17 สมาชิกสหกรณ์การเกษตรเมืองอุดร ร้องศูนย์ดำรงธรรมสอบสหกรณ์ฯ ปล่อยลูกสองผัวเมีย จนท.โกงสมาชิกกว่า 10 ล้าน ก่อนพบตำรวจแจ้งจับฉ้อโกง ตร.เร่งสอบแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน ขณะประธาน-ผู้จัดการสหกรณ์ ระบุเป็นเรื่องส่วนตัว
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 ธันวาคม 2561 นายประภาชัย เสือพาดกอน อายุ 31 ปี อยู่เลขที่ 4 ม.4 บ้านโพนบก ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมสมาชิกสหกรณ์การเกษตร อ.เมืองอุดรธานี 9 คน เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ขอให้ตรวจสอบสหกรณ์การเกษตร อ.เมืองอุดรธานี ในการใช้ตำแหน่งและอำนาจหน้าที่ ของนายประมวลศักดิ์ อดทน พนักงานฝ่ายสินเชื่อสหกรณ์การเกษตรอำเภอเมืองอุดรธานี และนางไพรัชยา อดทน อดีตพนักงานการเงิน สหกรณ์การเกษตร อ.เมืองอุดรธานี สองสามีภรรยา เอื้อต่อการฉ้อโกงเงินสมาชิกมากกว่า 8 ล้านบาท
ต่อมาเวลา 13.00 น. วันเดียวกันนายประภาชัย เสือพาดกอน พร้อมผู้เสียหาย เดินทางมายัง สภ.เมืองอุดรธานี พบ ร.ต.อ.ธิตินันท์ ศรีเชียงหวาง รอง สว.ส.สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนางไพรัชยา อดทน และนายประมวลศักดิ์ อดทน สองสามีภรรยาในข้อหาฉ้อโกง โดยระบุว่ามีผู้เสียหายรวมตัว 17 ราย ถูกฉ้อโกงเงินไปรวม 8 ล้านบาทเศษ วันนี้เดินทางมาก่อน 9 ราย ขณะยังมีผู้เสียหายยังไม่กล้าแสดงตัวอีก
นายประภาชัย เสือพาดกอน กล่าวว่า แม่ถูกฉ้อโกง 500,000 บาท เมื่อตรวจสอบพบผู้เสียหายมีมาก โดยกลุ่มผู้เสียหายจะเข้าแจ้งความ 17 คน แยกเป็น 2 กรณีเกิดมาตั้งแต่ปี 58 กรณีแรก สองสามีภรรยาจะไปหาสมาชิกที่บ้าน ชักชวนให้สมาชิกนำหลักทรัพย์มากู้เงิน แล้วจะเอาเงินที่ได้มาไปลงทุนให้ กรณีที่สอง สมาชิกที่มาขอเงินกู้กับสหกรณ์ จะได้รับการติดต่อเพิ่มยอดเงินกู้ นำเงินส่วนเกินมาลงทุนให้ จะได้ค่าตอบแทนเป็นดอกเบี้ย และยังจะจ่ายดอกเบี้ยสหกรณ์ให้ด้วย
สมาชิกสหกรณ์ ระบุว่า สามีเป็นคนออกไปประเมินสินเชื่อ และจะได้รับอนุมัติเงินกู้-เพิ่มวงเงินกู้อย่างรวดเร็ว เมื่อไปรับเงินจากฝ่ายการเงินคือภรรยา ก็จะมีการหักเงินจำนวนที่ตกลงไว้ โดยจะมีการทำสัญญาเงินกู้เป็นหลักฐาน บางฉบับภรรยาเป็นผู้กู้สามีเป็นพยาน แล้วบอกว่าไม่ต้องบอกใคร จนกระทั่งช่วงปลาปี 60 เริ่มมีปัญหา ไม่มีเงินมาจ่ายให้สมาชิก จนเดือนเมษายนปีนี้เรื่องเริ่มแดง ที่สุดก็ปฏิเสธจะจ่ายเงินคืน แล้วภรรยาก็ลาออกเมื่อสองเดือนก่อน
นางวงเดือน ชาวกะมุ อายุ 59 ปี อยู่เลขที่ 18 ม.7 ต.นาดี อ.เมือง อุดรธานี กล่าวว่า ไปขอกู้เงินจากสหกรณ์ฯ 500,000 บาท เพื่อไปทำไร่อ้อยเหมือนทุกปี วันที่ไปรับเงินจากฝ่ายการเงิน นางไพรัชยาฯที่อยู่ฝ่ายนี้ ขอยืมเงิน 100,000 บาท เพื่อเอาไปช่วยปิดหนี้สมาชิกคนอื่น สัปดาห์เดียวก็จะเอามาคืน หลังจากสมาชิกรายนั้นกู้เงินได้ เห็นว่าเรายังไม่ได้ใช้เงินส่วนนั้นจึงให้ โดยไม่ได้หวังค่าตอบแทนใดๆ เวลาผ่านไปก็ไม่เอามาคืน ไปทวงถามก็ทยอยจ่ายมาให้ 3 ครั้งรวม 30,000 บาท ตอนนี้ถึงเวลาคืนเงินสหกรณ์ฯแล้วจึงมาแจ้งความ
ร.ต.อ.ธิตินันท์ ศรีเชียงหวาง รอง สว.ส.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีสมาชิกสหกรณ์เดียวกัน 3 ราย มาแจ้งความในกรณีเดียวกันกับสองสามีภรรยา วงเงินเสียหาย 2 ล้านบาท ได้สอบสวนปากคำผู้เสียหายแล้ว เมื่อมีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มเติม ก็จะสอบสวนปากคำผู้เสียหายเพิ่ม รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากมีผู้เสียหายมากกว่า 10 ราย จะต้องแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน
นายสุเมฆ คำศรีภูมิ ประธานสหกรณ์ฯ และนางจีรวรรณ ใจเชื้อ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตร อ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันชี้แจงว่า (ปฏิเสธการบันทึกภาพ) สองสามีภรรยาทำงานที่นี่มานาน ทางสหกรณ์ฯไม่เคยรับรู้เรื่องนี้มาก่อน จนกระทั่งเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากการพูดคุยประกอบหลักฐาน สัญญากู้เงินถือเป็นการกระทำส่วนตัว มีผลตอนแทนเป็นดอกเบี้ย คล้ายกับแชร์ลูกโซ่ มีการเดินทางไปติดต่อทำกันที่บ้าน ขณะที่การปล่อยกู้ของสหกรณ์ ก็ทำไปตามระเบียบไม่มีการลัดคิว
“ ก่อนหน้าที่สหกรณ์ฯจะรับรู้ปัญหา ได้ปรับเปลี่ยนงานของภรรยา จากฝ่ายการเงินไปอยู่ฝ่ายบัญชี แล้วเจ้าตัวก็ยื่นเรื่องของลาออก สหกรณ์อนุมัติไปเมื่อกันยายน และเมื่อเรื่องเกิดขึ้นมาสหกรณ์ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และยังอยู่ในช่วงการสอบสวน โดยได้ปรับย้ายสามีจากฝ่ายสินเชื่อ ไปทำหน้าที่ฝ่ายการตลาดแทน ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องของบุคคล แต่ก็เป็นคนในสหกรณ์กับสมาชิก ที่กำลังพิจารณาอยู่ว่า สหกรณ์ฯจะเข้าไปช่วยสมาชิกได้บ้าง ”