เมื่อเวลา 19.46 น.วันที่ 5 กันยายน 2565 ร.ต.อ.ไพบูลย์ ไชยสิทธิสกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณจุดกลับรถบ้านหนองผึ้ง บริเวณร้านขายข้าวหลามโบกมือ ถนนมิตรภาพ (อุดรธานี –ขอนแก่น ) ขาออกตัวเมืองอุดรธานี ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ นาขวา ผกก.สภ.กุมภวาปี อาสากู้ภัยประชาธรรม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ ผู้บาดเจ็บ 2 ราย ถูกยิงด้วยอาวุธปืน นอนอยู่ในพงหญ้าริมถนน ข้างร้านขายข้าวหลาม ทราบชื่อภายหลัง ด.ช.วรวุฒิ ยอดดี หรือตั้ม อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 3 บ้านสี่แจ ต.ผาสุก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าลำคอ 1 นัดกระสุนฝังใน ไม่รู้สึกตัว พบรถจักรยานยนต์ล้มอยู่บนถนน ห่างไปประมาณ 20 เมตร พบ ด.ช.อัครชัย ทาสะโก หรือภูมิ อายุ 14 ปี ชาวบ้านสี่แจ ต.ผาสุก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ถูกยิงที่หลังทะลุหน้าอก 1 นัด เจ้าหน้าที่รีบนำส่งโรงพยาบาลกุมภวาปี ด.ช.วรวุฒิฯ เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวน ด.ช.อัครชัย หรือภูมิ ผู้บาดเจ็บ ให้การว่า พวกตนเรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนพันดอนวิทยา หลังเลิกเรียนและเล่นกีฬา ได้ชวนกันขี่รถไปเล่นกับเพื่อนที่บ้านน้ำฆ้อง เมื่อมาถึงทางแยกบ้านหนองผึ้ง-น้ำฆ้อง ซึ่งเป็นทางพาดรถไฟ ได้มีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะบริเวณดังกล่าวมืดไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ชักปืนออกมายิงพวกตน 4-5 นัด ผู้ตายเป็นคนขับรถถูกยิงบริเวณลำคอ ทำให้รถล้มส่วนตนได้วิ่งหนีแต่ถูกคนร้ายยิงตาม จนถูกหลังทะลุหน้าอกล้มลง เป็นจังหวะเดียวกับมีพลเมืองดีขับรถผ่านมาและแจ้งตำรวจ คนร้ายจึงหลบหนีไปกับความมืด
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 6 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่จุดเกิดเหตุ พบกับพลทหารธนบดี บุญชนะทรัพย์ อาสากู้ภัยมูลนิธิประชาธรรมกุมภวาปี หนึ่งในอาสากู้ภัยฯที่ไปให้การช่วยเหลือ พลทหารธนบดี ฯ เล่าว่า หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนมิตรภาพ (อุดรธานี –ขอนแก่น) ตรงทางเข้าบ้านน้ำฆ้อง ต.พันดอน จึงรีบมาช่วยเหลือ พบว่าบริเวณดังกล่าวมืดมาก ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง มีผู้บาดเจ็บโดนยิง 2 คน นอนอยู่พงหญ้าริมถนน คนแรกโดนยิงลำคอ ไม่รู้สึกตัว คนที่สองโดนยิงกลางหลังทะลุหน้าอก ยังมีสติ แต่อาการสาหัสทั้งคู่ ส่วนรถจักรยานยนต์ล้มอยู่กลางถนน แต่โดนรถยนต์ขับชนกระเด็นมาอยู่ริมถนน จึงรีบช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล และทราบว่าผู้ที่ถูกยิงลำคอเสียชีวิต
ส่วนช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ศาลาวัดป่าบ้านสี่แจ ต.ผาสุก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นที่จัดพิธีศพ ด.ช.วรวุฒิฯ หรือตั้ม พบพ่อแม่ ญาติ นั่งอยู่ในศาลา เพื่อจัดเตรียมสถานที่จัดงานฌาปนกิจ โดย น.ส.สุภารัตน์ บัวชะงัก อายุ 36 ปี แม่ผู้ตาย เล่าว่าตนมีลูก 2 คน คนโตเป็นผู้หญิงอายุ 17 ปี ผู้ตายเป็นคนเล็ก ตนและสามีแยกทางกันมานานแล้ว ผู้ตายและพี่สาวจึงอาศัยอยู่กับปู่และย่า ตนไปทำงานที่ จ.นครราชสีมา ส่วนพ่อผู้ตายไปทำงานที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทำงานหาเงินส่งเสียให้ลูกทั้งสองได้เรียน โดยผู้ตายจะเป็นเด็กร่าเริง ชอบเล่นกีฬา ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร พ่อแม่ ปู่ย่า และญาติพี่น้องจึงยังไม่รู้สาเหตุการดักยิงในครั้งนี้
“เมื่อคืนนี้ขณะทำงาน เห็นลูกสาวโพสต์เฟซบุ๊กเช็คอินว่ามาอยู่ที่โรงพยาบาล จึงโทรศัพท์มาสอบถามว่าใครเป็นอะไร จึงทราบว่าลูกชายถูกดักยิงและเสียชีวิต รู้สึกเสียใจมาก เพราะไม่ทราบว่าลูกถูกใครยิงจนตาย ก็ตกใจ และเดินทางกลับมาบ้าน จะได้กอดลูกเป็นครั้งสุดท้าย ยังไม่มีใครรู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร จึงอยากฝากตำรวจให้ติดตามคนร้ายที่ดักยิงลูกและเพื่อนให้ได้ เพื่อจะได้รู้ว่ามาดักยิงลูกชายเนื่องเพราะอะไร หากลูกชายรับรู้ อยากบอกว่าแม่ยังรักลูกเสมอ ถ้าชาติมีจริงขอให้ได้กลับมาเป็นแม่ลูกกันอีก ”
พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังได้รับรายงานมีเหตุดักยิงเด็กบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิต ได้สั่งนำกำลังออกไปสืบสวนหาตัวคนร้าย ด้วยการตรวจกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุ เพราะขณะเกิดเหตุไม่มีประจักษ์พยาน และบริเวณดังกล่าวมืด มีไฟสว่างน้อย และจากการสืบสวนทราบว่าผู้ตายและผู้บาดเจ็บ ไม่มีประวัติพัวพันยาเสพติด ชอบเล่นกีฬา ไม่เคยทะเลาะวิวาทกับใครจนมีศัตรู คาดว่าจะเป็นการยิงผิดตัว