ทีมข่าวอุดรวันนี้นัดหมายกับคุณตามนัส ทองยิ้ม หรือลุงนัส อายุ 70 ปี และคุณยายนวลกมล ทองยิ้ม อายุ 68 ปี สองสามีภรรยา ที่แผงราชาไก่หมุนน้ำผึ้งลุงนัส ริมถนนศรีชมชื่น หน้าบ้านพัก จนท.เรือนจำกลาง จ.อุดรธานี เขตเทศบาลนครอุดรธานี เพื่อพูดคุยและขอข้อมูล ท่ามกลางกลิ่นหอมของเครื่องเทศตลบอบอวนไปทั่วบริเวณ และโชว์การสับไก่ตัวเขื่องอย่างคล่องแคล่ว ในราคาเพียงตัวละ 130 บาท
“ลุงนัส” และภรรยา เป็นคนแก่ที่อัธยาศัยดีมาก คุยสนุกสนานเป็นกันเอง และมีมุกเรียกเสียงหัวเราะจากลูกค้าที่มาอุดหนุนตลอด ที่สำคัญถึงจะมีอายุมากแล้ว แต่ก็ยังทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้อย่างมีความสุข สังเกตจากเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม และสุขภาพยังแข็งแรงอีกด้วย ร้านนี้เริ่มต้นจากจากลูกชาย 2 คน ที่ยึดอาชีพเป็นพ่อค้าไก่หมุนน้ำผึ้งอยู่ที่ จ.ชลบุรี ตัดสินใจให้ “ลุงนัส” กลับมาหมุนไก่ขายอยู่ที่บ้านในบั้นปลายของชีวิตกับคุณแม่ ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ระบาดอย่างหนัก “ลุงนัส” จึงตัดสินใจขนเตากลับมาขายอยู่ที่บ้าน
ขายมาได้เพียง 3 เดือน มีลูกค้าประจำและขาจรแวะเวียนมาซื้อไปกินกับข้าวเหนียวส้มตำ ต่างพากันพูดว่าไก่หมุนน้ำผึ้ง “ลุงนัส” รสชาติหอมอร่อยลงตัวซึ่งภาษาอีสานพูดว่า “แซ่บหลาย” ราคาก็ไม่แพงแถมได้หัวเราะคลายเครียดหลังได้พูดคุยกับ “ลุงนัส” พ่อค้าสูงวัยที่อารมณ์ดีคนนี้ และทางร้านเข้าร่วมโครงการ เราชนะ และคนละครึ่งด้วย
ลุงนัสหรือตานัส เปิดเผยว่า เดิมทีเป็นชาว จ.นครสวรรค์ มีภรรยาเป็นชาว จ.อุดรธานี มีลูกชาย 2 คน ที่เป็นพ่อค้าไก่หมุนน้ำผึ้งอยู่ที่ จ.ชลบุรี เมื่อครั้งยังหนุ่มทำงานเป็นกรรมกรก่อสร้าง จนมาเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างเอง ระยะหลังประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา รู้สึกว่างานที่ทำมันไม่เหมาะกับวัยของตนเอง จึงไปขอซื้อสูตรไก่หมุนน้ำผึ้งจากน้องสาวที่ จ.นครสวรรค์ มาทำขายที่ จ.ชลบุรี ในราคาตัวละ 150-180 บาท แล้วแต่ขนาดของไก่ที่เขามาส่ง ผลปรากฏว่าขายดีมากจนลูกชายได้ขยายสาขาเพิ่ม โดยให้ตนเองแยกขายอีกเตา
หลังจากกลับมาขายที่อุดรธานี ขายได้วันละ 18-30 ตัว แล้วแต่สภาพอากาศจะเอื้ออำนวย เพราะเป็นช่วงฤดูฝน และปกติจะหยุดขายทุกวันจันทร์ แต่ฝนเป็นเหตุ ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาเป็นวันอาทิตย์ ฝนตกทั้งวัน มาวันนี้เป็นวันจันทร์ จึงพากันนำไก่ที่หมักเอาไว้ออกมาหมุนขาย โดยตนเองจะออกมาตั้งเตาเวลา 04.00 น. กว่าจะเตรียมร้านเสร็จและย่างไก่จนสุก และพร้อมวางขายเวลาประมาณ 07.30-08.00 น. ถึงตนเองและภรรยาจะมีอายุมากแล้ว แต่งานที่ทำก็ไม่ได้ลำบากมากมายจนทำไม่ได้ โชคดีหน่อยที่ตนเองยังสุขภาพดี จะเป็นห่วงก็แต่ภรรยาที่สุขภาพไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
ตั้งใจว่าจะขายไก่หมุนไปจนกว่าตนเองจะเดินไม่ได้ เพราะเป็นอาชีพที่เหมาะกับคนวัยเกษียณ และเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับลูกๆ โดยไม่ต้องรอเงินที่ลูกส่งมาให้ทุกเดือน และลูกๆคงเดือดร้อนจากพิษโควิด 19 เช่นกัน และที่สำคัญไก่หมุนน้ำผึ้งของตนเอง หมุนร้อนๆตัวแรกไปตนถึงตัวสุดท้าย ลุกค้าไม่ต้องกลัวโควิด เพราะโควิดกลัวความร้อน และไม่เคยได้ยินลูกค้าว่าไม่อร่อย มีแต่บอกว่า “แซ่บหลาย” จะกินกับส้มตำข้าวเหนียวก็อร่อยเหาะ หรือจะจิ้มกับน้ำจิ้มสามรสที่ทำเอง ก็จะได้ความอร่อยหรือความแซ่บไปอีกแบบไม่แพ้เมนูไก่อย่างอื่น ป่ะ ไปชิมกันเถอะ
