จากกรณีที่เพสอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทริน์pat 5.2 ได้โพสต์ข้อความและภาพ เด็กนักเรียนชาย4คนถูกทำโทษที่บริเวณน่อง โดยมีข้อความว่า เด็กผิดอะไร และตีขนาดนี้พอดีหรือเกินไป สื่อสังคมช่วยตรวจสอบหน่อย โรงเรียนขยายโอกาสแห่งหนึ่งในอำเภอหนองแสง อุดรธานี ครูประจำชั้น ตี นักเรียนชาย ชั้น ม.2 จำนวน 4 คน สาเหตุ1 คน บอกว่าไปส่งยายไปทำธุระ 3 คน บอกไปซื้ออุปกรณ์การเรียนอยู่ร้านค้าในหมู่บ้าน (ปากกา) ได้ข้อมูลมาแบบนี้ครับ เด็กส่งให้กันดู เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 20 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ขณะผู้ปกครองทราบเรื่องจากครูในช่วงเย็นวันเดียวกัน ได้พาเด็กไปแจ้งความลงบันทึกเป็นหลักฐานที่ สภ.หนองแสง
ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 21 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนขยายโอกาสมีชื่อแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.หนองแสง จ.อุดรธานี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง พบกับนายไพโรจน์ โคตรศรี ผอ.โรงเรียนฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการสถานศึกษาฯ ผู้นำชุมชน ผู้ปกครองนักเรียน 4 คน กำลังร่วมกันประชุมไกล่เกลี่ย เพื่อหาทางแก้ไข โดยมีนายอโนชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ครูประจำชั้น ม.2 ของโรงเรียนดังกล่าว (โรงเรียนบ้านนาดีโคกกลาง) ร่วมรับฟังและชี้แจงในที่ประชุม โดยใช้เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวร่วมรับฟัง
หลังจากประชุมแล้วเสร็จ นายอโนชาฯ ได้ยกมือไหว้ขอโทษผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาฯ ในสิ่งที่ทำต่อเด็กนักเรียนที่อยู่ในความปกครองของตน และสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก และมอบเงินผู้แขนทำขวัญให้กับผู้ปกครองเด็กนักเรียนทั้ง 4 คน ขณะที่มติคณะกรรมการสถานศึกษาฯ ได้มีความเห็นว่านับจากนี้ไป หากมีครูท่านใดใช้ความรุนแรงต่อเด็กนักเรียน จะต้องถูกย้ายออกจากโรงเรียนแห่งนี้ไปสถานเดียว เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
ขณะที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 2 ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับให้ นายอโนชาฯ ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 2 จนกว่าจะได้บทสรุปข้อเท็จจริงในการกระทำผิด ซึ่งทางโรงเรียนก็ยอมรับผิดที่ครูลงโทษนักเรียนเกินกว่ากว่าเหตุ และเป็นการกระทำผิดกฎระเบียบวินัยของทางกระทรวงศึกษาธิการด้วย ส่วนผู้ปกครองยอมรับมติในที่ประชุมและให้อภัยครูคู่กรณี และไม่เอาความ แต่เรื่องวินัยให้เป็นหน้าที่ของ ผู้อำนวยการโรงเรียน และสพป.อุดรธานี เขต 2 ดำเนินการต่อไป
นางสาวราตรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ตัวแทนผู้ปกครองเด็ก เปิดเผยว่า ช่วงบ่าย 4 โมง เมื่อวานนี้ หลังทราบข่าวจากครูฝ่ายปกครองแจ้งกรณีที่เด็กนักเรียนถูกครูตี ทางโรงเรียนแสดงความเสียใจและยอมรับผิด และจะไปเยี่ยมเด็กนักเรียนที่บ้าน หลังจากพาเด็กนักเรียนไปปฐมพยาบาลที่ รพ.สต.ฯ สาเหตุมาจากลูกและเพื่อนรวม 4 คน มาโรงเรียนสาย โดยใช้ไม้เรียวที่ทำจากไม้ไผ่เฆี่ยนที่น่องขาจนเป็นแผลแตก รู้สึกตกใจ จึงพากันรีบเข้ามาดูลูก ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะกฎระเบียบของกระทรวงฯออกมาแล้วว่าไม่ให้ลงโทษเด็กด้วยการทำร้ายหรือเฆี่ยนตี ก่อนไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.หนองแสง
