เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 สิงหาคม 2565 ขณะที่ ร.ต.ท.ศุภกร ทุมจีน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก นายสมศรี โพธิ์ศรีพรม อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 บ.จำปา ม.7 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี และชาวบ้านจาก บ.จำปา จำนวนหนึ่ง ได้นำต้นข้าวจำนวนหนึ่งเข้ามาแจ้งความว่า ต้นข้าวที่กำลังโตมีลักษณะรากเน่า เกิดความเสียหายเป็นจำนวนหลายไร่ คาดว่าเกิดจากการปล่อยน้ำเสียออกจากโรงงานผลิตยางแท่งในพื้นที่ ซึ่งต้องการเรียกร้องค่าเสียหายทั้งหมด
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่จาก สนง.สิ่งแวดล้อมภาค 9 และ อบต.หนองนาคำ พร้อมด้วยวิศกรจาก บ.ศรีตรัง แอโฟร์ อินดัสทรี จก.(มหาชน) ได้ร่วมกันตรวจสอบที่นาที่ระบุว่าได้รับความเสียหายจากน้ำเสียที่ถูกปล่อยออกจากโรงงาน พื้นที่นาทั้งหมดติดกับโรงงานและลำห้วยโสกโป่ง ต้นข้าวบางส่วนที่บริเวณรากมีลักษณะเน่า ใบข้าวเริ่มมีสีเหลือง เหี่ยวเฉา น้ำมีสีขุ่น มีกลิ่นเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ สนง.สิ่งแวดล้อมภาค 9 ได้เก็บตัวอย่างน้ำในที่นาและในลำห้วยไปตรวจสอบเบื้องต้น
และจากการตรวจสอบพบว่ามีความเค็มเกินค่ามาตรฐาน แต่ยังระบุไม่ได้ว่ามีสารชนิดเจือปนบ้าง ต้องนำตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ด้านชาวบ้านที่ไปร่วมสังเกตการณ์ ได้นำชุดตรวจแบเรียม มาตรวจสอบน้ำในที่นาและลำห้วยคู่กัน โดยพบว่าเมื่อตรวจสอบแล้วน้ำจะเปลี่ยนเป็นสีขุ่น อนุมานได้ว่าในน้ำมีการเจือปนของกรดซัลฟิวริค หรือน้ำกรดหยดยางที่เกษตรกรใช้กับยางก้อนถ้วย โดยวิศกรของ บ.ศรีตรังฯ ยืนยันว่าทางโรงงานไม่มีการปล่อยน้ำเสียออกจากโรงงานแม้แต่อย่างใด แต่จะได้ปรึกษากับส่วนงานที่เกี่ยวข้องของโรงงาน เข้ามาดูแลแก้ไขร่วมกับชาวบ้านอีกครั้ง
นายสมศรีฯ เจ้าของที่นา เปิดเผยว่า มีที่นา 14 ไร่ เริ่มปลูกข้าวตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ได้มาสำรวจต้นข้าวในนาตามปกติ ซึ่งทั้งหมดกำลังงอกงาม แต่ก็พบว่าต้นข้าวบางส่วนที่ใบเริ่มเหี่ยวมีสีเหลือง บางต้นเหี่ยวเฉาจนตาย เมื่อดึงต้นข้าวขึ้นมาก็พบว่ารากเน่า เมื่อตรวจสอบโดยรอบพบว่าเสียหายประมาณ 6 ไร่ น้ำในนาข้าวที่เสียหายมีสีและกลิ่นเปลี่ยนไป จากการปรึกษากับเพื่อนบ้าน คิดว่าน่าจะเกิดจากน้ำเสียที่โรงงานยางใกล้กัน ปล่อยลงในลำห้วยโสกโป่งในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้น้ำเสียบางส่วนล้นเข้ามาในที่นา จนเกิดความเสียหายขึ้น จึงร้องเรียนไปทาง อบต.หนองนาคำ จนมีการออกมาตรวจสอบ และมาแจ้งความไว้เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายทั้งหมดจากโรงงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการพูดคุยกับแหล่งข่าวในพื้นที่ พบว่าช่วงที่ผ่านมามีฝนตกลลงมาอย่างหนักในพื้นที่ ทำให้ที่นาที่ติดกับลำห้วยโสกโป่งถูกน้ำจากลำห้วยล้นเข้ามา และมีประจักษ์พยานเป็นชาวบ้าน พบเห็นการสูบน้ำออกจากโรงงานยางที่ถูกกล่าวหาในช่วงเดียวกัน เมื่อชาวบ้านเข้าไปสอบถาม พนักงานที่คุมเครื่องสูบน้ำได้บอกว่า เป็นการระบายน้ำออกจากโรงงาน แต่เป็นน้ำที่บำบัดและมีคุณภาพดีแล้ว แต่ไม่ได้มีการบันทึกภาพนิ่งหรือภาพวิดิโอเอาไว้
