เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน 2563 นายอรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. , นายวุฒิไกร ศักดิ์สุรกานต์ ที่ปรึกษา สปสช.8 ตรวจติดตามการปฏิบัติหน้าที่ด่านคัดกรองประชาชนเดินทางข้ามจังหวัด ที่ด่านคัดกรองหน้า อบต.หนองหาน ถ.นิตโย อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยมีนายธวัชชัย ศรีทอง รอง ผวจ.อุดรธานี นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี นายอำเภอหนองหาน นำคณะทำงาน เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครประจำด่าน ชี้แจงตอบข้อซักถาม ก่อนดูขั้นตอนการคัดกรอง
นายอรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ได้กล่าวขอบคุณให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร ที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ คัดกรองผู้คนเดินทางมายาวนาน จนสถานการณ์การระบาดลดลง และขอให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ระบาดรอบ 2 การคัดกรองอย่างถูกต้องเข้มงวด จะทำให้อุดรธานีพ้นจากการระบาดได้
นายธวัชชัย ศรีทอง รอง ผวจ.อุดรธานี ระบุว่า อุดรธานีมีกลุ่มเสี่ยงเดินทางกลับกว่า 44,500 คน จากต่างประเทศ 5,100 คน มากที่สุดเกาหลีใต้ มาจากในประเทศ 39,400 คน ส่วนใหญ่กักตัวอยู่ที่บ้านยังเหลือกักตัวอีก 401 คน ส่วนได้กักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ ที่อุดรธานีเรียกว่า “ค่ายฮีโร่” 570 คน โดยภาคเอกชนเสนอให้ใช้โรงแรม 2 แห่ง แต่ได้ใช้หอพักของ มรภ.อุดรธานี ขณะนี้ค่ายฯได้ปิดตัวเองแล้ว
“ ในการคัดกรองผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ได้ตั้งด่านคัดกรองถนนสายหลัก 4 ด่าน ถนนมิตรภาพ อ.โนนสะอาด เส้นทางจาก จ.ขอนแก่น , ถนนมิตรภาพ อ.เพ็ญ เส้นทางจาก จ.หนองคาย , อ.หนองวัวซอ เส้นทางหนองบัวลำภู-อุดรธานี และด่านที่ อ.หนองหาน เส้นทางสกลนคร-อุดรธานี ข้อมูลคัดกรองจะถูกส่งไปอำเภอ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ และ อสม. ติดตามลงไปแนะนำ การกักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน แม้ขณะนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศมากกว่า 28 วันแล้ว แต่มาตรการตั้งด่านยังคงมีอยู่ ”
สำหรับการคัดกรองรถที่มาจาก จ.สกลนคร จะเรียกเฉพาะรถทะเบียนต่างจังหวัด ไม่เรียกรถทุกคันเหมือนเดิม เพื่อเข้ารับการคัดกรอง ที่เรียกตรวจจะจอดชิดข้ามทาง คนขับและผู้โดยสารจะต้องลงจากรถ ผ่านการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เข้ารับการตรวจวัดอุณหภูมิ ที่มีชิลพสาสติกใสกั้นกับเจ้าหน้าที่ ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 35-7.5 องศาเซลเซียส จะให้กลับขึ้นรถยกเว้นโชเฟอร์ จะต้องไปทำบันทึกกับเจ้าหน้าที่ ส่วนใครอุณหภูมิเกินจะให้ไปพัก ซึ่งพบขณะตรวจ 1 ราย ก่อนกลับมาตรวจซ้ำและผ่าน ถ้าไม่ผ่านจะนำส่งโรงพยาบาล
นายอรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. เปิดเผยว่า ที่ด่านตรวจ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ทำได้ดีน่าพอใจมาก ซึ่งจากการเดินทางไปในหลายพื้นที่ พบว่าแต่ละพื้นที่มีจุดเด่นและจุดด้อยต่างกัน หากอุดรธานีเปรียบเทียบกับภูเก็ต เหมือนกันคือภูเก็ตมีชาวต่างชาติ อุดรธานีมีแรงงานกลับจากต่างประเทศ , ภูเก็ตสามารถปิดสนามบิน และปิดถนนเพียงจุดเดียว ก็ปิดกั้นคนเข้าออกได้ เมื่อปิดแล้วก็ควบคุมพื้นที่ภายใน แต่อุดรธานีมีหลายเส้นทางเข้า-ออก ซึ่งอุดรธานีก็มีจุดเด่นเรื่องของความร่วมมือ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งความร่วมมือในระดับชุมชน
ขณะการพูดคุยมีความเป็นห่วงว่า หลังจากปลดล็อคกิจกรรม ประชาชน “การ์ดตก” ไม่ทำตามมาตรการรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข จนน่าเป็นห่วงการระบาดในรอบที่ 2 หากเกิดขึ้น จะมีความรุนแรงหลายเท่า เนื่องจากคนไทยยังไม่มีภูมิคุ้มกัน…