ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2563 นางมณี บุญรอด แกนนำกลุ่มอนุรักษ์อุดรธานี พร้อมสมาชิกต่อต้านเหมืองแร่โพแทช กว่า 100 คน เดินทางมารวมตัวที่บันใดทางขึ้นอาคาร 1 ศาลากลาง จ.อุดรธานี เพื่อขอเข้าพบและยื่นหนังสือกับนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี สอบถามสาเหตุที่อุตสาหกรรมพื้นและการเหมืองแร่ และอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี ไม่ไปชี้แจงชาวบ้านตามนัดในพื้นที่เมื่อวานนี้ (12 มีนาคม 2563)
แต่เนื่องจากนายนิรัตน์ฯ ผวจ.อุดรธานี ติดภารกิจในการเป็นประธาน เปิดกิจกรรมทำความสะอาดเมือง “อุดรธานี คลีน” ถนนเฉลิมพระเกียรติ (ทหาร) และเปิดประชุมกระตุ้นเศรษฐกิจ “ประชุมเมืองไทยภูมิใจช่วยชาติ”.มอบหมายให้ นายธนารักษ์ พิทักษา ตัวแทน สนง.อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี เดินทางมารับหนังสือแทน และชี้แจงเหตุผลไม่ได้ไปชี้แจงตามนัดหมาย เนื่องจากผู้ที่จะต้องเดินทางไปชี้จงด้วยตนเอง ต้องเดินทางไปงานศพมารดาด่วน
นางมณี บุญรอด เปิดเผยว่า กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ได้คัดค้านการทำกรอบว่าด้วยเรื่องการจัดประชุมคณะกรรมการปรึกษาเบื้องต้น และขอคัดสำเนาเอกสาร ลำดับที่ 3 และ 4 เพราะจากการต่อสู้ของชาวบ้าน จนได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง จนศาลฯมีคำสั่งออกมาแล้ว กับการขอประทานบัตรเหมือนแร่ใต้ดิน ของ บ.เอเชีย แปซิคฟิค โปแตช คอร์เปอร์เรชั่น จก. จะต้องดำเนินการใหม่ตาม พรบ.แร่ ปี 2560 แต่กลับมีการตั้งกรรมการฯนี้ขึ้นมา
“ เราได้สอบถาม ผวจ.อุดรธานี ถึงขั้นตอนการขอประทานบัตรตาม พรบ.แร่ 2560 มีหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาอย่างไร , การดำเนินการขอประทานบัตรถึงไหน , สำเนาคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาฯ และรายงานการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาฯ จนเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธุ์ 2563 จังหวัดอุดรธานี โดยอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี นัดหมายจะไปชี้แจงชาวบ้านในพื้นที่วานนี้ (12 มีนาคม 2563) แต่กลับไม่ไปตามนัด โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทำให้ชาวบ้านรอเก้อ ”
นางมณี บุญรอด กล่าวด้วยว่า กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ฟ้องต่อศาลปกครองอุดรธานีว่า รายงานการใต้สวนเพื่อขอประทานบัตร ไม่ได้ทำตามขั้นตอน และไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งศาลปกครองมีคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2561 ว่าการไต่สวนไม่ถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งถือเป็นสาระสำคัญ ทำให้กระบวนการอื่นไม่ถูกด้วย การจะขอประทานบัตรจะต้องเริ่มใหม่ เราทวงถามเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว….