สมาชิกสถาบันการเงินชุมชน ต.สุมเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี แจ้งความจับครูผู้บริหารโกงจนถูกฟ้อง แฉพฤติกรรมแปลกชวนสมัครเป็นสมาชิก ซื้อฌาปนกิจ 3 พันบาท ได้รับสิทธิกู้เงินเพื่อบริโภคจากธนาคารออมสิน 1.5 แสนบาท ต้องแบ่งให้สถานกู้ครึ่งหนึ่ง ผ่านไป 3 ปีชาวบ้านทยอยถูกฟ้องแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2562 ที่ สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี นายธวัชชัย ปางสุข อายุ 50 ปี ช่างรับเหมารายย่อย ต.สุมเส้า อ.เพ็ญ , นางสมจิตร์ ผิวอ่อน ราษฎร ต.สุ่มเส้า อ.เพ็ญ พร้อมชาวบ้านรวม 20 ราย เข้าพบเพื่อแจ้งความกับ พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ บุญโชติ รอง ผกก.สส. รักษาราชการ ผกก.สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ให้ดำเนินคดีกับ “สถาบันการเงินเครือข่าย กทบ.ตำบลสุมเส้า” สนง.ตั้งอยู่ที่ บ.หนองไฮ ต.สุมเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี
โดยนำเอกสารใบเสร็จรับเงิน ของสถาบันการเงินเครือข่าย กทบ.ตำบลสุมเส้า , สมุดเงินฝากองค์กรการเงินชุมชน สนับสนุนโดย ธนาคารออมสิน , บัตรสมาชิกสงเคราะห์ชีวิต (ฌาปนกิจ) สถาบันการเงินเครือข่าย กทบ.ตำบลสุมเส้า และหมายเรียกศาลแขวงอุดรธานี นัดให้ไปไกล่เกลี่ย กับธนาคารออมสิน สาขา อ.เพ็ญ อุดรธานี , บัญชีรายชื่อผู้ถูกธนราคารออมสินฟ้องร้อง และบันทึกข้อมูลการเงินของแต่ละคน มาแสดงเป็นหลักฐาน
นางสมจิต ผิวอ่อน ราษฎรบ้านหนองบัวบาน ต.สุ่มเส้า อ.เพ็ญ เปิดเผยว่า ได้รับการชักชวนจากสถาบันการเงินเครือข่าย กทบ.(กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง) ตำบลสุมเส้า ให้ไปกู้เงิน(เพื่อการบริโภค)จากธราคารออมสิน 150,000 บาท โดยจะต้องสมัครเป็นสมาชิก สถาบันการเงินเครือข่าย กทบ.ตำบลสุมเส้า และซื้อฌาปนกิจกับสถาบัน 3,000 บาทก่อน โดยมีข้อตกลงจะต้องให้สถาบันฯกู้เงิน 75,000 บาท จะให้ดอกเบี้ย 2 เปอร์เซ็นต์ และผ่อนชำระเงินต้น และดอกเบี้ย ให้กับธนาคารออมสิน
“ ก่อนสิ้นปีก็จะเอาเงินไปจ่ายสถาบันฯ 19,000 บาท สถาบันฯก็จะต้องสมทบเท่ากัน เอาไปส่งให้ธนาคารออมสิน 2 ปีแรกไม่มีปัญหา มาถึงปีที่ 3 ก็เอาเงินไปส่งเช่นเคย มารับแจ้งภายหลังว่า สถาบันฯไม่ได้เอาเงินไปส่ง ธนาคารก็มาทวงหนี้ชาวบ้าน จนธนาคารมาประชุมร่วมกับสถาบันฯ และชาวบ้าน ฉันยอมปรับโครงสร้างผ่อนชำระ 2,000 บาทต่อเดือน โดยสถาบันฯจะเป็นคนจ่ายให้ ธนาคารฯก็รับรู้เรื่องมาตลอด แต่มีหลายศาลวันที่ 21 ส.ค.62 ส่งมาบ้าน ให้ไปพบศาลวันที่ 22 ต.ค.นี้ ”
นางสมจิต ผิวอ่อน กล่าวต่อว่า การกู้เงินจะต้องค้ำกันเอง 3 คน ไม่มีหลักทรัพย์ไปค้ำประกัน ที่เชื่อว่าจะไม่เดือดร้อน เพราะมีธนาคารออมสินรู้เห็นตลอด มีครูอาจารย์เป็นคนดูแลสถาบันฯ หนี้สินก็ส่งตามที่ตกลงกัน แต่สถาบันฯไม่เอาไปส่งใช้หนี้ให้ เมื่อมีหมายศาลมาที่บ้าน กินไม่ได้นอนไม่หลับ อยากจะลงน้ำให้จมตายไปเลย เพื่อนๆที่ค้ำกันก็ถูกหมายศาลทุกคน ยังมีคนอื่นอีกที่น่าจะถูกฟ้อง ตามบัญชีรายชื่อราว 60 คน
นายธวัชชัย ปางสุข อายุ 50 ปี ช่างรับเหมารายย่อย ต.สุมเส้า อ.เพ็ญ เปิดเผยว่า ครูอาจารย์ที่ร่วมกันก่อตั้ง สถาบันการเงินเครือข่าย กทบ.ตำบลสุมเส้า เรียกโครงการนี้ว่า “กองทุนบุญ” มีสมาชิกราว 150 คน เอาเงินไปลงทุนที่สถาบันคนละ 75,000 บาท สถาบันฯก็เอาไปลงทุนโรงน้ำดื่ม , ปล่อยเงินกู้ และอื่นๆ ผ่อนไป 2 ปีแรกไม่มีปัญหา มาเกิดปัญหาในปีที่ 3 ไม่เอาเงินไปส่งธนาคาร และเงินฌาปนกิจก็มีปัญหา
“ ธนาคารออมสินรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ต้น จนมีการประชุมไกล่เกลี่ย ชาวบ้านแบ่งเป็น 2 กลุ่มๆแรกต้องการปลดหนี้ทั้งหมด เพื่อจะได้ตัดปัญหายืดเยื้อทิ้ง แต่ติดปัญหาที่สถาบันฯไม่มีเงิน , กลุ่มที่สองปรับโครงสร้างหนี้ เปลี่ยนจากผ่อนชำระรายปี มาเป็นผ่อนชำระรายเดือน ก็มีการตกลงเดือนละ 2-4,000 บาท ขณะที่ผู้บริหารสถาบันตกลงว่า จะรอเอาเงินเกษียณฯ ที่จะถึงอีกไม่กี่วันมาใช้หนี้ แต่ธนาคารฯก็มาฟ้องชาวบ้าน ทำให้เกิดข่าวลือไปต่างๆนาๆ วันนี้ส่วนหนึ่งจึงมาแจ้งความ ก่อนผู้บริหารจะเกษียณฯ ”
พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ บุญโชติ รอง ผกก.สส. รักษาราชการ ผกก.สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า วันนี้ได้สอบปากคำชาวบ้าน ว่าจะเข้าองค์ประกอบความผิด ฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ ส่วนหนึ่งมีการหลอกลวง ให้เราไปกู้เงินจากธนาคาร แล้วเอาเงินไปลงทุนจริง หรือเอาไปใช้ในส่วนอื่น ในส่วนที่สองเรื่องเงินฌาปนกิจ อ้างว่าถ้าไม่ทำฌาปนกิจ 3,000 บาท ก็จะไม่สามารถกู้เงินได้ และการทำฌาปนกิจถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ก็จะต้องว่าไปตามกฎหมาย
“ ส่วนที่สามการที่สมาชิกเอาเงินไปฝาก แล้วไปขอถอนกลับไม่ให้ถอน จะเป็นการยักยอกหรือไม่ ส่วนที่สี่การที่ชาวบ้านเอาเงินไปชำระ ให้ธนาคารฯผ่านสถาบันฯ แต่ไม่มีการนำไปชำระเป็นการยักยอกหรือไม่ อยู่ที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ก็จะมีการเรียกตัวสถาบัน หรือตัวแทนมาให้ปากคำ โดยมีการติดต่อไปสถาบันแล้ว รับปากจะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนพรุ่งนี้ (22 ก.ย.62) หากไม่มีก็จะออกหมายเรียกเป็นทางการ ”
