เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 ที่ อ.หนองแสง จ.อุดรธานี ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มสร้างความเสียหาย 6 หมู่บ้าน 2 ตำบล ได้แก่ ต.หนองแสง และ ต.แสงสว่าง รวมทั้งสิ้น 110 หลังคาเรือน พายุพัดราว 30 นาที ทำให้บ้านเรือน , ยุ้งข้าว , ต้นไม้ , ต้นยางพารา พืชสวนทางการเกษตร และต้นเสาไฟฟ้าหักโค่น 4 ต้น ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้เร่งตั้งเสาไฟฟ้าและเชื่อมต่อกระแสไฟฟ้าเข้าระบบ บริเวณทางเข้าหมู่บ้านโคกสว่าง ไม่มีไฟฟ้าใช้มาตั้งแต่คืนที่ผ่านมา
โดยที่ บ.โคกสว่าง ต.หนองแสง เสียหายหนักที่สุดรวม 41 หลังคาเรือน แบ่งเป็นหนักมาก 11 หลัง ที่หลังคาถูกแรงพายุพัดปลิวหายไปไกล และเสียหายเล็กน้อยถึงปานกลาง 29 หลังคาเรือน ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังออกสำรวจความเสียหายที่ชัดเจน เพื่อรวบรวมรายงานความเสียหาย โดยมีกำลังทหารจากค่ายประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี เข้ามาให้การช่วยเหลือ เก็บข้าวของ เศษใบไม้ต้นไม้ที่หักโค่น สังกะสีที่ติดอยู่ตามสายไฟฟ้า และปลิวไปในทุ่งนา ขณะที่ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านโคกสว่าง ได้นำเครื่องปั่นไฟฟ้ามาบริการแก่ลูกบ้าน เพื่อชาร์ตแบตเตอรี่โทรศัพท์ และโคมไฟฉาย หากคืนนี้ยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด
นายคำพันธ์ ทองเจริญ อายุ 62 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโคกสว่าง เปิดเผยว่า ขณะเกิดพายุไปรับจ้างต่อเติมบ้าน ห่างจากบ้านตนเอง 200 เมตร มองเห็นท้องฟ้ามืด สักพักก็มีฝนตกลงมา แต่ไม่มีลูกเห็บ ต่อด้วยลมพายุหมุนรุนแรงราว 30 นาที ไม่เคยเห็นพายุรุนแรงขนาดนี้ ยอมรับว่ากลัวมาก และรีบวิ่งหลบเข้าไปในบ้านนายจ้าง เมื่อพายุสงบก็เดินออกมา พบเห็นสังกะสีหลังคาบ้านปลิวไปติดอยู่สายไฟฟ้าจำนวนมาก ส่วนบ้านของตนก็ถูกแรงพายุพัดหลังคาชั้นสองหายไปครึ่งหนึ่ง และปลิวไปตกอยู่กลางทุ่งนาห่างจากตัวบ้าน 100 กว่าเมตร ตอนแรกคิดว่าภรรยากับหลานสาวคงไม่รอด แต่ก็ปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บ เพราะภรรยาอุ้มหลานวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ
