วันอังคาร, เมษายน 30, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมป.ป.ส.ติวเข้มยุคฟอกเงินผ่านบิทคอยท์

ป.ป.ส.ติวเข้มยุคฟอกเงินผ่านบิทคอยท์

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ห้องประชุมทุ่งศรีเมืองแกรนด์บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมเซนทาราคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ อ.เมือง จ.อุดรธานี นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด โดยมีผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัด รองผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัด ตํารวจภูธรจังหวัดชุดปฏิบัติการสืบสวนขยายผลคดียาเสพติด ตํารวจ ปราบปรามยาเสพติด สังกัดกองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด พนักงานอัยการภาค 4 พนักงานอัยการ ตํารวจตระเวนชายแดน ภาค 2 เจ้าพนักงานปกครองในสังกัดทั้ง 12 จังหวัด รวม 100 คน เข้าร่วมโครงการฯ

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า แผนปฏิบัติการ พ.ศ.2564 เน้นเรื่องการสืบสวนขยายผลทําลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดทุกระดับ ตัดวงจรทางการเงิน ยึดทรัพย์สิน กลุ่มการค้ายาเสพติดไม่ให้นําเงินมาเป็นทุนในการค้ายาเสพติด หรือขยายธุรกิจผิดกฎหมายต่าง ๆ โดยเน้นบูรณาการ การบังคับใช้กฎหมายของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามหลักนิติธรรม ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายในการดําเนินงานไปแล้ว เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 สําหรับในปี 2564 ได้กําหนดเป้าหมาย การขยายผลและยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด 10 เท่า หรือคิดเป็น มูลค่าทรัพย์สิน 6,000 ล้านบาท เพื่อให้การดําเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

อีกเรื่องคือโครงการด้านยาเสพติดของสหประชาชาติ ได้ให้การสนับสนุนในเรื่อง การสืบสวนหาแหล่งเงินทุนดิจิตอลหรือบิทคอยท์ ซึ่งก็จะมีการเพิ่มเติมทักษะด้านนี้เพิ่มเข้าไปประมาณเดือนพฤษภาคมนี้ โดยจะส่งรายชื่อเข้าร่วมอีกครั้ง ตอนนี้ผู้ค้ายาเสพติดได้เปลี่ยนการถือทรัพย์สินจากเดิมที่นำเงินไปฝากธนาคารแล้วเปลี่ยนเป็นสิ่งของ รถยนต์ หรืออสังหาริมทรัพย์ ตอนนี้มีรายงานว่าเงินสกุลดิจิตอลเข้ามาเป็นเส้นทางฟอกเงินมากขึ้น ในอนาคตจะเป็นเส้นทางซุกซ่อนเงินเราก็ต้องตามให้ทัน

ส่วนเรื่องยึดทรัพย์สินปีนี้ที่ทางรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายไว้ 6,000 ล้านบาท ที่ผ่านมาเราตามยึดได้น้อยมาก เพียงแค่ 600 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณแต่ละปีที่ต้องใช้จ่ายด้านการปราบปรามยาเสพติดสูงถึงปีละ 2,000 ล้านบาท หากเป็นบริษัทก็ขาดทุน และตอนนี้ได้มีการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการปราบปรามยาเสพติด ก็คือการยึดทรัพย์สินก็จะแยกเป็นส่วนคดียึดทรัพย์และคดีอาญา แม้คดีอาญาจะหยุด อัยการสั่งไม่ฟ้อง หรือศาลยกฟ้อง ถ้าคดีทรัพย์มีเหตุที่เป็นเงินจากยาเสพติดก็ต้องยึด รวมถึงการตรวจยึดที่จะคิดตามมูลค่าของการค้ายาเสพติด จะยึดทรัพย์ในครอบครองตามการคำนวณมูลค่าการค้ายาเสพติดและระยะเวลาการกระทำความผิด แม้จะเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากแหล่งอื่น ต้องบังคับคดีให้ได้ตามมูลค่าจริง

นั่นก็หมายความว่าการสืบสวนต้องหาหลักฐานมาชี้มูลต่อศาลให้ได้ว่ามีการค้ายาเสพติดมานานกี่ปี มีเส้นทางอย่างไร ถือเป็นการทำงานที่เข้มข้นมากขึ้น อีกประเด็นคือการปรับเปลี่ยนรางวัลนำจับยาเสพติด ทั้งยาบ้าและยาไอซ์ จากเดิมไม่เกิน 2 ล้านบาท ตอนนี้ปรับลดลงเหลือ 5 แสนบาท เช่น ยาบ้า จากเดิมเราจะจ่ายเงินรางวัลให้เม็ดละ 2 บาท ก็ปรับเหลือเม็ดละ 50 สตางค์ เนื่องจากปัจจุบันยาบ้าราคาถูกลงเป็นอย่างมาก จึงไม่สมเหตุสมผลในการจ่ายเงินรางวัล และต่อไปหากจับกุมยาเสพติดแต่ไม่ได้ผู้ต้องหาจะไม่จ่ายเงินรางวัลจากเดิมที่จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งต่อไปจะต้องสืบสวนขยายผลถึงต้นตอให้ได้ การทำงานจะต้องสำเร็จในทุกขั้นตอนและกระบวนการ….

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments