แง้มกติกามรดกโลกภูพระบาท โบราณสถานพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ สุภาพ ไม่อึกทึกครึกโครม ไม่มีกิจกรรมกลางคืน
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ที่ห้องประชุม POC ชั้น 4 อาคาร 2 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อม การจัดงานเฉลิมฉลอง “ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมาสมัยทวาราวดี” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยมีนางรวงทอง พลธิราช วัฒนธรรม จ.อุดรธานี นายสมัคร บุญปก รองนายก อบจ.อุดรธานี นายนภสินธ์ บุญล้อม หน.อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท นายชัยพิชิต สอนสมนึก ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.อุดรธานี ผู้แทนนายอำเภอบ้านผือ นายก อบต.เมืองพาน อ.บ้านผือ และหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมประชุม
ก่อนการประชุมนายนภสินธ์ บุญล้อม หน.อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท เล่าถึงการเดินทางไปประชุมที่ประเทศอินเดียว่า เราได้เสนออุทยานประวัติศาสตร์เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม แต่คณะกรรมการฯได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมาสมัยทวารวดี” และให้ความเห็นชอบเป็นมรดกโลกทั้งทางวัฒนธรรม และภูมิทัศน์ ทำให้เราต้องดูแลรักษา ทั้งโบราณสถานและธรรมชาติ ที่ต้องจัดทำรายงานประจำทุกปี พร้อมถูกตรวจสอบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ เพื่อรักษาความเป็นมรดกโลกนี้ไว้
ทำให้มีการกำหนดขอบเขตการใช้พื้นที่ ไม่ให้กระทบต่อโบราณสถาน ศาสนา และล่าสุดก็คือธรรมชาติ การทำกิจกรรมใช้เสียง-แสง-การแสดง-การแต่งกาย ก็สามารถทำได้พอประมาณ แบบที่มีรถแห่ วงดนตรี หมอลำซิ่ง การแสดงเสียง-เสียง แบบอึกทึกคึกโครม บริเวณ กลุ่มโบราณสถานคงทำไม่ได้ ขณะการทำกิจกรรมทั้งหมด ให้ทำได้ในช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้น-พระอาทิตย์ตก เพื่อไม่ไปรบกวนสัตว์ทั้งมีพิษ และไม่มีพิษ ที่ออกมาหากินในเวลากลางคืน ที่อาจจะทบกับความเป็นอยู่ หรือนักท่องเที่ยวถูกฉกกัดเป็นอันตรายได้ ซึ่งหลังเป็นมรดกโลกมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว
ขณะที่นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ได้กล่าวขอบคุณ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน ลูกจ้าง ที่มีส่วนร่วมในการผลักดันให้ “ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมาสมัยทวารวดี” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุน ในการจัดกิจกรรมเพื่อให้กำลังใจ ที่พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี และอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ในวันที่มีการประชุมสามัญประจำปีคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศอินเดีย จากนั้นรับฟังร่างแผนการจัดงานจัดงานเฉลิมฉลอง และรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย
นางรวงทอง พลธิราช วัฒนธรรม จ.อุดรธานี ได้นำเสนอร่างกำหนดวัน-เวลา-สถานที่-กิจกรรม เพื่อสอบถามความเห็นในที่ประชุม ที่มีความเป็นห่วงเรื่อง ฤดูฝนที่พยากรณ์ระบุจะมากยาวกว่าฤดูปกติ , งบประมาณที่อยู่ปลายปีงบประมาณ จะขอรับการสนับสนุนจาก อบจ.อุดรธานี และหน่วยงานที่มีความพร้อมอื่น และความพร้อมของบุคลากร โดยที่ประชุมไม่ได้พูดถึงการเกษียณอายุราชการของผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ขณะผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี มีความเห็นว่าไม่อยากจะให้เร่งรีบ ขอให้มีความพร้อมในการจัดงาน ขอรับฟังเห็นที่ประชุมเพิ่มเติม ให้ฝ่ายเลขาฯสรุปข้อมูลวันนี้ และประสานงานเพิ่มเติม เพื่อเตรียมนำเข้าที่ประชุมครั้งต่อไปวันศุกร์ 16 ส.ค.ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ที่ประชุมรับข้อมูลเบื้องต้นว่า งานจะจัดขึ้นในวันที่ 13-15 กันยายนนี้ ซึ่งตรงกับวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ สถานที่จัดงานแบ่งเป็น 2 ส่วนๆแรก คือ วันที่ 13 ก.ย.67 บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท มีพิธีสงฆ์บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว พิธีบวงสรวงและรำสักการะ 72 นางรำ ที่ลานหอนางอุษา , วันที่ 13-15 ก.ย.67 งานเฉลิมฉลองสมโภชมรดกโลกอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ณ ที่ว่าการอำเภอบ้านผือ มีกิจกรรมรำสมโภช , การแสดงแสงเสียง , การแสดงบนเวที , การจัดนิทรรศการ , การแสดงสินค้า , และอื่นๆ
โดยการแสดงจะประสานไปยังสำนักสังคีต กรมศิลปากร ขอให้จัดชุดการแสดงมาช่วยงาน ประกอบด้วย การแสดงชุดนาฏดุริยะแห่งภูพระบาท ที่เคยแสดงมาแล้วที่พิพิธภัณฑ์พระนคร ในวันประชุมใหญ่มรดกโลกที่ประเทศอินเดีย นักแสดงและนักดนตรี 25 คน ไม่ต้องซ้อมเพราะเพิ่งแสดงมา หรือการแสดงชุด “ละครเพลงอุษา-บารส” ที่เคยมีบทการแสดง และแสงดมานานแล้ว จะต้องมีเวลาเตรียมปรับบทเพื่อมให้ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน และซ้อมเตรียมความพร้อม หรือใช้ชุดการแสดงของมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี…..
