หนุ่มใหญ่ 49 ปี ติดเหล้าหนักจนเกิดอาการหูแว่ว ตัดสินใจผูกคอตายในป่าปลายนาตัวเอง “ชีโร่” หมาเลี้ยงสุดรักเดินกลับเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อบอกคนอื่นให้รู้ว่าเจ้านายตัวเองตายแล้วถึง 3 ครั้ง สุดท้ายญาติไปหาในป่าพบเจ้าชีโร่นอนเฝ้าศพไม่ห่าง ก่อนเห่าเรียกให้ตามกลับมาด้วย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่แผนกนิติเวช รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อไปพบกับนางสมปอง ม่วงสุราษ อายุ 56 ปี ชาวบ้านดู่ ม.5 ต.บ้านขาว อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมกับญาติ ที่กำลังรอรับศพนายสำเนียง ใจหาญ หรือสำ อายุ 47 ปี หลานชาย หลังจากก่อเหตุใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเองกับต้นไม้จนเสียชีวิต เหตุเกิด 17.00 น. 27 มกราคม 2567 ในป่าใกล้นาตัวเอง บ้านดู่ ม.5 ต.บ้านขาว อ.เมือง จ.อุดรธานี ญาติได้เชิญดวงวิญญาณ นำร่างกลับไปทำพิธีฌาปนกิจทันทีที่วัดวัดป่าศิริมงคล (บ้านดู่)
นางสมปองฯ อาผู้ตาย เล่าว่า นายสำเนียงฯเป็นโสดไม่มีครอบครัว เป็นลูกคนสุดท้องจากทั้ง 4 คน เคยไปทำงานที่ไต้หวันเมื่อ 10 กว่าปีก่อน หลังพ่อแม่ของนายสำเนียงเสียชีวิต นำสำเนียงมาอาศัยอยู่ที่บ้านของพ่อที่สร้างไว้ในที่นา นายไม่เคยมีเรื่องกับใคร ไม่มีเรื่องเดือดร้อนอะไร ทำไร่ทำนาในพื้นที่มรดก หากินไปตามประสา แต่ติดเหล้าหนักมาก กินเหล้าขาววันละไม่ต่ำกว่า 5 ขวดเล็ก เมื่อปีที่แล้วเคยบอกว่ามีคนมาพูดข้างหู ได้ยินเสียงแว่ว คิดว่าคงเป็นอาการหลอนจากการดื่มเหล้าหนัก
“ นายสำเนียงจะเลี้ยงหมาชื่อชีโร่ เพศผู้ อายุประมาณ 5 ปี เขาเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็ก ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ไม่เคยอยู่ห่างกัน เจ้าชีโร่ฉลาดมาก เพราะเมื่อวานนี้เจ้าชีโร่ วิ่งมาที่บ้านในหมู่บ้าน ที่ห่างกันเกือบ 2 กม. และยังวิ่งมาถึง 3 รอบ ตนก็แปลกใจอยู่แล้ว ขณะหลานชายไม่เข้ามาหาเหมือนทุกวัน จึงบอกหลานชายอีกคนไปตามหาก็พบว่าผูกคอตายแล้ว และไม่ติดใจในสาเหตุการตาย ตั้งใจเผาหลานในวันนี้เลย เพราะเขาตายไม่ดี เป็นความเชื่อของครอบครัว ”
ต่อมาผู้สื่อข่าวไปพบนายสรศักดิ์ พันธุ์เพ็ชร อายุ 49 ปี คนพบศพแรก ได้พาเดินทางไปบ้านพักของนายสำเนียง พบว่าบ้านปิดเงียบไม่มีคนอยู่ พบเพียงเจ้าชีโร่นอนเฝ้าอยู่อย่างเหงาหงอย ก่อนที่นายสรศักดิ์ฯ จะพาเดินไปจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นป่าเต็งรังอยู่ในพื้นที่นาของผู้ตายเอง ห่างจากบ้านพักปลายนา 500 ม. ซึ่งเจ้าหน้าที่และญาติเก็บหลักฐานไปแล้วทั้งหมด พบเพียงร่องรอยที่เจ้าชีโร่นอนเฝ้าศพเจ้านายตัวเองอยู่ไม่ห่าง จนเป็นรอยเตียนเห็นได้อย่างชัดเจน
นายสรศักดิ์ฯ เล่าว่า เป็นญาติกับผู้ตาย เล่นด้วยกันตั้งแต่เด็ก และมีบ้าน ที่นา อยู่ใกล้กัน ญาติโทรมาบอกว่านายสำหายไปตั้งแต่เช้า เห็นแต่หมาวิ่งไปที่บ้าน เช้าวานนี้ตนก็มาที่บ้านนายสำ ก็เห็นแต่เจ้าชีโร่นอนอยู่ข้างกองไฟข้างบ้าน หันหน้าเห่าไปทางจุดเกิดเหตุ เจ้าชีโร่พยายามส่งเสียงบอกตลอด ตนก็ไม่รู้ว่าจะสื่อถึงอะไร พอตกเย็นเมื่ออาบอกให้ไปหาในป่าดู ตนก็ไปดู เพราะนายสำชอบไปตัดไม้ที่นั่น เอามาเผาถ่าน เดินไปตะโกนเรียกชื่อไป
“ เมื่อใกล้ถึงจุดเกิดเหตุ ก็เห็นร่างนายสำเนียงคล้ายยืนอยู่ เรียกไป 2 – 3 ครั้ง ก็ไม่มีเสียงตอบ คิดว่าคงยืนปลดทุกข์อยู่ เมื่อเดินใกล้เข้าไปจึงรู้ว่านายสำผูกคอเสียชีวิตแล้ว ตอนนั้นตกใจมาก ขาสั่นทำอะไรไม่ถูก เมื่อตั้งสติได้ รีบโทรบอกญาติ และแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ตอนเจ้าหน้าที่ทำงาน เจ้าซีโร่ก็นอนเฝ้าที่ปลายเท้าไม่ไปไหน พอเอาศพขึ้นรถแล้ว ก็เห่าตามหา มันคงไม่เห็นเจ้านายตัวเอง คงร้องเรียกให้กลับบ้านด้วยกัน ต่อไปจะเข้ามาที่บ้านนายสำทุกวัน เพื่อให้อาหารและดูแลเจ้าชีโร่เอง ”