ตำรวจกวาดใบไม้ทำสะอาด นปพ.ชุมชนหนองตุ จุดไฟเผาใบไม้แห้งลามไหม้โรงสีเก่า ต้องจุดธูปขอขมาจอมปลวกไม่ได้ลบหลู่
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครอุดรธานี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 มีเหตุไฟไหม้โรงสีเก่า ภายในหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ชุมชนหนองตุ เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงนำกำลังและรถดับเพลิงจ.อุดรธานี 3 คันรุดไปที่เกิดเหตุ
พบไฟลุกไหม้กองเศษใบไม้และกิ่งไม้แห้ง และลุกลามเข้าไปไหม้หลังคาโรงสีไม้เก่า เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำดับไฟ และสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลาม ใช้เวลาควบคุมเพลิงราว 30 นาที ตรวจสอบพบไฟไหม้โรงสีบางส่วน ส่วนจอมปลวกได้รับความเสียหายเล็กน้อย ด.ต.ปรีชา เจริญชัย ผบ.หมู่ จราจร สภ.เมืองอุดรธานี ได้จุดธูป 9 ดอกบอกกล่าว ขอขมาจอมปลอกเจ้าที่ ว่าลูกหลานไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ แค่มาทำความสะอาด เพราะใบไม้แห่งหล่นเต็มพื้น จึงอยากทำความสะอาดเท่านั้น
ด.ต.ปรีชา เจริญชัย อายุ 52 ปี ผบ.หมู่ จราจร สภ.เมืองอุดรธานี เล่าว่า ที่นี่เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ซึ่งยุบหน่วยไปแล้ว แต่ยังมีตำรวจอาศัยอยู่บ้านพักห้องแถว ประมาณ 40 ครอบครัว ส่วนโรงสีเก่าแห่งนี้มีมานานหลายสิบปีแล้ว โดยสมัยนั้นมีตำรวจชื่อบุญช่วย เม้าราศี เป็นคนดูแลโรงสี นอกจากนี้ยังมีศาลปู่แดงเป็นเจ้าที่ ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านพักให้ความเคารพนับถือ จะไปไหนมาไหนก็มาบอกกล่าวให้ปลอดภัย
“ เห็นว่ามีต้นไม้ขึ้นรก มีใบไม้ และกิ่งไม้ หล่นลงพื้นใกล้กับโรงสีจำนวนมาก จึงเข้ามาทำความสะอาด โดยบอกกล่าวเจ้าปู่จอมปลวก ซึ่งเชื่อว่าเป็นเจ้าที่ด้วยวาจา แล้วได้กวาดใบไม้มากองรวมกันหลายกองๆ ก่อนจะจุดไฟเผา ขณะไฟกำลังลุกไหม้ได้มีลมกระโชกมา ทำให้ใบไม้ที่กำลังไหม้ปลิวขึ้นไปบนหลังคาโรงสี ซึ่งมีใบไม้แห้งจำนวนมาก ไฟได้ลุกไหม้บนหลังคาโรงสี เห็นว่าไฟลุกลามจึงแจ้งดับเพลิงมาช่วยดับไฟ ”
ด.ต.ปรีชา กล่าวว่า นอกจากลมกระโชกแรงทำให้ไฟลุกลาม ส่วนตัวยังคิดว่าก่อนทำความสะอาด ได้บอกกล่าวเจ้าที่จอมปลวกแบบปากเปล่า อาจจะไม่พอใจจึงได้ทำให้ไฟลุกลาม พอเกิดเหตุตนก็ยกมือไหว้ขอขมา บอกว่าอย่าให้ลุกลามไปมากกว่านี้เลย พอควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด เชื่อว่าเจ้าที่จอมปลวกให้อภัยแล้ว ไม่ให้ไฟลุกลามหรือเสียหายไปมากกว่านี้ จึงจุดธูปขอขมาบอกกล่าวว่า มาทำความสะอาด ไม่ได้ตั้งใจลบหลู่แต่อย่างใด
