การกำจัดขยะของอุดรธานีแบ่งเป็น 4 โซน ที่ทีมงานข่าวของเราตั้งประเด็นไว้ว่า ทั้งหมดมีเป้าหมายเอาขยะมาปั่นไฟฟ้า โซน 1 นครอุดรธานี แยกขยะมาแล้ว 3 ปีเศษ และสร้างโรงไฟฟ้าเสร็จแล้ว แต่ถูกระงับสัญญาขายไฟฟ้าให้ กฟภ. โซน 4 มีสัญญาขายไฟฟ้าให้ กฟภ.แล้ว แต่ยังไม่รับอนุมัติสร้างโรงไฟฟ้า ส่วน โซน 3 และ 4 ยังไม่มีสัญญาขายไฟฟ้าให้ กฟภ. ขณะที่รัฐบาลสั่งระงับการซื้อไฟฟ้าใหม่เพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 ที่ห้องประชุมคำชะโนด ชั้น 2 อาคาร 2 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เป็นประธานประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา โครงการกําจัดขยะมูลฝอยด้วยการผลิตไฟฟ้า (ทน.อุดรธานี) มีนายสาจิต จันทรศิริ ท้องถิ่น จ.อุดรธานี , นายธนาดร พุทธรักษ์ นายก ทน.อุดรธานี , นายดาวเรือง หากันได้ ผอ.สำนักช่าง ทน.อุดรธานี , รองอัยการ จ.อุดรธานี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมทางไกลกับ นายปราโมทย์ ทัศนวิบูลย์ ผู้จัดการทั่วไปธุรกิจเครื่องยนต์ บ. เมโทรแมชีนเนอรี่ จก. และนายสุรัตน์ ปริชาติรุ่งเรือง ผู้บริหาร บ.ไทยซูริค เอนเนจี้ จก. (ในเครือเมโทรแมชีนเนอรี่) บ.ร่วมทุนโรงแยกขยะ และโรงไฟฟ้าขยะ คลัสเตอร์ที่ 1
นายปราโมทย์ ทัศนวิบูลย์ ผู้จัดการทั่วไปธุรกิจเครื่องยนต์ บ. เมโทรแมชีนเนอรี่ จก. และนายสุรัตน์ ปริชาติรุ่งเรือง ผู้บริหาร บ.ไทยซูริค เอนเนจี้ จก. อธิบายต่อที่ประชุมว่า บริษัทเข้าร่วมลงทุนกับ ทน.อุดรธานี โดยเริ่มจากการก่อสร้างโรงงานแยกขยะ ที่จะได้แท่งพลังงาน (RDF) , ขยะรีไซด์เคิ้ล และปุ๋ย โดยดำเนินการมากว่า 3 ปี ต่อมาจึงได้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากขยะ เทคโนโลยีไพโดรไรซีส หลังจากได้รับอนุญาตขายไฟฟ้าให้ กฟภ. จาก สนง.คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การก่อสร้างโรงไฟฟ้าล่าช้า แม้ว่าขณะนี้การก่อสร้างจะแล้วเสร็จ และสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้แล้ว แต่ กกพ.ไม่ต่อสัญญา และ กฟภ.ยกเลิกสัญญา แม้เราจะอ้างถึงกรมบัญชีกลาง ให้ขยายเวลาสัญญาออกไปแล้วก็ตาม
“ บริษัทฯยังคงเดินเครื่องแยกขยะ ให้เทศบาลนครอุดรธานีตามปกติ แต่ยังไม่ผลิตกระแสไฟฟ้าขาย กฟภ. จึงร้องขอให้ กกพ. และ กฟภ.ต่อสัญญาเพื่อให้ผลิตกระแสไฟฟ้า หากได้รับการต่อสัญญาเอใด จะต้องใช้เวลาเตรียมความพร้อม ให้เดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าใน 6 เดือน แต่เมื่อไม่ได้รับการต่อสัญญา บริษัทฯจึงยื่นฟ้องขอความเป็นธรรมจากศาลปกครอง เพื่อรักษาสิทธิของบริษัทฯตามกฎหมาย ในการพิจารณาจะไม่มีการไต่สวน แต่จะให้การตรวจเอกสาร และให้ผู้ถูกฟ้องชี้แจง ซึ่งจะต้องใช้เวลาในชั้นศาลอีกหลายปี สำหรับการที่ กกพ.แนะนำให้ยื่นขอสิทธิขายไฟฟ้าใหม่ ซึ่งจะทำให้ราคาขายไฟฟ้าลดลง มันจะไปกระทบกับแผนการลงทุน บริษัทฯรับจะกลับไปศึกษาในเรื่องนี้ ”
นายดาวเรือง หากันได้ ผอ.สำนักช่าง ทน.อุดรธานี และเจ้าหน้าที่ของ ทน.อุดรธานี ชี้แจงว่า การร่วมทุนของ ทน.อุดรธานี กับ บ.ไทยซูริค เอเนจี้ จก. มีการทำสัญญา 2 ครั้ง จากสัญญาที่ยกร่างและพิจารณาโดย สนง.อัยการสูงสุด สัญญาฉบับแรกเป็นสัญญาโรงแยกขยะ สัญญาฉบับที่สองมีการเพิ่มเติมโรงไฟฟ้าเข้าไป มีสาระสำคัญในรายได้ของบริษัทฯ 1.จากค่ากำจัดขยะของ ทน.อุดรธานี และ อปท.อื่นที่นำขยะมากำจัด , 2.จากขายแท่งพลังงาน หรือ RDF , 3.จากขายขยะรีไซด์เคิ้ล ซึ่งดำเนินการมาต่อเนื่อง และยังดำเนินการอยู่ , 4.ปุ๋ยไม่มีการขาย และ 5.จากการขายไฟฟ้าที่ยังดำเนินการไม่ได้ โดย ทน.อุดรธานี จะได้รับผลประโยชน์จากรายได้ทั้งหมด 2.55 % โดยยังไม่หักค่าใช้จ่าย
ขณะที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา การแก้ไขความเดือดร้อนประชาชน ที่เคยออกมาปิดถนนทางเข้าบ่อขยะ ซึ่งแผนการแก้ไขปัญหา ทน.อุดรธานี ได้อนุมัติงบประมาณ 18 ล้านบาท มาก่อสร้างถนนมิตรฐาน พร้อมไฟแสงสว่างระยะทาง 1,800 เมตร จากหมู่บ้านมายังประตูทางเข้าศูนย์กำจัดขยะ ทน.อุดรธานี และ บ.ไทซูริค จก. ได้สนับสนุนงบประมาณให้ อบต.หนองนาคำ อ.เมือง จำนวน 2 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงถนน จากประตูเข้าศูนย์กำจัดขยะ ไปจนถึงโรงแยกขยะ+โรงไฟฟ้า ของ บ.ไทซูริค จก. ระยะทาง 800 เมตร แต่ทั้งสองโครงการถูกทักท้วงว่า หน่วยงานไหนมีหน้าที่สร้างและปรับปรุงถนน จึงต้องกลับไปตรวจสอบรายละเอียด “เวทีรับฟังความคิดเห็น” ว่าได้มอบหมายให้หน่วยงานได้ดำเนินการ