”เช้าวันนี้ทางผู้อำนวยการโรงเรียนฯและคณะกรรมการสถานศึกษาฯ ได้เชิญผู้ปกครองเด็กทั้ง 4 ราย มาร่วมประชุมไกล่เกลี่ย และหาทางแก้ไข โดยทางผู้ปกครองขอให้ทางโรงเรียนลงโทษเด็ก โดยไม่ใช้ความรุนแรง เช่นให้เด็กทำความสะอาดในบริเวณโรงเรียน เป็นต้น เพราะลูกชายของตนมีโรคประจำตัว สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง จึงมาหาทางออกร่วมกันกับทางโรงเรียนในวันนี้”
นางสาวราตรีฯเปิดเผยต่อว่าด้านทางโรงเรียนและคุณครูที่ตีเด็กก็ยอมรับผิดทุกอย่าง จึงให้โอกาสคุณครู เพราะที่ทำลงไปเป็นเพราะรักและเป็นห่วงนักเรียน เพราะเด็กวัยนี้กำลังดื้อ พวกตนจึงเข้าใจคุณครู แต่ก็ย้ำว่าไม่ให้ทำกับนักเรียนอย่างนี้อีก และหากยังมีเรื่องแบบนี้อีก ไม่ว่าจะเป็นคุณครูคนเดิมหรือคนใหม่ ทางโรงเรียนจะทำเรื่องให้ย้ายครูที่ใช้ความรุนแรงต่อเด็ก ให้ออกไปที่อื่นภายใน 24 ชั่วโมง และอยากฝากถึงครูตามโรงเรียนต่างๆ อย่างใช้ความรุนแรงกับเด็กเลย รู้อยู่ว่าครูรักเด็ก แต่ก็ไม่ควรใช้ความรุนแรงแบบนี้ หรือใช้อารมณ์กับเด็ก ส่วนลูกหลานเด็กนักเรียนก็ควรเชื่อฟังคำสอนในสิ่งดีๆของคุณครู อย่าดื้อ หรือมีพฤติกรรมก้าวร้าวต่อครูบาอาจารย์
ด้านนายไพโรจน์ โคตรศรี ผอ.โรงเรียนฯ เปิดเผยว่า มติในที่ประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาและผู้ปกครองวันนี้มี2 เรื่อง เรื่องแรกทางโรงเรียนมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นซ้ำ คือ หากเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีกจะให้ย้ายออกจากโรงเรียนภายใน 24 ชม. ซึ่งเป็นนโยบายของทาง สพป.อุดรธานี เขต 2 เรื่องที่สองทางโรงเรียนขอรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแสดงน้ำใจทางด้านมนุษยธรรมกับนักเรียน และผู้ปกครอง ทั้ง4 ราย ส่วนทางด้านวินัยครู หลังจากนี้ทางโรงเรียนจะได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และรายงานไปยัง สพป.อุดรธานี เขต2 โดยมีคำสั่งให้ครูอโนชา ไปช่วยราชการที่ สพป.อุดรธานีเขต2 นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าเรื่องจะเสร็จสิ้น ซึ่งทางโรงเรียนได้ดำเนินการทุกอย่างตามกฎระเบียบ เพื่อจะให้ความเป็นธรรมกับนักเรียน รวมถึงรักษาไว้เรื่องกฎระเบียบทางราชการ
”ส่วนสาเหตุที่มีการลงโทษ ทางคณะกรรมการสอบถาม ทราบว่านักเรียนมาโรงเรียนสาย และได้ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนกันมา 4 คน หลังจากที่เข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จ ซึ่งคุณอนุชาฯก็เป็นครูที่ปรึกษาของนักเรียนด้วย ก็ได้เข้าไปตักเตือนอบรมสั่งสอน ซึ่งนักเรียนอาจจะมีพฤติกรรมก้าวร้าวคุณครูได้ทำโทษไป แต่รุนแรงเกินเหตุ ด้านผู้ปกครองนั้น หลังทางโรงเรียนรับทราบเรื่อง และสอบถามนักเรียนและนำตัวไปรักษาเบื้องต้นตั้งแต่วันเกิดเหตุ และได้ติดต่อผู้ปกครองมาพูดคุยไกล่เกลี่ยและยอมรับความผิด และมาวางแผนการแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก