ที่ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เกิดเหตุการณ์ชายคลั่งอาละวาด เหตุไปเซ็นต์ขนมและไอศกรีมร้านหลานชายที่เป็นตำรวจไม่ได้ ควงมีด 2 เล่ม บุกบ้านพี่ชายหรือพ่อของตำรวจ ชุลมุนยื้อแย่งมีดกัน ตำรวจหนุ่มเห็นท่าไม่ดี พ่อเสียท่าเพรี้ยงพร้ำกำลังจะถูกฟัน ตัดสินใจชักปืนยิงลงพื้นสยบความคลั่ง 3 นัด แฉลบเข้าขา 2 นัด สะโพก 1 นัด จนสิ้นฤทธิ์ ก่อนช่วยกันพาส่งโรงพยาบาล แต่เสียเลือดมากและเสียชีวิตในที่สุด เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วันที่ 28 มีนาคม 2566 ตำรวจหนุ่มยืดอกถือปืนเข้ามอบตัว ผกก.สภ.วังสามหมอ ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 มีนาคม 2566 พ.ต.อ.วิชาญ สุธรรมแปง ผกก.สภ.วังสามหมอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.อุดรธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 43 บ.โนนสวาง ม.7 ต.หนองกุงทับม้า อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี หลังจาก ส.ต.อ.พงศกร ภูเลื่อมใส ผบ.หมู่ (จร.) สภ.วังสามหมอ ใช้อาวุธปืนซิกซาวเออร์ประจำกาย ขนาด 9 มม. ยิงนายทนง ล้านภูเขียว อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 ม.7 ต.หนองกุงทับม้า อ.วังสามหมอ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เบื้องต้นนายตี๋ ภูเลื่อมใส อายุ 54 ปี พ่อ ส.ต.อ.พงศกรฯ นายรอนบรรจง ภูเลื่อมใส อายุ 21 ปี น้องชาย ส.ต.อ.พงศกรฯ และ น.ส.จันทร์ธิดา บุตรอิน อายุ 29 ปี ภรรยา ส.ต.อ.พงศกรฯ นำตำรวจชี้จุดเกิดเหตุ และให้ข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ที่เกิดเหตุเป็นถนนคอนกรีตในหมู่บ้าน พบเพียงกองเลือดอยู่หน้าบ้านนายตี๋ ส่วนปลอกกระสุนปืน หัวกระสุนปืน อาวุธปืน ของ ส.ต.อ.พงศกรฯ รวมทั้งอาวุธมีดยาวประมาณ 50 ซม. 2 เล่ม ของนายทนงฯ ผู้เสียชีวิต พนักงานสอบสวนได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ด้าน ส.ต.อ.พงศกรฯ ยังไม่ได้ถูกนำตัวมาที่เกิดเหตุ ผกก.สภ.วังสามหมอ สั่งให้พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้มาช่วยงานหน้าห้อง ผกก. เป็นการชั่วคราว และรอให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนศพของนายทนงฯ ทราบว่าอยู่ระหว่างการชันสูตรศพที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี คาดว่าจะนำกลับมาทำพิธีสวดอภิธรรมศพ ที่บ้านของนายทนงฯ ได้ในช่วงค่ำของวันนี้
ส.ต.อ.พงศกรฯ ให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุตนเองพักผ่อนอยู่ในห้องหลังร้านชำ ภรรยาอยู่หน้าร้าน น้องชายซ่อมเครื่องกดน้ำหยอดเหรียญอยู่หน้าร้าน นายทนงฯ ได้เข้ามาขอซื้อขนมและไอศกรีม เป็นเงินเกือบ 40 บาท แต่จ่ายมาเพียง 20 บาท ภรรยาตนจึงต่อว่า และไม่ให้เซ็นต์ของเอาไว้อีก จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ภรรยาบอกให้ตนออกมาเคลียร์กับนายทนงฯ ตนจึงไล่หนี และเกิดการท้าทายกัน ก่อนที่นายทนงฯ จะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านไป ตอนนั้นตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนน้องชายกลับไปบ้านพ่อ เพื่อให้พ่อไปตักเตือนอา ไม่ให้มาทำแบบนี้อีก
“ ไม่ถึง 5 นาที นายทนงฯ คุ้มคลั่งถือมีดยาว 2 เล่ม ร้องตะโกนโวยวายจากบ้านตัวเอง เดินลัดพื้นที่ว่างข้างบ้าน ตรงมาที่บ้านพ่อ ซึ่งตอนนั้นตนเอง พ่อ และน้องชาย กำลังพูดคุยกันอยู่หน้าบ้าน ส่วนแม่ยืนดูอยู่ในบ้าน จังหวะนั้นนายทนงฯ ได้พยายามใช้มีดฟันพ่อ แต่มีดแฉลบถากข้างแขนพ่อไป ตนเองจึงเข้าไปชุลมุนชกต่อยกันเพื่อแย่งมีด ตอนนั้นพ่อเสียท่าถูกนายทะนงฯ คล่อมร่างเตรียมจะฟันอีก น้องชายได้ใช้เท้าถีบนายทนง เขาก็พยายามจะลุกขึ้นมาทำร้ายคนอื่นอีก ตนจึงตัดสินใจนำปืนออกมายิงลงพื้นเพื่อสกัดนายทนงฯ ตอนนั้นมืดมากมองไม่ค่อยเห็นอะไร สิ้นเสียงปืนนายทนงฯ ก็ล้มลงจมกองเลือด พวกตนจึงรีบนำตัวส่ง รพ.วังสามหมอ และส่งต่อไปที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี “
ส.ต.อ.พงศกร ให้ข้อมูลอีกว่า นายทนงฯ มีศักดิ์เป็นอา เป็นน้องชายของพ่อต่างบิดา แต่ครอบครัวก็รักใคร่กันดี มีบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้เคียงกันทั้งหมด พ่ออาศัยอยู่กับแม่และน้องชาย ที่บ้านหลังเกิดเหตุ นายทนงฯ อาศัยอยู่กับปู่และย่า อยู่หลังบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนตนเองและภรรยาที่กำลังท้องลูกคนแรก 7 เดือน อาศัยอยู่ร้านขายของชำ (ร้านถูกดี) ในหมู่บ้านห่างกันไปประมาณ 1 กม. อยู่ริมถนนวังสามหมอ-วาริชภูมิ ก่อนหน้านี้ตนเองมีตำแหน่งอยู่ จร.กลาง เพิ่งจะย้ายกลับมาที่ สภ.วังสามหมอ ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อมาดูแลภรรยาที่ใกล้จะคลอดลูก
“ นายทนงฯ ผู้เป็นอา มีคู่แฝด นายทนงฯ เป็นแฝดผู้พี่ ติดเสพยาบ้าอย่างหนัก อาแฝดผู้น้องอยู่อีกหมู่บ้าน มีนิสัยดี ทำมาหากิน นายทนงฯ ไม่มีงานทำ มักจะขอเงินปู่และย่า เพื่อไปซื้อยาบ้ามาเสพ นายะนงฯ มีประวัติเป็นผู้ป่วยจิตเวช แต่เขาไม่ยอมเข้ารับการรักษา ได้แต่นำยามากินเอง นายทนงฯ มีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย มักจะไปข่มขู่ร้านค้าในหมู่บ้าน เพื่อเซ็นต์เหล้าเบียร์ ขนมขบเคี้ยว แล้วจะให้ปู่และย่าไปจ่ายให้ทีหลัง ช่วงหลังหากขอเงินปู่ย่าไม่ได้ เซ็นต์ของที่ร้านค้าไม่ได้ ก็จะอาละวาด ข่มขู่คนไปทั่ว หนักเข้าถึงขั้นควงมีดไปขู่ร้านค้า เป็นที่เอือมระอาของชาวบ้านและญาติพี่น้อง ตนเสียใจที่เกิดเรื่องขึ้นแบบนี้ หากไม่ยิงออกไป พ่ออาจจะถูกฟันจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตั้งใจว่าจะบวชหน้าไฟอา ตั้งใจว่าจะไปขอขมาศพ ขอขมาปู่ย่า ส่วนเรื่องคดีความก็ว่ากันไปตามหลักฐาน ”
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับพ่อ ภรรยา และน้องชาย ของ ส.ต.อ.พงศกรฯ ต่างก็ให้ข้อมูลสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน จุดเริ่มต้นมาจากนายทนงฯ ติดยาเสพยาบ้านอย่างหนัก มักจะมาก่อความวุ่นวาย ชอบหยิบเอาสินค้าในร้านค้าทุกร้านในหมู่บ้านไปโดยไม่จ่ายเงิน ปู่และย่าต้องนำเงินมาคอยจ่ายให้ทุกครั้ง ญาติฯ ได้ไปบอกปู่ย่าว่าไม่ให้เขามาเซ็นต์ของอีกแล้ว เพราะที่ติดค้างอยู่กับเป็นเงินเกือบ 4 พันบาท แต่เขาก็ยังมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่ และจากการสอบถามร้านค้าในหมู่บ้าน ก็ทราบว่านายทนงฯเคยมาก่อเหตุลักเงินในร้านไปจำนวน 6 พันบาท เป็นคดีความกันไปแล้ว ช่วงหลังมาหากเซ็นของไม่ได้ก็จะถือมีดมาข่มขู่ บางครั้งถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน
พ.ต.อ.วิชาญ สุธรรมแปง ผกก.สภ.วังสามหมอ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้เก็บหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว จะได้ทำการสอบปากคำ ส.ต.อ.พงศกรฯ และพยานในที่เกิดเหตุทุกคนอย่างละเอียดอีกครั้ง และหากศพของนายทนงฯกลับมาถึงบ้าน และทางครอบครัวพร้อม ก็จะได้นำตัว ส.ต.อ.พงศกรฯ มาขอขมาศพผู้เป็นอา ตามที่เขาตั้งใจ เรื่องคดีความก็ต้องว่ากันไปตามหลักฐาน จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าว ส.ต.อ.พงศกรฯ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป