วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมจับหนุ่มถ้ำมองสาวเข้าห้องน้ำหนองประจักษ์ฯ อ้างส่องหาเพื่อนไม่ได้ตั้งใจแอบดู

จับหนุ่มถ้ำมองสาวเข้าห้องน้ำหนองประจักษ์ฯ อ้างส่องหาเพื่อนไม่ได้ตั้งใจแอบดู

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 มิถุนายน 2565 ร.ต.อ.อนุชา อนุสูตร รอง สารวัตรจราจร สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุถ้ำมอง ภายในห้องน้ำหลังอาคารเต้นลีลาศ ภายในสวนสาธารณหนองประจักษ์ศิลาปคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงพร้อมด้วย ตำรวจสายตรวจเขตงานเทพารักษ์ รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบ น.ส.สวย นามสมมุติ อายุ 33 ปี ชาว อ.เมืองอุดรธานี ผู้เสียหาย และพลเมืองดีช่วยกันควบคุมตัวนายปรีชา ดีโคตร อายุ 43 ปี ชาว อ.เซกา จ.บึงกาฬ พร้อมรถจักรยานคู่ใจสีเขียวสภาพเก่า ที่ใช้ปั่นเข้ามาก่อเหตุ โดยมีการโต้เถียงระหว่างผู้เสียหายกับหนุ่มถ้ำมอง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวทั้งสองไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก

น.ส.สวย เล่าว่า ตนมีอาชีพขับรถรับส่งนักเรียน เช้านี้หลังส่งนักเรียนเสร็จ ก็ได้มาจอดรถในสวนสาธารณหนองประจักษ์ เพื่อรอโรงเรียนเลิก ตนนำเสื่อมาปูนั่งเล่นใต้ต้นไม้ห่างจากห้องน้ำประมาณ 20 เมตร ซึ่งต่อมาตนปวดปัสสาวะจึงเดินไปเข้าห้องน้ำ ขณะกำลังนั่งปัสสาวะ รู้สึกว่ามีคนจ้องมองผ่านช่องลมระบายอากาศด้านล่างประตูห้องน้ำ ซึ่งชำรุดไม่สนิทกัน ทำให้มีช่องส่องดู และเห็นเสื้อสีเขียวอ่อน ตนตกใจมากจึงร้องให้คนช่วยว่ามีคนถ้ำมอง คนร้ายวิ่งออกไป ตนจึงวิ่งออกมาจากห้องน้ำร้องขอความช่วยเหลือ

“ จังหวะนั้นมีพลเมืองดีเป็นผู้ชาย 2-3 คน เดินผ่านมาพอดี จึงช่วยกันจับกุมตัวพร้อมกับแจ้งตำรวจ รู้สึกตกใจกลัว ถึงจะไม่ได้ทำร้าย แต่ก็อันตราย  ไม่น่าเกิดในที่สาธารณะแบบนี้ เพราะมันเป็นห้องน้ำหญิง ถือว่าเป็นโรคจิต ควรจะมีมาตรการป้องกันเข้มกว่านี้ เพราะผู้หญิงเข้าห้องน้ำคนเดียวอันตราย ต่อไปจะไปเข้าห้องน้ำที่เสียเงิน ไม่เข้าห้องน้ำฟรี ปกติก็เดินมาเข้าห้องนี้แถบนี้อยู่เป็นประจำ ไม่นึกว่าวันนี้จะซวยขนาดนี้ ”

นายปรีชา อ้างว่าไม่ได้ถ้ำมองผู้เสียหาย แต่ส่องหาเพื่อนที่เข้าห้องน้ำด้วยกัน โดยตนทำงานก่อสร้างและรับจ้าง ช่วงนี้ว่างงาน จึงปั่นจักรยานมาเล่นที่สวนสาธารณหนองประจักษ์ และมาพบเพื่อนผู้ชาย จึงนั่งเล่นพูดคุยกัน ตนและเพื่อนเดินลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่เพราะปวดปัสสาวะอย่างแรง จึงเดินเข้าไปห้องน้ำผู้หญิง หลังทำธุระเสร็จ จึงได้เดินออกมาแต่ไม่พบเพื่อน จึงไปส่องดูว่าเพื่อนอยู่ห้องไหน แล้วผู้เสียหายก็ร้องให้คนช่วย

ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “กระทำการอันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำอันส่อไปในทางล่วงละเมิศทางเพศ” ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments