในหอฉันดู พบคนร้ายเดินย่องและย่อตัวก้มหน้าเข้ามาด้านข้างหอฉัน เหมือนพยายามจะหลบมุมกล้องไม่ให้เห็นหน้าชัด หลังจากเห็นตัวคนร้ายเข้ามาก่อเหตุแล้ว จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ พร้อมกับนำหลักฐานคลิปภาพขณะคนร้ายก่อเหตุ เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
”ฝากถึงคนร้าย อย่าหาทำอย่างนี้อีก และให้นำเงินมาคืน เพราะเป็นเงินที่ญาติโยมร่วมบริจาคทำบุญกฐินสามัคคีกับทางวัด เพื่อให้ทางวัดและพระสงฆ์ใช้ทำนุบำรุงวัด และมันจะส่งผลเป็นบาปเป็นกรรมอย่างหนัก หากขโมยเงินหรือทรัพย์สินส่วนตัวของพระสงฆ์ก็เป็นบาปกรรมหนักแล้ว แต่ครั้งนี้มาขโมยเงินส่วนกลางของทางวัด ยิ่งบาปกรรมหนักขึ้นไปอีก หรือบาปหนักหลายเท่า หากคนร้ายคิดได้แล้วนำมาคืน ทางวัดก็ไม่อยากเอาเรื่อง แต่อาตมาคิดว่าคนร้ายคงไม่นำมาคืนอย่างแน่นอน”
พระอาจารย์ งี ธรรมโรจโน เปิดเผยต่อว่า คนร้ายที่ก่อเหตุ ชอบเข้ามาในวัดประจำ และเคยก่อเหตุพยายามขโมยทรัพย์สินของพระลูกวัดมาแล้ว 3 ครั้ง ภายใน 2 เดือน แต่ลูกศิษย์วัดเห็นก่อน คนร้ายจึงหยุดและเดินออกจากวัดไป คนร้ายมักจะเข้ามาก่อเหตุในวัดในช่วงเย็น แต่ครั้งนี้เข้ามาเวลากลางคืน โดยก่อเหตุอย่างไม่กลัวบาปกรรมเลย แม้แต่น้อยนิด….
