เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯสร้างโมเดล “อุดรธานี เมืองต้นแบบปลอดการเผา และลดโลกร้อน” ระหว่างนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กับนายพิษณุ มิลินทานุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ บ.สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จก. ที่โรงแรมเซ็นทารา ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ได้เปิดหน้ากากป้องกันไวรัสโควิด-19 เพื่อกล่าวก่อนลงนามในบันทึก ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เปิดหน้ากากในที่สาธารณะ เป็นการส่งสัญญาณ “อุดรธานีพร้อมเปิดเมือง ให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น”
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กล่าวว่า ขออนุญาตถอนหน้ากากในการกล่าว ตามปกติตนเองจะเป็นตัวอย่างที่ดี ในการสวมหน้ากากในพิธี หรือที่ใดก็ตาม จะสวมหน้ากากเพื่อเป็นตัวอย่างพี่น้องประชาชน ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เชื่อว่าท่านฯคงติดตามสถานการณ์ของประเทศ ว่าใกล้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเดินหน้าต่อไป วันนี้ก็ขอใช้โอกาสนี้เป็นเชิงสัญลักษณ์ ในการพูดคุยกับท่านแบบถอนหน้ากาก ให้ประชาชนเตรียมตัวที่จะเข้าในภาวะของ “โรคประจำถิ่น” แต่ยังคงต้องระมัดระวัง ในการอยู่ในสถานที่มีคนจำนวนมาก การสวมหน้ากากจะเป็นการดี
ขณะที่วันนี้ สนง.สาธารณสุข จ.อุดรธานี รายงานสถานการณ์ของโควิด-19 ว่า เป็นที่น่ายินดีผู้ป่วยหรือติดเชื้อลดลง โดยมีผู้ป่วยต้องรักษาตัวใน รพ.เพิ่มอีก 32 ราย แยกเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงถูกกักตัวอยู่แล้ว 24 ราย ผู้ที่ไม่รู้ติดเชื้อมาจากไหน 8 ราย ยังต้องตามแจ้งผู้สัมผัสเสี่ยงสูง มาตรวจหาเชื้อและกักตัวป้องกันแพร่เชื้อ โดยผู้ป่วยรักษาตัวที่ รพ.มีอยู่รวม 247 ราย แยกมีผู้ป่วยในมีประกัน 97 ราย รวมทั้งผู้ติดเชื้อรักษาตัวที่บ้านเพิ่มขึ้น 575 ราย รวมยังต้องรักษาตัวที่บ้าน 3,639 ราย ส่วนนี้น่าจะพึงพอใจได้
แต่ที่ยังน่าเป็นห่วงคือกลุ่ม 608 ประกอบด้วย ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง 7 โรค ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนไม่ครบ รวมทั้งยังไม่ฉีดเข็ม 3 ป่วยเข้ารับการรักษาใน รพ. และมีอาการรุนแรง อาจจะมีผลถึงขั้นเสียชีวิต ทำให้แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งล่าสุดพบว่ามีผู้ป่วยอาการหนัก เนื่องจากเกิดภาวะปอดติดเชื้อโควิด-19 รวม 27 ราย ซึ่งสูงกว่าเมื่อต้นสัปดาห์ที่มีเพียง 21 รายเท่านั้น ในจำนวนนี้ต้องใส่ท่อช่วยหายใน เข้ารักษาตัวในห้อง ไอซียู. 22 ราย ที่เหลือใช้เครื่องออกซิเจนไฮโฟล ทั้งนี้ยังมีกลุ่ม 608 อุดรธานี ยังไม่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น 121,996 ราย จากสัปดาห์ก่อน 125,000 ราย (ขอบคุณนักรบด่านหน้าทุกคน) ….