วันพุธ, ธันวาคม 4, 2024
Google search engine
หน้าแรกสังคมแม่สุดช้ำใจหลังเห็นคลิปลูกชาย ป.1 ถูกรุ่นพี่ ป.6 ทำร้ายในโรงเรียน

แม่สุดช้ำใจหลังเห็นคลิปลูกชาย ป.1 ถูกรุ่นพี่ ป.6 ทำร้ายในโรงเรียน

ผู้ปกครองเด็กนักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนเตชะไพบูลย์2 ม.8 บ.นาเก็นน้อย ต.หนองแวง อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ร้องเรียนสื่อมวลชน หลังได้เห็นคลิปลูกชายวัย 7 ขวบ ถูกรุ่นพี่ผู้ชายชั้น ป.6 จำนวน 4 คน ร่วมกันทำร้ายร่างกายแล้วมีการถ่ายคลิปเอาไว้ มีการนำไปโพสต์ลงในกลุ่มเพื่อนร่วมชั้น เหตุเกิดช่วงเที่ยงวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนนำคลิปไปแจ้งครูและผู้อำนวยการโรงเรียนฯ กระทั่งมีการนัดสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมกับเจรจาไกล่เกลี่ยในช่วงสายวันนี้ ( 22 พ.ค 66) ผู้ปกครองเด็กที่ถูกกระทำขอความเป็นธรรม ล่าสุดมีการลบคลิปที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปแล้ว หลังจากไกล่เกลี่ยขอโทษกันที่โรงเรียนวันนี้

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ น.ส.ฝ้าย นามสมมุติ อายุ 27 ปี ชาวบ้านห้วยทราย ม.3 ต.นายูง อ.นายูง จ.อุดรธานี แม่ของเด็กชายไอ อายุ 7 ขวบ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเด็กชายที่ถูกทำร้ายในคลิป หลังจากนายทัศดี แสนราษฎร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเตชะไพบูลย์ 2 พร้อมคณะครู ได้เชิญตัวผู้ปกครองและนักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 4 คน และผู้ปกครองเด็กนักเรียนชั้น ป.1 มาสอบสวนข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคลิป

ซึ่งทางผู้ปกครองเด็กชั้น ป.6 ทั้ง 4 คน เมื่อได้เห็นคลิปก็ยอมรับว่า บุตรหลานของตัวเองทำผิด ที่ไปทำร้ายร่างกายรุ่นน้อง จึงได้ทำการเจรจาทำความเข้าใจและไกล่เกลี่ย ขอโทษกัน พร้อมกับทำข้อตกลงผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย โดยทางโรงเรียนเป็นพยานว่า หลังจากนี้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย จะไม่มีการติดใจเอาความกัน และสัญญาว่าจะดูแล และอบรมพฤติกรรมของบุตรหลานไม่ให้ทำอย่างนี้อีก ส่วนผู้ปกครองเด็กชั้น ป.1 ก็ให้อภัย เพราะคนที่มาทำร้ายลูกชาย ก็ยังเป็นเด็กและเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันด้วย

น.ส.ฝ้าย แม่เด็กชายไอ เล่าว่า ตนเห็นคลิปจากกลุ่มเพื่อนลูกสาวที่เรียนอยู่ชั้น ป.6 ตอนช่วงบ่ายวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 หลังเกิดเหตุ 1 วัน ตอนแรกนึกว่าหยอกล้อกันเล่นตามประสาเด็ก แต่พอดูไปจนจบก็รู้ว่ามันไม่ใช่การหยอกล้อกัน จนน้ำตาไหลที่เห็นลูกถูกทำร้าย ตนเองไม่ได้อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต จนทำให้คนบ้านเดียวกันมองหน้ากันไม่ติด เพียงแค่อยากให้เป็นอุทาหรณ์ และไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดภายในโรงเรียน หรือแม้แต่ตามสถานที่ต่างๆ ก็ไม่สมควรเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

