อุดรฯติดเชื้อทรงตัวแม้ยังพบสูง สาธารณสุขดูแลผู้ป่วยได้ มั่นใจฉีดวัคซีนเกินเป้า ขอให้ ศบค.พิจารณ์ “เปิดเมือง” เร็วกว่าแผนยาวถึงวันปีใหม่
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ตุลาคม 2564 นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข (สสจ.) อุดรธานี พญ.พัชริดา กลิ่นพะยอม อายุรแพทย์ รพ.ศูนย์อุดรธานี ร่วมกันแถลงสถานการณ์โควิด-19 พื้นที่อุดรธานีว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 173 ราย แยกเป็นติดเชื้อภายในจังหวัด 166 ราย ติดเชื้อนอกจังจังหวัด 7 ราย ยอดสะสม 13,977 ราย รักษาหายกลับบ้าน 146 ราย รักษาอยู่ 2,161 ราย ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะวันที่ 1 – 3 ตุลาคมที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อ 532 ราย ซึ่งทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงมากถึง 576 ราย จากสถิติที่ผ่านมาไม่สู้ดีนัก เนื่องจากพบว่าส่วนใหญ่แล้วผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจะกลายเป็นผู้ติดเชื้อเกือบทั้งหมด จะต้องกักตัวและเฝ้าระวังกลุ่มก้อนนี้อย่างใกล้ชิด
นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ภาพรวมยังมีแนวโน้มเกิดผู้ติดเชื้อยังสูง เกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนกระจายในหลายอำเภอ ส่วนใหญ่เกิดจากไม่แยกกินแยกอยู่ ไม่รักษามาตรการส่วนบุคคล และยังมีการรวมกลุ่มมีกิจกรรม ทั้งงานศพ งานวันเกิด สังสรรค์ ร่วมรับประทานอาหาร การระบาดในกลุ่มตลาดเริ่มทรงตัว ตลาดหลายแห่งให้ความร่วมมือ จัดการตลาดตามมาตรการ ส่วนเรือนจำกลางอุดรธานีนิ่งแล้ว ยอดสะสม 4,991 ราย รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 15 ราย รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสนามเรือนจำ 297 ราย แต่ก็มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ยอดสะสม 4 ราย
“ ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้แจกจ่ายชุดตรวจ ATK ให้แก่หน่วยงานต่าง ๆทั่วจังหวัดแล้วประมาณ 8 หมื่นชุด โดยประชาชนทั่วไปสามารถติดต่อขอรับได้แล้ว ผ่านทางแอพพลิเคชั่นเป๋าตังค์ และติดต่อขอรับได้ที่หน่วยงานใกล้บ้านท่าน ซึ่งสามารถตรวจได้ในแอพพลิเคชั่น และการจำหน่ายชุดตรวจ ATK ตามร้านขายยาสะดวกขึ้น ประชาชนซื้อหามาตรวจเองมากขึ้น แต่ละวันสาธารณสุขจะได้รับแจ้ง ให้ไปรับผู้ที่ตรวจ ATK พบติดเชื้อวันละหลายสิบราย ”
พญ.พัชริดา กลิ่นพะยอม อายุรแพทย์ รพ.ศูนย์อุดรธานี เปิดเผยว่า รพ.อุดรธานีมีผู้ป่วยรักษาอยู่ 178 ราย ใช้ออกซิเจน 71 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจอาการน่าเป็นห่วง 14 ราย ใช้ออกซิเจนแรงดันสูง 17 ราย ใช้ออกซิเจนแรงดันต่ำ 40 ราย ส่วนที่ศูนย์มรกตมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะนี้มีผู้ป่วยอยู่ 480 ราย เหลือเตียงอยู่ประมาณ 300 เตียง และสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 4 ราย รายที่ 102 เป็นชาย อายุ 73 ปี ชาว อ.กุมภวาปี ไม่มีประวัติโรคประจำตัว ไม่ได้รับวัคซีน ป่วย 8 ก.ย. เสียชีวิต 1 ต.ค.
“ รายที่ 103 เพศหญิง อายุ 79 ปี ชาว อ.พิบูลรักษ์ ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ได้รับวัคซีน มีประวัติดื่มสุราทุกวัน ป่วย 28 ส.ค. เสียชีวิต 1 ต.ค. รายที่ 104 เพศชาย อายุ 60 ปี ชาว อ.บ้านผือ เป็นโรคเก๊าท์ ไม่ได้รับวัคซีน ป่วย 24 ก.ย. เสียชีวิต 2 ต.ค. ทั้งหมดมีอาการปอดติดเชื้อ อาการแย่ลง ติดเชื้อในกระแสเลือด และเสียชีวิตในที่สุด ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 104 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตอีกรายเป็นผู้ป่วยในเรือนจำเป็นรายที่ 4 เพศชาย อายุ 53 ราย ป่วยด้วยโรควัณโรคปอด และติดเชื้อโควิดซ้ำอีก เมื่อวันที่ 13 ก.ย. เสียชีวิต 3 ต.ค. สาเหตุที่เสียชีวิตเกิดจากอาการป่วยวัณโรค เหนื่อยหอบ ไอเป็นเลือด และเสียชีวิตในที่สุด”
นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี ตอบข้อซักถามว่า ศบค.ได้กำหนดมาตรการฉีดวัคซีน สิ้นเดือนตุลาคมนี้ ทุกจังหวัดต้องฉีดได้มากกว่า 50 % อุดรฯฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 48.16 % ส่วนอำเภอต้นแบบฉีดเกินกว่า 70 % เราเลือก อ.หนองแสง ฉีดไปแล้ว 59.4 % ส่วน “โควิด ฟรี แอร์เรีย” พื้นที่เศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว ฉีดวัคซีนให้ได้ 80 % เราได้เลือก ต.นาข่า อ.เมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งตลาดผ้านาข่า ตลาดผ้าพื้นเมืองใหญ่ที่สุดในอีสาน ทั้งหมดอุดรธานีน่าจะฉีดวัคซีนผ่านเกณฑ์แน่นอน
“ ตามแผนของ ศบค.ให้อุดรฯเปิดเมือง ในระยะที่ 3 คือ 1 มกราคม 2565 แต่เราเห็นว่าเราน่าจะเปิดก่อนได้ คือเปิดได้ในระยะที่ 1 คือ 1 พฤศจิกายน 2564 จึงได้เสนอโครงการอุดร พลัส โมเดล ให้คณะกรรมการวิชาการ ศบค.รับไปพิจารณาในวันนี้ เพื่อรับนักท่องเที่ยวชาวยุโรป อเมริกา และสปป.ลาว มีการกำหนดพื้นที่เปิดเมือง สถานที่ท่องเที่ยว สถานประกอบการ ไว้ในแผนทั้งหมดแล้ว ซึ่งแหล่งท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ที่ร่วมโครงการ ต้องฉีดวัคซีน 100 % อาทิ คำชะโนด เจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้ประกอบการ ต้องฉีดวัคซีนทั้งหมด ก็รอว่า ศบค.จะพิจารณาให้เราเปิดได้เมื่อใด ”….
