กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ตา น้อย นำภาพวงจรปิดโจรชายหญิง หลอกให้โอนเงิน ก่อนจะชิ่ง จยย.หลบหนี ไปโพสต์ในเพจอุดรมีด่าน พร้อมเขียนข้อความ “ขออนุญาตแอดมินคะ เตือนภัยนะคะ 2 บุคคลในภาพนี้ได้มาไห้หนูโอนเงินไห้จำนวน 1200 บาท พอโอนเสร็จหยิบกาแฟในตู้ไปอีก 1 กะป๋อง บอกว่าเงินอยู่ใต้เบาะรถ แล้วผู้หญิงกะโดด ขึ้นรถผู้ชาย ขับออกไปเลยคะ สถานที่เกิดเหตุ ร้านขายของชำ ต้นข้าว บ้านดงหนองโพธิ์ ตำบลเชียงยืน อำเภอเมืองคะ ใครรู้เบาะแสแจ้ง 0922810036 ด้วยนะคะ ขอบคุณพี่ๆทุกคนค่ะ ” โดยมีผู้เข้ามาคอมเม้นต์และให้ข้อมูลโจรชายหญิงจำนวนมาก
ต่อมาเวลา 16.00 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปร้านขายของชำต้นข้าว เลขที่ 103 หมู่ 4 ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี พบ น.ส.นิภาพร เหลาเงิน อายุ 27 ปี เจ้าของร้าน และเป็นผู้โพสต์ภาพวงจรปิด และข้อความดังกล่าวลงในเพจข่าว โดย น.ส.นิภาพร เล่าว่า ตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ค้าขายเลี้ยงลูกชาย 1 คน อายุ 7 ขวบ ตนได้เปิดร้านขายของชำได้ไม่นาน ยังไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แต่จะไม่ยอมปล่อยให้คนร้ายลอยนวลเด็ดขาด
น.ส.นิภาพร เล่าต่อว่า เวลาประมาณ 14.48 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ขณะตนนั่งอยู่หน้าร้าน ได้มีลูกค้าผัวเมีย เมียเป็นชาวบ้านหนองหลอด ต.เชียงยืน ส่วนผัวเป็นชาวบ้านสามพร้าว ขี่รถจักรยานยนต์ แบบหญิง สีน้ำเงิน ติดป้ายทะเบียนชัดเจน มาจอดหน้าร้าน เมียลงมาบอกให้ตนโอนเข้าบัญชี 1200 บาท ส่วนผัวนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ ซึ่งตนไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะว่าเป็นลูกค้าเคยเห็นหน้า ตนจึงโอนเงินให้ตามเลขบัญชีที่เขียนไว้ให้ เสร็จแล้วผัวได้ร้องบอกเมียให้เอากาแฟด้วย 1 กระป๋อง เมียได้เดินไปหยิบเอากาแฟในตู้แช่ แล้วบอกผัวว่าให้เอาเงินใต้เบาะมาจ่าย แต่ผัวให้เมียเดินไปเอาที่รถ แต่เมียกลับวิ่งขึ้นซ้อนท้าย ผัวก็รีบขี่รถออกไป
น.ส.นิภาพร เล่าต่อไปว่า ตนตกใจมาก ไม่คิดว่าสองผัวเมียจะกล้าทำแบบนี้ ตนรีบโทรแจ้งให้ช่างมาตรวจภาพวงจรปิดภายในร้าน แล้วนำภาพผัวเมียที่เข้ามาก่อเหตุไปแจ้งตำรวจ เสร็จแล้วตนได้นำภาพวงจรปิดของโจรผัวเมียมาโพสต์ในเพจข่าว เพื่อเตือนภัยร้านขายของชำไม่ได้ตกเป็นเหยื่อ แต่ปรากฏว่ามีร้านขายของชำห่างจากตนไปประมาณ 1 กม.ก็โดนโจรผัวเมียคู่นี้หลอกโอนเงิน 2000 บาท และรีสอร์ทใกล้ร้านตนก็โดนเช่นเดียวกัน และยังมีชาวบ้านส่งข้อมูลชื่อที่อยู่ของโจรผัวเมียคู่นี้มาให้ตนจำนวนมาก
“ ร้านขายของชำที่โดนไปก่อนร้านตน ไม่ไปแจ้งตำรวจ โดยให้เหตุผลว่าเงินเพียงเล็กน้อย แต่ตนไม่คิดเช่นนั้น หากตนไม่ไปแจ้งตำรวจ โจรผัวเมียก็จะหย่ามใจ ไม่มีใครรู้ ก็ไปก่อเหตุกับร้านชำอื่นที่มีคนแก่เฝ้าร้านอีก อยากให้มันจบที่ตน ให้เป็นเคสสุดท้าย เงินไม่กี่บาทก็จริง แต่มันรู้สึกเจ็บใจ จึงไปแจ้งตำรวจ และโพสต์เตือนภัยให้ร้านอื่นๆ ได้รู้จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่ออีก อยากฝากบอกโจรผัวเมียว่า มือเท้าก็ดี ทำไมต้องมาทำแบบนี้ ทำให้คนสาปแช่ง และฝากถึงตำรวจให้ช่วยติดตามโจรผัวเมียมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จะได้ไม่ไปก่อเหตุได้อีก ”