ทีมข่าวเดินทางไปที่แผงขายขนมเบื้อง “ป้าน้อย” และขนมถังแตก “ลุงสมคิด” ตั้งอยู่หน้าประตูระบายน้ำ สี่แยกสะพานดำ ถ.ธรรมเจดีย์ ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี มีนางสมัย ตงทอง หรือป้าน้อย และนายสมคิด ตงทอง หรือลุงสมคิด อายุ 55 ปี สามีภรรยาที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำขนมเบื้องไส้ทะลัก และขนมถังแตก ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน 30 กว่าปี ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขกันทั้งสองคน โดยมีลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำ ขับรถยนต์ สามล้อเครื่อง และรถจักรยานยนต์ มาจอดสั่งซื้อขนมกลับไปกินและฝากคนที่บ้าน
ขนมเบื้องไส้ทะลัก ขนมถังแตก ของป้าน้อยและลุงสมคิด อร่อยระดับตำนานของเมืองอุดรธานี ราคาเพียงกล่องละ 25 บาทเท่านั้น ขนมเบื้องมี 2 ไส้ให้เลือก มีไส้หวานและเค็ม ทั้งแบบไส้ทะลักและไส้บางตามสูตรดั้งเดิม ไส้ทะลักจะได้กล่องละ 8 ชิ้น ส่วนไส้บางจะได้ 13 ชิ้น/กล่อง เช่นเดียวกับขนมถังแตก ที่ทำจากแป้งสีขาวสูตรดั่งเดิมที่ปรุงร้อนๆจากเตา โรยด้วยน้ำตาลทรายผสมงาดำ ชอบหวานมากหรือน้อยก็ตามใจลูกค้าสั่ง ตามด้วยเนื้อมะพร้าวขุดฝอย จะได้รสชาติที่หวานมันลงตัวและอิ่มท้อง หรือจะทานเป็นของว่างก็ไม่ว่ากัน
นางสมัย ตงทอง หรือป้าน้อย เปิดเผยว่า สูตรขนมเบื้องได้มาจากเพื่อน เมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ลองผิดลองถูกมาจนกลายเป็นสูตรของตนเอง ยึดอาชีพนี้มาจนส่งลูกสาวเรียนจบระดับปริญญาตรีทั้ง 3 คน ลูกสาวคนโตจบวิศวะเคมี ม.ขอนแก่น คนที่สองจบวิศวะไฟฟ้ายานยนต์ ม.ขอนแก่น และคนที่สามจบอักษรศาสตร์ ม.จุฬาฯ และลูกทุกคนบอกให้พ่อและแม่เลิกขายขนม ให้พากันอยู่บ้านเลี้ยงหลาน แต่เราก็ไม่อยากรบกวนลูก เพราะเรี่ยวแรงของพวกเรายังพอมียังพอหาเงินเลี้ยงตัวเองได้
เมื่อก่อนขายได้วันละ 3-4 พันบาท ตั้งแต่มีโควิดระบาดรายได้หายไปกว่าครึ่ง บางวันใกล้เวลาปิดร้านก็ทั้งแจกทั้งแถมให้ลูกค้า เพราะลูกค้าคือเจ้านาย ไม่มีลูกค้ามาอุดหนุนก็ไม่มีความสุขมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงจะมีอุปสรรคอย่างไรใจของพวกเราก็ยังสู้ จะให้เปลี่ยนอาชีพไปขายก๋วยเตี๋ยวก็คงไม่ใช่ เพราะขายมานานจนมีลูกค้าประจำ และฝากถึงคนที่อยากกินขนมเบื้อง และขนมถังแตกที่อร่อยในระดับตำนาน ที่ขายมาตั้งแต่ลูกค้าเรียกว่าพี่จนขณะนี้เรียกป้าและยายแล้ว ขอเชิญแวะได้ที่แผงขนมเบื้อง-ถังแตก ป้าน้อยสะพานดำ เปิดให้บริการตั้งแต่ 07.30-16.30 น. และหยุดทุกวันพุธ”
ด้าน นายสมคิด ตงทอง หรือลุงสมคิด เปิดเผยว่า ขนมถังแตกเดิมทีเป็นสูตรของแม่ที่ทำขายเมื่อประมาณ 70 ปีที่ผ่านมา และเป็นมรดกตกทอดมาจนถึงรุ่นลูก และตนเองจะยึดอาชีพทำขนมถังแตกสูตรของแม่ไปจนกว่าจะหมดแรงและทำขายไม่ได้ เพราะกลัวลูกค้าจะไม่ได้กินขนมถังแตกอร่อยๆ เมื่อก่อนตนและภรรยาลำบากมาก เพราะต้องขายขนมส่งลูกสาวเรียนถึง 3 คน จนลูกๆเรียนจบและมีได้ทำงานที่พวกเขารักและชอบ ทำให้ตนและภรรยารู้สึกภาคภูมิใจและมีความสุขมากในขณะนี้
