จากกรณี น.ส.วรรณา แก้วชิน อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 98 บ.สระคุน้อย ม.7 ต.หนองหัวคู อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พร้อมญาติ เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนหลังจากค่าไฟฟ้าบ้านพักมีราคาแพงผิดปกติ 4 เดือน ค้างชำระ 51,000 บาท ทั้งที่ไม่มีคนอยู่อาศัยนานกว่า 1 ปี แจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.บ้านผือ เข้ามาตรวจสอบแล้ว พบว่ามีจุดที่กระแสไฟฟ้ารั่วและบอกว่าเป็นการใช้ไฟฟ้าจริงในบ้านพักอาศัย ซึ่งการไฟฟ้าฯ สามารถช่วยเหลือได้เพียงตัดงวดเป็นการผ่อนชำระ มีการตัดกระแสไฟฟ้า และยกหม้อมิเตอร์จ่ายไฟฟ้าออกไปแล้ว และมีการท้าทายให้ไปร้องสื่อ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางที่ สนง.กฟภ.จ.อุดรธานี พบกับนายศุภชัย โนนขู่เขตโขง อายุ 59 ปี ผจก.กฟภ.จ.อุดรธานี หลังประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาในการทำงานของ กฟภ.อ.บ้านผือ และตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาทางเยียวยากับผู้ร้องหรือผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านเลขที่ 98 ม.7 ต.หนองหัวคู อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ที่มีค่าหน่วยการใช้ไฟฟ้า 4 เดือน พุ่งขึ้นเกือบ 1 หมื่นหน่วย คิดเป็นเงินรวม 51,000 บาท ที่แพงเกินความเป็นจริงอย่างมาก
ทั้งที่บ้านพักอาศัยมีเพียงหลอดไฟนีออนเพียง 2 หลอด และไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างอื่นเลย และได้รับรายงานหลังจากเกิดเรื่องผู้ใช้ไฟฟ้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.บ้านผือ ศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี และ กฟภ.จ.อุดรธานี และสื่อมวลชนในพื้นที่ เพื่อขอความเป็นธรรม หลังจากเจ้าหน้าที่ กฟภ.อ.บ้านผือ และผู้ใช้ไฟฟ้ามีการท้าทายให้ไปร้องเรียนที่ไหนก็ได้ ถึงอย่างไรก็ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าอยู่ดี ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่าภายในบริเวณบ้าน และโครงบ้านที่ทำด้วยเหล็กมีกระแสไฟฟ้ารั่ว จากสายไฟฟ้าที่เก่าและชำรุด จึงทำให้ไฟฟ้าแพงเกินจริง
นายศุภชัย โนนคู่เขตโขง ผจก.กฟภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ในฐานะตนเองเป็นผู้บังคับบัญชา กฟภ.อ.บ้านผือ หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ ว่าค่าไฟแพงเกินคามเป็นจริง รวม 4 เดือน 51,000 บาท สาเหตุจากกระแสไฟฟ้าภายในบริเวณบ้านและภายในบ้านรั่ว ทางเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ทราบว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ค่าไฟพุ่งผิดปกติ ทางเจ้าหน้าที่จึงไม่ได้ออกบิลแจ้งค่าไฟ แต่เป็นการออกบิลเปล่า และแจ้งให้ผู้ใช้ไฟฟ้าไปติดต่อกับ กฟภ.อ.บ้านผือ แต่ผู้ใช้ไฟทำงานอยู่ต่างจังหวัด จึงทำให้ไม่มีการติดต่อ และมีการแจ้งบิลค่าไฟฟ้าค้าชำระรวม 3-4 เดือน รวมเป็นเงิน 51,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าตรวจสอบจนทราบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่ว และเป็นที่มาของค่าไฟฟ้าแพงเกินความเป็นจริง
จึงตั้งคณกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาแนวทางการเยียวยากับผู้ใช้ไฟฟ้ารายนี้แล้ว ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ไปถอดมิเตอร์ไฟฟ้าออกแล้ว เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นที่มีกระแสไฟฟ้ารั่ว เพื่อหาทางแก้ไขให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า ตนเองก็ได้ตำหนิในการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชา หากว่าพบค่าไฟฟ้าแพงเกินจริง ต้องรีบรายงานฝ่ายบัญชี และฝ่ายช่าง เพื่อทำรายงานปัญหาขึ้นมาตามลำดับขั้น ว่าปัญหาคืออะไร แต่บางทีฝ่ายช่างก็มีงานเร่งรีบในพื้นที่จำนวนมาก และการทำงานต้องใช้ไหวพริบ และรีบรายงานปัญหา ที่สำคัญให้ยึดหลักความเป็นจริง
”อย่าไรก็ตามทางเราก็ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาทางเยียวยาให้กับผู้ใช้ไฟฟ้ารายนี้ต่อไป ส่วนเรื่องที่เจ้าหน้าที่ กฟภ.อ.บ้านผือ มีปากเสียงกับผู้ใช้ไฟฟ้า และมีการท้าทายกันนั้น ทางเราก็ต้องขออภัย ที่ทาง ผจก.กฟภ.อ.บ้านผือ ได้พูดกับผู้ร้องแรงไปหน่อย และได้กำชับว่ากล่าวตักเตือนไปแล้วว่า ให้ใช้สติ ใจเย็นในการยับยั้งชั่งใจลงบ้าง เพราะผู้ใช้ไฟเป็นลูกค้า หรือเป็นพระเจ้าของเราก็ว่าได้”