เมื่อเวลา 16.55 น. วันที่ 25 กรกรฎาคม 2565 ร.ต.อ.ประวิทย์ อิ่มใจ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยหลวง อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุคนจมน้ำเสียชีวิต ในสระน้ำภายในที่นาสวนผสม บ้านโนนคราม หมู่ 3 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นสระน้ำขนาด 1 งาน ลึกประมาณ 2.5 เมตร มีดอกบัวและวัชพืชในน้ำจำนวนมาก บริเวณขอบสระพบเสื้อคอโปโลสีแดง กางเกงยีนขายาว วางทับอยู่บนรองเท้าแตะสีแดง และพบแว่นสายตาแขนอยู่ที่กิ่งต้นขี้เหล็กริมสระ โดยมีญาติและชาวบ้านจำนวนมากมุงดูเหตุการณ์ ขณะที่ชุดอาสาประดาน้ำ ได้ลงสระงมหาร่างนายศรีทัด วงศ์คำจันทร์ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 3 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี ประมาณ 10 นาที จึงพบร่างจมอยู่ในสระห่างจากฝั่ง 4 เมตร สภาพสวมกางเกงในสีดำตัวเดียว มีสาหร่ายและวัชพืชพันขาผู้ตาย ท่ามกลางเสียงร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกของญาติ เจ้าหน้าที่นำร่างขึ้นมาชันสูตรไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย และเสียชีวิตประมาณ 1 ชม.
สอบสวนนายเส็ง สิงห์นี อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 หมู่ 3 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี เจ้าของที่นา ที่เกิดเหตุ ให้การว่า ปกติผู้ตายมาเล่นกับตนเป็นประจำ มักจะซื้อเหล้ามาดื่มด้วยกัน และหากมีงานให้ช่วยตนก็จะซื้อเหล้ามาเลี้ยงบ้าง ก่อนเกิดเหตุเมื่อวานนี้ ตนได้ชวนผู้ตายมาสานแหไว้เพื่อนำไปหาปลาแต่ยังไม่เสร็จ เช้าวันนี้ผู้ตายได้กลับมาสายแหต่อ โดยมีนายขจร บุญเกิด อายุ 59 ปี เพื่อนในกลุ่มอีกคนมาด้วย กระทั่งเที่ยงวันตนได้ออกไปซื้อกระดูกไก่ป่นมาไว้เป็นอาหารปลา เมื่อกลับมาก็ไม่พบผู้ตายและนายขจร พบเพียงเสื้อผ้า รองเท้าแตะ และแว่นสายตาผู้ตาย จึงตะโกนเรียกหาแต่ก็ไม่พบ จึงโทรศัพท์หานายขจรซึ่งกลับบ้านไปแล้ว บอกว่าผู้ตายอยู่ที่บ้านสวนไม่ได้มาด้วย คิดว่าผู้ตายน่าลงไปเก็บสายบัวแล้วจมน้ำแน่นอน จึงเรียกชาวบ้านมาช่วยงม แต่ก็ไม่พบ ก่อนแจ้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและกู้ชีพให้มาช่วยเหลือ
นายขจร บุญเกิด อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 3 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อนผู้ตาย เล่าว่า เช้านี้เวลาประมาณ 08.00 น.ตนไปรับผู้ตายจากบ้านมาสานแหให้เสร็จ เพราะเมื่อวานผู้ตายสานแหยังไม่เสร็จ และไปซื้อเหล้าขาวมาดื่ม 1 ขวด ตนดื่มกับผู้ตาย 2 แก้ว ถึงเวลาประมาณ 10.00 น. ตนได้ขี่จักรยานยนต์กลับบ้านไปนอนพักผ่อน กระทั่งบ่ายโมงนายเส็งได้โทรมาบอกว่า ผู้ตายหายไปเห็นแต่เสื้อผ้าวางอยู่ขอบสระ ตนจึงรีบขี่รถกลับมา คิดว่าผู้ตายเมาลงไปเก็บสายบัวมาทำกับแกล้ม จนทำให้จมน้ำ
ส่วนนางบัณฑิต ภูปะทา อายุ 69 ปี น้องสาวผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายเป็นพ่อหม้ายภรรยาเสียชีวิต มีลูก 2 คน ซึ่งแต่งงานมีครอบครัวแล้ว ผู้ตายเป็นคนนิสัยดี เมื่อ 2 ปีก่อนตนให้ผู้ตายไปเฝ้าที่นาและทำนา 5 ไร่กับตน ก่อนเกิดเหตุตนมีลางสังหรณ์ประมาณ 2 วัน ระหว่างพูดคุยกับผู้ตายว่าจะทำบ้านและห้องน้ำให้ลูกชายที่ตาบอดมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งผู้ตายได้พูดกับตนว่าหากเสียชีวิตไปขวัญ (วิญญาณ) จะไม่ไปไหน จะอยู่บริเวณที่นาของตน และจะเฝ้าอยู่ที่นาไม่ไปไหน เหมือนกับเป็นการสั่งเสีย ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไร และเมื่อคืนนี้ ตนยังฝันว่าฟันตนโยกเหมือนจะหลุด ตนจึงใช้มือดึงฟันจนหลุดออกแล้วโยนทิ้ง ไม่คิดว่าจะเป็นลางร้ายจนพี่ชายมาเสียชีวิต
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายดื่มเหล้าจนเมา และถอดเสื้อผ้าลงไปเก็บสายบัวนำมาทำกับแกล้ม แต่เพราะน้ำลึก ทำให้ผู้ตายจมน้ำประกอบกับไม่มีใครช่วย จึงเสียชีวิต ญาติไม่ติดใจ จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป