วันจันทร์, พฤศจิกายน 4, 2024
Google search engine
หน้าแรกอาชญากรรมป้าสุดทนแจ้งจับหลานทาสยาลักทรัพย์เกลี้ยงบ้าน

ป้าสุดทนแจ้งจับหลานทาสยาลักทรัพย์เกลี้ยงบ้าน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 26 สิงหาคม 2565 ที่ สภ.โนนสูง ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.วีระพล มูลบัวภา สว.สส.สภ.โนนสูง ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สส.สภ.โนนสูง และตำรวจสืบสวน จับกุมตัวนายอุดร พันธวงษ์ หรือแบ๊งค์ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 306/1 ม.9 ชุมชนหนองเหล็ก ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ในข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยผิดกฎหมาย ” ของกลาง ตู้เย็น ทีวี เครื่องปรับอากาศ เครื่อง ที่นอน พัดลม ตู้เครื่องแป้ง ตู้โชว์ ชุดโต๊ะไม้รับแขก และชุดโต๊ะไม้กินข้าว กระเป๋าเดินทาง

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 สิงหาคม 2565 ร.ต.อ.ธีระวัฒน์ วิทยรติโชติตระกูล รอง สว.สอบสวน สภ.โนนสูง รับแจ้งจาก นางอุบลรัตน์ หล้าสวย อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 50/1 ม.3 บ.ผ่านศึก1 ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกหลายชาย คือนายอุดร พันธวงษ์ หรือแบ๊งค์ อายุ 28 ปี ขโมยทรัพย์สินภายในบ้านของตนอีกหลัง เลขที่ 317 ม.3 บ้านผ่านศึก 1 ต.บ้านตาด ไปจนเกลี้ยงบ้าน เช่นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้โชว์ โซฟา เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า ชุดโต๊ะไม้กินข้าว และรับแขก แม้แต่วงกบประตูหน้าต่างอลูมิเนียม และเหล็กดัด ก็ถูกขโมยถอดเอาไปขายและจำนำ เพื่อไปซื้อยาบ้าเสพ

หลังรับแจ้งช่วงเย็นวันเดียวกัน (25 ส.ค.65) พ.ต.ท.วีระพล มูลบัวภา สว.สส.สภ.โนนสูง นำกำลังไปจับกุมตัว นายอุดร พันธวงษ์ หรือแบ๊งค์ ขณะนั่งเล่นอยู่ภายในบ้านที่เกิดเหตุ และยอมรับสารภาพว่า เป็นคนขโมยทรัพย์สินภายในบ้านของป้าแท้ๆของตนเอง นำไปขายและจำนำในราคาถูก เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และซื้อยาบ้าเสพวันละ 10 เม็ด โดยนำทรัพย์สินใส่รถเข็นไปขายและจำนำกับคนในหมู่บ้าน และทยอยขนออกจากบ้าน ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ และนำตำรวจไปตรวจยึดของกลางที่นำไปขายและจำนำกลับคืนมาได้เป็นบางส่วน

”สาเหตุที่ทำไปเพราะติดเสพยาบ้าวันละ 10 เม็ด และไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะไม่มีงานทำ ส่วนอาชีพตนเองเป็นช่างเชื่อมเหล็ก และช่างสักลาย ช่วงนี้ผู้รับเหมาหรือนายจ้างไม่มีงานให้ทำ ส่วนอาชีพสักลาย ไม่ได้ทำมานานแล้ว เพราะนำเครื่องมือไปขายซื้อยาบ้าเสพ รู้สึกเสียใจที่ทำผิดต่อป้า และแม่ที่อยู่ต่างประเทศ (สวีเดน) และขอชดใช้กรรมที่ตนเองก่ออยู่ในคุก และรักษาตัวให้หายจากการติดเสพยาบ้า เมื่อพ้นโทษกลับออกมาจะเป็นคนดีของสังคม” ก่อนที่นายแบ๊งค์ฯ จะเดินไปคุกเข่าก้มกราบเท้าขอโทษป้าทั้งน้ำตา ส่วนป้าเห็นหลานชายสำนึกผิดถึงกับน้ำตาคลอ

ด้าน นางสาวอุบลรัตน์ หล้าสวย ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า สุดทนต่อกับพฤติกรรมหลายชายคนนี้แล้ว หลังจากได้โทรศัพท์ปรึกษากับน้องสาว ที่มีครอบครัวใหท่อยู่ที่ประเทศสวีเดน และเป็นแม่ของนายแบ๊งค์ฯ เนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นเงินของน้องสาวที่ให้ตนซื้อและเป็นชื่อของตนเอง รวมทั้งทรัพย์สินต่างที่หลานชายนำไปขายและจำนำ ก็เป็นเงินของน้องสาว โอนมาให้ตนเองซื้อเข้าบ้านไว้เวลาน้องสาวกลับมาพักผ่อนที่บ้านเกิด และให้นายแบ๊งค์ ลูกชายคนโตของน้องสาวมาพักอาศัย ได้ประมาณ 5-6 เดือน เนื่องจากไม่มีที่อยู่ หลังจากหลานชายแยกทางกับภรรยา ก่อนมาก่อเหตุขโมยทรัพย์สินภายในบ้านจนเกลี้ยง รวมมูลค่าประมาณ 3 แสนบาท

”ที่ให้หลานชายมาอยู่บ้านหลังนี้ เพราะสงสาร หากหลานชายยังมีพฤติกรรมแบบนี้ ตนและแม่ของเขาก็คงรับไม่ได้ และได้ปรึกษากันแล้วว่า ครั้งนี้จะไม่ให้อภัย เพราะเขาเคยทำแบบนี้มาตั้งแต่เป็นเยาวชน แต่ครั้งนี้หนักสุด ถึงขั้นทยอยขนทรัพย์สินในบ้านไปขายจนเกลี้ยง และให้เขาไปดัดนิสัยสันดานอยู่ในคุก และบำบัดรักษาให้หายจากการติดยาบ้า เผื่อเขาพ้นโทษกลับออกมาแล้วจะเป็นคนดีของครอบครัวและสังคมต่อไป และอยากฝากถึงผู้ปกครองให้สอดส่องดูแลบุตรหลานให้ห่างไกลจากยาเสพติด และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปราบปรามอย่างจริงจัง และเพิ่มโทษความผิดให้มากหรือหนักกว่านี้ เพื่อให้ผู้หลงผิดได้หลาบจำ ไม่กล้ากลับมาทำผิดซ้ำอีก”….

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments