ถนนตามผังเมือง ค7 เชื่อม ถนนนเรศวรกับถนนพรหมประกาย 4 เลน มีเกาะกลาง+ฟุตบาท 1 กม.เศษ เริ่มต้นก่อสร้างแล้ว คาดใช้งานก่อนเปิดงานมหกรรมพืชสวนโลก
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ห้องประชุมคำชะโนด ชั้น 2 อาคาร 2 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายณฐพล วิถี รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เป็นประธานประชุมคณะที่ปรึกษาโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ ในเขตผังเมืองรวมเมืองอุดรธานี ถนนสาย ค7 (ช่วงถนนพรหมประกาย-ถนนนเรศวร) มีนายพรเทพ นรานันท์ โยธาธิการและผังเมือง จ.อุดรธานี นำคณะที่ปรึกษาจากหน่วยราชการ องค์กร ภาคเอกชน และตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียร่วมประชุม ติดตามความคืบหน้าโครงการ และพิจารณาชดเชยค่ารื้อย้ายบ้าน 11 หลัง
โครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ ในเขตผังเมืองรวมเมืองอุดรธานี ถนนสาย ค7 (ช่วงถนนพรหมประกาย-ถนนนเรศวร) ครอบคลุมพื้นที่ 122-0-61 ไร่ มีที่ดิน 33 แปลง เจ้าของที่ดิน 25 ราย เป็นการเฉลี่ยที่ดินเป็นพื้นที่สาธารณะ โดยไม่มีการจ่ายค่าเวนคืนที่ดิน แบ่งเป็นพื้นที่ประชาชน 117-2-34 ไร่ เป็นพื้นที่สาธารณ 5-3-36 ไร่ มีแผนก่อสร้างถนนสายหลักกว้าง 25 เมตร ยาว 1,040 เมตร เชื่อมถนนนเรศวรเข้ากับถนนพรหมประกาย และถนนสายย่อยภายในกว้าง 9 เมตร ที่มีงบประมาณสนับสนุนจากกรมโยธาธิการและผังเมือง กับกองทุนจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ มีขั้นตอนในการดำเนินการ 16 ขั้นตอน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ 8
ขณะนี้ได้ว่าจ้าง บ.เอสเค ซีวิล แอนด์ คอนสตรัคชั่น จก ทำการก่อสร้างถนนภายในโครงการวงเงิน 66.7 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 540 วัน เริ่มต้นสัญญา 7 ม.ค.2568 สิ้นสุดสัญญา 30 มิ.ย.2569 แต่เนื่องจากยังต้องรอเงินอุดหนุนเพื่อก่อสร้างระบบประปา 1.87 ล้านบาท และปรับเขตแนวลำห้วยหมากแข้ง 25 ล้านบาท ซึ่งจะต้องก่อสร้างไปพร้อมกับถนน ทำให้จะต้องขยายเวลาให้ผู้รับจ้างออกไปอีก 3 เดือน คือไปจนถึงกันยายน 2569 ซึ่งผู้รับจ้างได้เข้าพื้นที่เริ่มทำงานแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดใช้งานถนนเส้นนี้ได้ราวปลายปี 2569
ที่ประชุมได้พิจารณาค่าชดเชย-เยียวยา บ้านที่อยู่ในแนวถนนรวม 11 หลัง ที่จะต้องรื้อย้ายบ้านออกไป เพื่อไปสร้างในพื้นที่ใหม่ที่จัดสรรคให้ในโครงการ ทั้งนี้กองมาตรฐานราคากลาง กรมโยธาฯ ได้ประเมินราคาไว้แล้ว โดยมีเจ้าของบ้านรวม 7 ราย พอใจในราคาที่ประเมินไว้ และมีอยู่ 4 ราย แสดงเจตนาขอให้พิจารณาเพิ่มให้ จากข้อเท็จจริงบ้านมีการต่อเติม-ปรับปรุง หลังจากมีการเก็บข้อมูลไปแล้ว สนง.โยธาธิการและผังเมือง จึงทำการประเมินในราคาอีกครั้ง แล้ว นำเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา ซึ่งที่ประชุมขอให้นำเจ้าของบ้านทั้ง 4 ราย มารับทราบราคาประเมินใหม่ ปรากฏว่าทั้งหมดพึงพอใจกับราคาใหม่ แต่เบื้องต้นจะได้รับค่าชดเชย-เยียวยา ตามราคาประเมินครั้งแรกไปก่อน ที่เหลือยังจะต้องมีขั้นตอนปฏิบัติ โดยทุกหลังจะย้ายออกไปราวมีนาคม 2569
