จังหวัดอุดรธานีแจงผลสอบ ฌาปนกิจสมาคมใน อ.ไชยวาน ทำผิดกฎหมายต้องยกเลิก ชาวบ้านเตรียมร้องซ้ำ ให้คณะกรรมการคืนเงิน 3% และยกเลิกสมาคมต้องชำระบัญชี แต่หวั่นสมาคมให้ข้อบังคับปิดปาก
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2564 นายสมเจต สายบัวต่อ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.5 บ.หัวหนองยาง ต.หนองหลัก อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ได้เข้าพบร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ติดตามการแก้ๆไขปัญหาฌาปนกิจสงเคราะห์ ของสมาคมแห่งหนึ่งใน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ซึ่งผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี แจ้งผลการสอบสวนว่ามีการกระทำผิด ขอให้ยกเลิกสมาคมฯ และจดทะเบียนใหม่ ให้ถูกต้องตาม พรบ.ฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ.2545 แต่สมาคมฯกลับจะใช้ข้อบังคับสมาคมฯ มาปิดปากชาวบ้าน
นายสมเจต สายบัวต่อ เปิดเผยว่า ฌาปนกิจฯสมาคมแห่งนี้ตั้งมากว่า 20 ปี มีสมาชิกมากกว่า 11,423 ราย เงินแรกเข้าเป็นสมาชิก 1,400 บาท (ประกันความเสี่ยง+กองทุนบริการ) รวมเงินกว่า 16 ล้านบาท ตนเองสมัครเป็นสมาชิก 30 พ.ค.59 หมายเลข 3861 จ่ายเงินสงเคราะห์ศพละ 50 บาทมาต่อเนื่อง จนในช่วง ก.ย.63 มีสมาชิกเสียชีวิตมากกว่า 10 คน แต่ผู้รับเงินสงเคราะห์ไม่ได้รับเงินทันที ต้องรอให้มีการเก็บเงินจากสมาชิกก่อน ทำให้สมาชิกฯเกิดความกังวน เพราะมีข่าวฌาปนกิจหลายแห่งล้ม
“ ผมได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากสมาชิก โดยเฉพาะเอกสารการประชุมใหญ่สมาคมฯ 12 ก.พ.62 ซึ่งเป็นรายงานการดำเนินงานในปี 61 ซึ่งเอกสารระบุมีเงินฝากธนาคาร 12.5 ล้านบาท เงินจำนวนนี้น่าจะนำมาจากให้สมาชิกทันที ในช่วงที่ญาติพี่น้องต้องจัดงานศพ นอกจากนี้เอกสารยังระบุข้อสงสัยหลายเรื่อง อาทิ การแบ่งรายได้ 3 เปอร์เซนต์ให้คณะกรรมการฯ ซึ่งไม่สามารถทำได้ ขณะที่กำลังเก็บข้อมูล สมาคมฯเชิญผมไปพบ 8 ต.ค.63 แต่ติดภาระกิจไปไม่ได้ สมาคมฯตัดชื่อผมออกทันที ตามข้อ 6 คำเตือนท้ายระเบียบ ”
นายสมเจต สายบัวต่อ กล่าวต่อว่า 12 ต.ค.63 ได้ร้องเรียนต่อนายอำเภอไชยวาน แต่ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ 21 ต.ค.63 จึงเข้าร้องเรียนต้อศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี ล่าสุดนายปราโมทย์ ธัญญพืช รองผู้ว่าฯ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่า มีหนังสือแจ้งมาถึงตนเอง ลงวันที่ 22 ก.พ.2563 ระบุว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าการดำเนินงานของสมาคมดังกล่าว ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งพาณิชย์ ม.78 และ ม.79 จึงแจ้งให้ยกเลิกสมาคมฯ โดยให้จดทะเบียนสมาคมใหม่ ให้ถูกต้องตาม พรบ.ฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ.2545 และการตรวจสอบประเด็นอื่น ๆ อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง
นายสมเจต สายบัวต่อ กล่าวตอนท้ายว่า ยังคงจะขอความเป็นธรรมต่อทุกช่องทาง เพื่อรักษาสิทธิของชาวบ้าน ในส่วนที่จังหวัดเห็นว่ามีความผิด ม.78 และ ม.79 เงินที่คณะกรรมการรับไป 3 เปอร์เซ็นต์จะต้องคืน และการที่สั่งให้ยกเลิกสมาคมฯ จะต้องมีการชำระบัญชีสมาคมฯ ก่อนจึงจะกลับมาจดทะเบียนใหม่ ขณะที่ส่วนอื่นต้องตรวจสอบเพิ่ม อาทิ เงินฝากธนาคารซึ่งเป็นชาวบ้าน มีอยู่จริงจำนวนเท่าใด เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยเปิดเผย หรือดอกเบี้ยเงินฝากต่ำเกินไป โดยมีชาวบ้านลงชื่อ และจะไปยืนหนังสือสัปดาห์ในนี้ ทำให้สมาคมฯออกมาข่มขู่ หากทำจะถูกขับชื่อออกจากสมาชิก ตามข้อ 6 คำเตือนท้ายระเบียบ เงินที่จ่ายไปจะไม่ได้…..