”ลูกชายเล่าให้ฟังว่า ช่วงสายได้ลงมาจากห้องเรียน เพื่อมาดื่มน้ำ เนื่องจากอากาศร้อน แต่ถูกรุ่นพี่ผู้ชายชั้น ป.6 จำนวน 4 คน มากลั่นแกล้งไม่ให้ดื่มน้ำ ลูกชายตนจึงโกรธแล้วได้ใช้มือไปตีรุ่นพี่ 2 ครั้ง ทำให้รุ่นพี่โมโห กระทั่งช่วงเที่ยงลูกชายกินข้าวเสร็จ ได้ไปซื้อลูกอมที่สหกรณ์ฯ รุ่นพี่หลอกพาไปเล่นที่หลังอาคารเรียน ก่อนที่รุ่นพี่จะแย่งเอาลูกอมที่ซื้อมาโยนทิ้ง และยั่วยุให้ลูกชายโกรธ และท้าชกต่อยกับ ด.ช.โชค (นามสมมุติ) ที่ปรากฎอยู่ในคลิป และลูกชายของตนร้องไห้ เพราะถูกทั้งเตะและต่อยจนเจ็บไปทั้งตัว แต่ลูกชายของตนก็ต่อสู้กลับเพื่อปกป้องตัวเองตามสัญชาตญาณ”

ด้าน น.ส.กิ๊ป อายุ 36 ปี ป้าของ ด.ช.โชค นักเรียนชั้น ป.6 เล่าว่า หลังจากทราบเรื่องราวก็รู้สึกตกใจ เมื่อตนได้เห็นคลิปก็ยิ่งรู้สึกตกใจมาก รู้สึกเสียใจที่หลานชายมีพฤติกรรมเช่นนั้น และยอมรับผิดทุกอย่างในสิ่งที่หลานชายทำลงไป ตนและผู้ปกครองอีก 3 คน ได้ขอโทษแม่ของน้อง ป.1 แล้ว ต่อไปจะหมั่นอบรมสั่งสอนไม่ให้มีพฤติกรรมก้าวร้าวเช่นนี้อีก ตนเพิ่งรับหลานมาดูแลเพียง 6 เดือน เนื่องจากพ่อและแม่แยกทางกัน มาอยู่ตอนแรกก็มีนิสัยก้าวร้าว ตนก็ได้อบรมสั่งสอนจนพฤติกรรมก้าวร้าวลดลง กระทั่งมาก่อเหตุทำร้ายน้อง ป.1 และได้ตักเตือนหลานไปแล้วว่า หากยังขืนทำเช่นนี้อีก จะส่งตัวกลับไปอยู่กับพ่อที่ทำงานอยู่ในตัวเมืองอุดรธานี

ขณะที่นายทัศดี แสนราษฎร์ ผอ.โรงเรียนเตชะไพบูลย์ 2 เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุมีประชมผู้ปกครองนักเรียนในห้องประชุม จึงไม่ได้สอดส่องดูแลความเรียบร้อยเท่าที่ควร ตนทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นช่วงบ่ายวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และได้นัดผู้ปกครองเด็กทั้ง 2 ฝ่าย มาเจรจาสอบสวนข้อเท็จจริง ปรับความเข้าใจกัน จนได้ข้อยุติและไม่ติดใจเอาความกัน เพราะคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ยังเป็นเด็ก เมื่อเด็กสำนึกผิด และผู้ปกครองรับทราบ จึงให้เด็กและผู้ปกครองขอโทษกัน แต่ทางโรงเรียนก็ได้ทำข้อตกลงกันไว้ทั้ง 2 ฝ่าย ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเลย ตั้งแต่ตนมารับตำแหน่งได้ 2 ปี ฝากถึงผู้ปกครองว่า ให้หมั่นดูแลพฤติกรรมและอบรมสั่งสอนบุตรหลาน หลังจากกลับบ้าน ส่วนทางโรงเรียนก็หมั่นอบรมสั่งสอนพฤติกรรม ของบุตรหลานท่านในเรื่องนี้อยู่แล้ว หากยังขืนมีพฤติกรรมเช่นนี้อีก ทางโรงเรียนก็จะใช้กฎระเบียบตามขั้นตอนของโรงเรียนต่อไป

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments