เมื่อบ่ายแก่ๆวันที่ 16 กันยายน 2565 ฝนได้ตกลงมาในเขต ทน.อุดรธานี วันปริมาณน้ำฝนได้ระดับปานกลาง ที่สถานีตรวจอากาศอุดรธานี 22.5 มม. และระดับข้องข้างหนักบริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองอุดรธานี 50 มม. ทำให้มีน้ำท่วมรอการระบาย ตกค้างอยู่บนถนนหลักหลายสาย อาทิ นิตโย , โพศรี , ศรีสุข , ศรีชมชื่น , ประชารักษา , ทหาร และตรอกซอยต่าง ๆ แม้ฝนหยุดตกยังต้องรอการระบาย 1-2 ชม. ซึ่งเป็นช่วงเวลา นร.ทยอยเดินทางกลับบ้าน
เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเวลา 17.00 น. และไล่เลี่ยกันเกิดเหตุ “ไฟฟ้ารั่ว” ไปช็อตนักเรียนขณะกลับบ้าน 2 จุด แม้ว่าที่ผ่านมาเหตุน้ำรอการระบาย ก็เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีฝนตกหนัก ก็ไม่เคยเห็นลักษณะนี้มาก่อน แม้ครั้งนี้จะเป็นเหตุเกิดครั้งแรก แต่ก็ได้สร้างพลเมืองดี หรือ “ฮีโร่” ขึ้นมาอย่างที่เราคาดไม่ถึงเช่นกัน บุคคลเหล่านี้ สมควรได้รับการยกย่อง ให้เป็นแบบอย่างพลเมืองดี….รายต่อ ๆไป
จุดเกิดเหตุแรก ฟุตบาทประตูหลัง รร.สตรีราชินูทิศ ถ.ศรีชมชื่น …ขณะที่ น.ส.จิดาภา น้องเรดิโอ เปรมปรีดิ์ อายุ 15 ปี ชั้น ม.3 โรงเรียนสตรีราชินูทิศ เดินออกจาก รร.สตรีราชินูทิศ เพื่อข้ามถนนมาหายายที่มาคอยรอรับอยู่ ถูกไฟฟ้ารั่วจากเสาฟ้าแสงสว่างช็อต จนล้มลงหมอสติอยู่ในน้ำ โดยยังไม่มีใครรู้ว่า “ไฟช็อต” คลื่น้ำจากรถที่วิ่งผ่าน กระแทกร่างน้องเรดิโอ ห่างจากเสาไฟเล็กน้อย
น.ส.สุภารัตน์ หรือเอ๋ ภูเหมือนบุตร สาวหล่อชาว จ.กาฬสินธุ์ ฮีโร่คนแรก กำลังมาไปหาหมอฟันฝั่งตรงข้าม ตัดสินใจข้ามถนนเข้ามาช่วย ลากน้องออกมาอยู่ที่น้ำตื่น พยายามช่วยด้วยการปั้มหัวใจ แต่เพราะมือประสบอุบัติเหต มีนายปรัชญา หรือน้องบอส ใจบุญ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 รร.อุดรพิชัยรักษ์ หรือ “บอส” ฮีโร่คนที่สอง ในชุดนักเรียนขณะกำลังกลับบ้าน ได้เข้ามาช่วยปั้มหัวใจต่อ จากความรู้ที่เรียนมาจาก การเป็นนักศึกษาวิชาทหาร จนน้องเรดิโอ. อาการเริ่มตอบสนอง หน่วยกู้ชีพ-กูภัย ก็เดินทางมารับช่วงต่อ
จุดเกิดเหตุเดียวกัน ขณะที่นายอรรถชัย หรือน้องบาส อาจอุดม อายุ 19 ปี ฮีโร่คนที่สาม ปวส.2 แผนกเทคนิคคอมพิวเตอร์ วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี ที่ขี่ จยย.กลับจากทำงานพิเศษเป็น “ไรเดอร์” เห็นเหตุการณ์ น.ส.จิดาภาฯ ถูกไฟช็อตและมีคนเข้าช่วย จึงหยุดรอเตือนคนที่ผ่านไปมา เป็นช่วงที่ ด.ช.ชยุต หรือน้องโซดา เลยชัยภูมิ อายุ 12 ปี รร.อุดรพิทยานุกูล เดินคุยโทรศัพท์นัดจุดแม่มารับ ผ่านมาถึงเสาไฟฟ้าที่ไปรั่ว และถูกไฟฟ้าช็อตจนหมดสติล้มลง สภาพคว่ำหน้าอยู่ในน้ำ
น้องบาสฯตัดสินใจเข้าไปช่วย โดยรู้ว่าเกิดจากไฟฟ้ารั่ว พลเมืองดีคนหนึ่งยื่นร่มให้ เอาไปใช้ดึงน้องโซดาฯออกมาแต่ร่มหัก พลเมืองดีอีกคนยื่นผ้าแห้งให้ จึงเข้าไปช่วยอีกครั้ง และถูกไฟช็อตแล้ว แต่ก็พยายามลากน้องโซดาฯ ออกมาจนพ้นรัศมีไฟฟ้า มาจนถึงประตูโรงเรียน ตัวเองก็เกือบจะหมดสติไปด้วย จากนั้นหน่วยกู้ชีพก็มานำไป รพ.ศูนย์อุดรธานี
จุดเกิดเหตุที่สอง บริเวณหน้าโรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ หรือโรงเรียน ซีพี. ถ.ประชารักษา หลังจากที่นางพันศรี บุญจำเนียร อายุ 56 ปี เดินทางมมารับหลาน 2 คนที่ รร.อนุบาลอุดรธานี คือน้องใบเตย 11 ขวบ ชั้น ป.5 และน้องข้าวหอม 9 ขวบ ชั้น ป.3 แต่รถเสียเลยโทรให้แม่ของน้องทั้งสองมารับ นัดหมายกันใกล้จุดเกิด ด้วยการเดินเท้ามาตามฟุตบาท เมื่อมาถึงน้องข้าวหอมฯ หลานคนเล็กก้าวลงถนนแล้วล้มลง
คุณยายพันศรีฯ ยังไม่รู้ว่ามีไฟฟ้ารั่ว ได้รีบคว้าหลานแล้วดึงขึ้นมาจากน้ำ ก็เป็นจังหวะที่น้องใบเตยฯหลานคนเล็ก ก็ลงจากฟุตบาทไปที่ถนน ก็ล้มลงอีกเล่นกัน เมื่อยายรีบลงไปช่วยจึงรู้ว่า “ไฟฟ้ารั่ว” ตัดสินใจใช้แรงสุดท้าย ดึงหลานขึ้นมาได้ แล้วรีบพากันขยับออกมาจากจุดนั้น ไม่นานก็มี รปภ. และแม่บ้าน มาสอบถามและเรียกรถพยาบาล
เหตุการณ์ครั้งนี้ผ่านพ้นวิกฤติ ไปได้ราวกับเป็นปาฏิหารย์ ให้มีพลเมืองดีหลายท่าน ปรากฏตัวออกมาช่วย ให้ทุกคนปลอดภัย ไม่ใช่เพียงสาวหล่อใจงาม-รด.บอสคนเก่ง-บอสหัวใจหล่อ หรือแม้กระทั่งคุณยายพันศรีสู่เพื่อหลานตัวน้อย แต่ยังหมายถึง “ฮีโร่..ในเหตุการณ์ทุกคน”
รู้ไหมว่า ใครโทรแจ้งเหตุกู้ชีพ-ภัย มารับช่วงต่อทันเวลา , รู้ไหมว่า ใครยื่นร่มมาให้ใช้ดึงน้องออก , รู้ไหมว่า ใครยื่นผ้าแห้งมาให้ และรู้ไหมว่า มีคำถามอีกมากมายที่ยังตามหาคำตอบ ขอบคุณฮีโร่….ทุกคน
หวังว่าผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย จะร่วมกันถอดบทเรียน หาทางป้องกัน ไม่ให้เหตุเกิดขึ้นมาอีก จะมัวแต่รอโชค หรือฮีโร่ น่าจะไม่เพียงพอ