วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
Google search engine
หน้าแรกสังคม15 ปีไร้แววอัฐิ“สตรีแห่งขุนเขา”กลับไทย

15 ปีไร้แววอัฐิ“สตรีแห่งขุนเขา”กลับไทย

รองผู้ว่าอุดรฯนำ ขรก.เยี่ยม พ่อแม่ “สตรีแห่งขุนเขา เจ้าสาวชาวเอเชีย” ถูกฆาตกรรมเป็นศพนิรนามกว่า 14 ปี แม้ ดีเอ็นเอ.ยืนยันมากว่า 1 ปี แต่ยังนำเถ้าอัฐิกลับบ้านเกิดได้ ขอ“บัวแก้ว”ทวงถามความคืบหน้า ถ้าไม่ชัดเจนอาจจะพาตายายบินไปเอง

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 30 มกราคม 2563 นายปราโมทย์ ธัญญพืช รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี พร้อมนายณฐพล วิถี นายอำเภอเพ็ญ , ยุติธรรม จ.อุดรธานี , พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี และหน่วยหนังสือเดินทาง จ.อุดรธานี เดินทางพบกับนางจูมศรี นายบัวสา สีกันยา อายุ 73 และ 76 ปี ที่บ้านโพน ม.4 ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ พ่อแม่ของนางลำดวน อาร์มิเทจ หรือสีกันยา “สตรีแห่งขุนเขา เจ้าสาวชาวไทย” เพื่อเยี่ยมในกำลังใจ แจ้งความคืบหน้า และรับฟังความต้องการ นำอัฐิบุตรสาวกลับประเทศไทย

นางจูมศรี นายบัวสา สีกันยา กล่าวว่า ตามหาลูกมากว่า 15 ปี เมื่อรู้ว่าลูกสาวตายแล้ว ถูกฝังที่อังกฤษเป็นศพไร้ญาติ สิ่งที่อยากได้คือเถ้าอัฐิ กลับมาทำบุญตามประเพณีอีสาน เรื่องคดีให้ตำรวจอังกฤษว่ากันเอง ญาติพี่น้องรอมานานแล้ว ไม่มีใครติดต่อแจ้งความคืบหน้า ทุกคนจึงรู้สึกหมดหวัง ตัดสินใจทำบุญไปแล้ว ไม่ให้ลูกเดือดร้อนอดอยาก ตั้งใจว่าจะปักหลักรอที่บ้าน เงินทองก็ไม่มีจะไปตาม อายุก็มากไม่แข็งแรง อยากรู้ทำไมเอากลับมาไม่ได้ และอีกนานแค่ไหนจะได้มา

ตัวแทนจากยุติธรรม จ.อุดรธานี, พมจ.อุดรธานี และหน่วยหนังสือเดินทาง จ.อุดรธานี ร่วมชี้แจงว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคมปีก่อน สองตายายร้องขอให้ตามหาบุตรสาว หายไปขณะอยู่ในอังกฤษ มีความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ.) และตำรวจอังกฤษ สรุปว่าศพหญิงสาวถูกฆาตกรรม ในอุทยานแห่งชาติยอร์คเชียร์ ที่พบเมื่อ 20 ก.ย.2547 เป็นศพนางลำดวนฯ

เครือข่ายภาคีสตรีไทย ในสหราชอาณาจักร ได้เข้ามาประสานงานรับบริจาค เป็นค่าใช้จ่ายนำอัฐิกลับประเทศไทย แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะอยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งอาจจะทำให้เสียรูปคดี รวมทั้งเงินบริจาคก็กระทบด้วย ทั้งหมดเป็นกฎหมายอังกฤษ สอบถามก็ได้ข้อมูลไม่มากนัก ภาครัฐของไทยจะเยียวยาช่วยเหลือก็ไม่ได้ พรบ.เยียวยาฯไม่รวมคนไทยในต่างประเทศ ดีเอสไอ.แจ้งไว้เพียงว่าให้รอเท่านั้น จะขอกระทรวงต่างประเทศถามความคืบหน้าคดีอีกทาง

นายณฐพล วิถี นายอำเภอเพ็ญ กล่าวว่า ที่ผ่านมาอำเภอเพ็ญ และ ทต.บ้านธาตุ ได้จัดเจ้าหน้าที่ออกมาเยี่ยม เพราะห่วงเรื่องมิจฉาชีพ จะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ สองตายายก็โทรปรึกษาตนเองบ่อยๆ รวมทั้งการเดินทางมาของหน่วยงานรัฐ บางครั้งเราอยากจะรับทราบข้อมูลด้วย เหมือนจะพยายามหลีกเลี่ยง เมื่อเวลาล่วงเลยมานาน และยังไม่มีความชัดเจนเอาเถ้าอัฐิกลับมา เป็นไปได้หรือไม่จะพาสองตายาย ไปหลุมศพลูกสาวในอังกฤษ

นายปราโมทย์ ธัญญพืช รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กล่าวสั่งการว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือสองตายาย เริ่มจากสิทธิที่ควรจะได้รับช่วยเหลือ หรือเยียวยาในส่วนไหนบ้าง , ขอให้ประสานไปยัง ดีเอสไอ.ขอรับทราบความคืบหน้า ที่มีการประสานกับตำรวจอังกฤษ และหน่วยหนังสือเดินทาง หาช่องทางให้กระทรวงการต่างประเทศ สอบถามความคืบหน้าของคดีมาแจ้ญาติ และเห็นด้วยกับขอเสนอนายอำเภอเพ็ญ เมื่อเถ้าอัฐิกลับมาเมืองไทยไม่ได้ ก็พาสอบตายายไปหาลูกที่อังกฤษ จะลองไปหาผู้ใหญ่ใจดีซักคนมาช่วย

“ สองตายายอายุมากแล้ว บุตรสาวมีปัญหาสุขภาพจิต หลานสาวไม่ได้เรียนต่อ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแล ทั้งเรื่องสุขภาพ การศึกษา และอาชีพ มีหลายเรื่องที่เป็นบทเรียน จะต้องนำเสนอให้มีการปรับปรุง อาทิ เวลาที่คนอังกฤษหรือชาติอื่น มาเสียชีวิตที่บ้านเรา ทั้งกงสุล ทั้งสถานทูต ต่างวิ่งชนภาครัฐเราต่อเนื่อง เรื่อง พรบ.เยี่ยวยา การดูแลไม่ครอบคลุมคนไทยในต่างประเทศ จะต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ ”

นางจูมศรี สีกันยา ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวว่า ถ้ายังไม่รู้ว่าเถ้าอัฐิลูกสาว จะกลับมาถึงประเทศไทยตอนไหน หรือไม่รู้ว่าจะได้หลับมาหรือไม่ ถ้ามีใครจะพาไปหลุมศพลูกสาว ก็อยากจะเดินทางไป เพื่อเชิญดวงวิญญาณกลับมาบ้านเรา…

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments