เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 2 เมษายน 2566 ร.ต.ท.ณัฐวัฒน์ ละดาวัลย์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยมีชัย ถนนวัฒนานุวงศ์ เทศบาลนครอุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุ นายอริยะ แต้สุวรรณ รองนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณะภัย เทศบาลนครอุดรธานี นำรถดับเพลิงจำนวน 5 คัน ระดมกำลังเข้าควบคุมเพลิงไหม้ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถดับเพลิงและควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด โดยมีเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าฯ เข้าสนับสนุนตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัย
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เลขที่ 57/58 ถ.วัฒนานุวงศ์ ต.หมากแข้ง ทน.อุดรธานี เป็นชุมชนกลางเมืองอุดรธานี มีบ้านเรือนประชาชนปลูกติดกันหลายหลัง ข้างตัวบ้านทั้ง 2 ข้าง มีหอพักขนาดกลาง หอพักด้านขวามือถูกเพลิงไหม้กำแพงและพนังอาคารบางส่วน แต่ไม่ลุกลามเข้าไปในหอพัก ถัดไปอีกเล็กน้อยติดกับวัดสุนทรประดิษฐ์ หรือวัดจีน ส่วนหน้าบ้านติดกับที่จอดรถศูนย์การค้าเซ็นทรับพลาซาอุดรธานี ซึ่งเป็นจุดเดียวที่รถดับเพลิงสามารถจอดรถและลากสายดับเพลิงข้ามกำแพงเข้าไปได้ เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นซอยขนาดเล็ก จากการตรวจสอบไม่มีคนอยู่ในบ้านขณะเกิดเหตุ เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย
นางอาน หวูถิ อายุ 82 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 57/5 ที่อยู่ติดกับบ้านต้นเพลิง เล่าว่า บ้านพักในบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นญาติกัน บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านญาติที่เสียชีวิตไปก่อนหน้าประมาณ 4 ปี ปัจจุบันเจ้าของเป็นลูกสาวชื่อลลิตา จิรดำรง อายุ 68 ปี แต่ย้ายไปทำงานและอาศัยอยู่ กทม. มีเพียงหลานชายอีกคนอาศัยอยู่เพียงคนเดียว กลางวันจะไม่ค่อยอยู่เพราะต้องออกไปทำงาน วันนี้ก็เช่นกันหลานชายออกไปทำธุระข้างนอก
“ ก่อนเกิดเหตุตนกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้าน สังเกตุว่าไฟฟ้าในบ้านดับ พัดลมไม่ทำงาน ไม่นานได้ยินเสียงดังเปี๊ยะ ๆ หลายครั้งอยู่หลังบ้าน และมีกลิ่นเหม็นไหม้ มั่นใจว่ามาจากบ้านญาติที่เป็นต้นเพลิง จึงเดินอ้อมเข้าไปดู ก็เห็นกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากตัวบ้าน ตอนนั้นตกใจมาก ตัวสั่น ขาอ่อนแรง แต่ก็วิ่งออกมาตะโกนบอกเพื่อนบ้านว่าไฟไหม้ โชคดีที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาช่วยดับไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงจะลุกลามมาที่บ้านตนเอง และบ้านหลังอื่นๆ เพราะบ้านแถวนี้ปลูกติดกันจำนวนมาก เป็นซอยแคบ รถใหญ่เข้าออกไม่ได้ ต้องขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่มาช่วยพวกเราทุกคนด้วย “
นางบิน เหงียนถิ อายุ 82 ปี เจ้าของหอพักที่อยู่ติดกับบ้านต้นเพลิง เล่าทั้งน้ำตาว่า ตอนนั้นเปิดแอร์นอนพักผ่อนภายในบ้านพัก ไม่นานไฟฟ้าดับลง แอร์ไม่ทำงาน จึงเดินออกมาดูว่าบ้านอื่นไฟฟ้าดับเหมือนกันหรือไม่ แต่ก็เห็นเพื่อนบ้านวิ่งออกมาจากซอยบ้านต้นเพลิง และตะโกนบอกว่าไฟไหม้ ตนจึงบอกลูกหลานให้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ ตนเองตกใจมากทำอะไรก็ไม่ถูก ตกใจกลัวตัวสั่น กลัวว่าไฟจะลุกลามมาที่หอพักของตน ซึ่งเป็นหอพัก 2 ชั้น มี 20 ห้อง มีผู้เช่า 6 ห้อง ดีใจมากที่สกัดเพลิงเอาไว้ได้ หากลุกลามข้ามมาคงจะเสียหายมากกว่านี้ และโชคดีที่เกิดตอนกลางวัน หากเป็นกลางคืนกลากดึก คงจะลุกลามเสียหายเป็นบริเวณกว้าง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า บ้านที่เกิดเหตุสร้างมานานแล้ว สายไฟฟ้าอาจจะเก่าหรือชำรุด จึงไฟฟ้าลัดวงจร ประกอบกับช่วงนี้มีอากาศร้อนจัด ไฟจึงลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว ต้นเพลิงอยู่บริเวณห้องโถงหน้าบ้าน ความเสียหายมีรถจักรยานยนต์ 1 คัน และเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกจำนวนหนึ่ง ตอนนี้ยังไม่สามารถมูลค่าความเสียหายได้ ซึ่งจะได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป