เมื่อเวลา 16.00 น วันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 ขณะที่ ร.ต.อ.ณัฐวัฒน์ สินทะสิทธิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.หนองแสง ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ภ.จ.อุดรธานี ว่ามีเหตุรถนวดข้าวเปลือกปั่นคอคนขาดเสียชีวิต ขณะยืนจับถุงปุ๋ยรองรับข้าวจากเครื่องนวดบริเวณด้านหลังรถ เหตุเกิดบริเวณกลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้านนาดี ม.8 ต.นาดี อ.หนองแสง จ.อุดรธานี จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายสายทอง นามศรี กำนัน ต.นาดี แพทย์เวรและเจ้าหน้าที่รถกู้ชีพ รพ.หนองแสง
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านที่ทราบข่าวมายืนมุงดูจำนวนมาก พบศพนางสาวนิตยา วิสุทธิวงศ์ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 52 ม.8 ต.นาดี อ.หนองแสง จ.อุดรธานี นอนหงายคอขาดเสียชีวิตอยู่ในอ้อมกอดนายระยอง แสงบุดดา อายุ 45 ปี ผู้เป็นสามี ร้องให้ด้วยความเสียใจ ที่สูญเสียภรรยาไปต่อหน้าต่อตา อยู่บริเวณหลังรถนวดข้าวสีฟ้า สภาพเก่า ไม่ทราบยี่ห้อ
โดยมีนายธวัชชัย ไม้แถมกลาง อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 70 ม.8 ต.นาดี อ.หนองแสง จ.อุดรธานี คนควบคุมรถนวดข้าว และนายทองใส วันชัย อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 76 ม.7 บ.โคกกลางน้อย ต.นาดี อ.หนองแสง เจ้าของที่นายืนอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยความตกใจ ส่วนนางสาวถนอม สารจันทร์ อายุ 46 ปี ญาติผู้ตายที่ยืนจับปากถุงปุ๋ยรองรับข้าวเปลือกที่ถูกนวดแยกออกจากฟาง ถึงกับช็อกเป็นลมหมดสติ ก่อนที่ญาติที่อยู่ด้วยกันได้นำมานอนพักดมยาอยู่ที่กระท่อมนาที่เกิดเหตุ ก่อนญาติจะนำตัวส่งรักษาอาการที่ รพ.หนองแสง
นายทองใส วันชัย เจ้าของที่นา เล่าว่า ก่อนเกิดเหุตนกำลังนำฟ่อนข้าวลงใส่เครื่องนวดที่อยู่อีกฝั่งของรถนวดข้าว และได้ยินเสียงสายพานเครื่องนวดข้าวมันฟรี เลยบอกให้คนขับดับเครื่องยนต์รถ โดยตอนนั้นผู้ตายก็กำลังจับปากถุงปุ๋ยรองรับเอาข้าวเปลือกกับญาติ อยู่บริเวณหลังรถ ตนก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง และเห็นแต่เครื่องตัดคอผู้ตายขาดไปแล้ว ตนได้ยินเขาพูดกันว่าเกิดจากผ้าขาวม้าปลิวเข้าไปในระบบเครื่องกลที่ขับเคลื่อนด้วยระบบเครื่องยนต์รถและมอเตอร์สำหรับนวดข้าว ดึงศีรษะหรือหัวผู้ตายเข้าไปตัดจนคอขาด จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
นายธวัชชัย ไม้แถมกลาง คนควบคุมเครื่องรถนวดข้าว เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนนั่งอยู่ด้านหน้ารถนวดข้าวและกำลังเติมน้ำใส่ลงในหม้อน้ำรถ เพราะกลัวหม้อน้ำรถจะแห้ง แล้วได้ยินเสียงเจ้าของที่นาร้องบอกให้ตนหยุดเครื่อง ตนเลยหันกับไปดูแล้วรีบดับเครื่องเลย ที่แรกนึกว่ารถเสียแต่ไม่ใช่เจอเครื่องปั่นหัวผู้ตายขาดเสียชีวิตคาที่แล้ว รู้สึกตกใจทำอะไรไม่ถูกเลย และเห็นสามีผู้ตายร้องไห้ และญาติที่ยืนจับถุงปุ๋ยอยู่ด้วยกันเป็นลมเลย สาเหตุมาจากผ้าขาวม้าของผู้ตายที่ใช้โผกหัวและพันกับคอไว้ ถูกลมพัดปลิวเข้าไปและเครื่องก็ดูดผ้าขาวม้าดึงศีรษะผู้ตายเข้าไปปั่นกับเครื่องกลจนคอขาด ยอมรับว่าตกใจมากแต่ก็รู้จะทำอย่างไร และไม่อยากให้มันเกิดขึ้นแบบนี้เลย
”ตนเพิ่งจะมาเริ่มรับจ้างขับรถนวดข้าวกับนายจ้างในปีนี้ ก็มาเกิดเหตุที่ตนไม่เคยเห็นมาก่อน ตนก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง เพราะตนอยู่ข้างหน้ารถคอยเติมน้ำใส่หม้อน้ำรถ แต่คนตายอยู่ท้ายรถจับถุงปุ๋ยรองรับเอาข้าวเปลือกใส่กระสอบ และไม่รู้ว่ามันดูดเข้าไปได้ยังไง ผู้ตายก็คงจะอยู่ใกล้กับเครื่องกลหลังรถ แล้วมันดูดผ้าขาวม้าเข้าไปปั่น แล้วดึงผ้าขมาที่พันหัวผู้ตายเข้าไป ซึ่งตั้งแต่ตนขับรถสีข้าวมาก็เพิ่งเคยเจอ ตนก็อยากฝากถึงชาวนาทุกคนที่กำลังนวดข้าวและสีข้าวอยู่ในช่วงนี้ว่า ให้ระมัดระวังเวลายืนใกล้ด้านหลังรถ และให้ยืนรองรับข้าวอยู่ห่างๆ เพราะว่าลมเครื่องนวดข้าวมันดูดแรง และอาจจะเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ได้”
นายระยอง แสงบุดดา สามีผู้ตายเล่าทั้งน้ำตาเพียงสั้นๆว่า ขณะผู้ตายกับญาติพากันจับปากถุงปุ๋ยรองรับเอาข้าวเปลือกได้ประมาณ 3-4 รอบแล้ว ขณะตนกำลังมัดปากถุงปุ๋ย ได้ยินแต่เสียงภรรยาร้องโอ้ยแล้วก็ล้มลงโดยไม่มีหัว ตนคิดว่าคอเมียที่ขาดเป็นเพราะผ้าขาวม้าที่โพกหัวไว้ แล้วเครื่องกลได้ดึงเข้าไปแล้วปั่นหรือตัดจนขาดออกจากลำตัวเลย ตนทำอะไรไม่ถูกรีบกอดเมียเอาไว้พร้อมกับร้องไห้ โดยเมื่อคืนตนก็ไม่ได้ฝันไม่ดีหรือฝันที่เป็นลางสังหรณ์บอกเหตุร้ายล่วงหน้าเลย
นางบังอร จันทมาตย์ อายุ 55 ปี พี่สาวสามีผู้ตายเล่าว่า ผู้ตายเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่นเวลามีงานก็จะไปช่วยเหลือทุกครั้ง และวันนี้ก็พากันมาเกี่ยวข้าวที่นาของญาติจนแล้วเสร็จ และกำลังเอาฟ่อนข้าวที่เกี่ยวแล้วใส่รถนวดเอาเมล็ดข้าวเปลือก และก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่ว่าเมื่อคืนที่ผานมาตนฝันเป็นลางไม่ดีว่าได้สวมใส่ชุดขาวกับคนในหมู่บ้าน และคล้ายกับบริเวณวัดแต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน และไม่รู้ว่าเป็นงานพิธีอะไร และมีเพื่อนที่มาร่วมงานสวมชุดขาวมาชาวนกันไปกินข้าว แต่ตนทักว่าบริเวณที่จะไปนั่งกินข้าวมันเหม็นเลยไม่ได้ไปกิน ก่อนสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนเช้ามืดในวันนี้
กระทั่งเที่ยงวันนี้หลังจากเกี่ยวข้าวช่วงเช้าเสร็จ ญาติได้มารวมกันซื้อกับข้าวมานั่งกินที่กระท่อมนาด้วยกัน ผู้ตายก็นั่งกินด้วยและคุยกันสนุกสนาน แล้วผู้ตายพูดหยอกตนมาว่า มีคนตายแล้วสองคืน ก็คือลุงของผู้ตายที่เป็นสามีของตน จึงพากันห้ามไม่ให้พูดเดี๋ยวมันจะเข้าตัวเอง ซึ่งผู้ตายพูดคำสุดท้ายว่าจะไปช่วยกันสีข้าวให้ญาติที่มีที่นาอยู่ติดกัน ตนเลยบอกว่าอย่าเข้าไปใกล้เครื่องนวดข้าว และไม่คิดว่าไปแล้วจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนคิดว่าความฝันนั้นไม่ดี เพราะมีความเชื่อว่า หากฝันได้ใส่ชุดขาวจะได้จูงศพเข้าวัด แต่ถ้าฝันว่าใส่ชุดดำนั้นดี ตามความเชื่อของคนโบราณในหมู่บ้าน”
ในเบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นายธวัชชัย ไม้แถมกลาง คนควบคุมเครื่องรถนวดข้าวว่า “กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” และจะได้สอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป…