เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 มกราคม 2562 ที่ห้องประชุมคำชะโนด ชั้น 2 อาคาร 2 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เป็นประธาน ประชุม รับฟังการนำเสนอและหารือ โครงการรถรับส่งนักเรียนอัจฉริยะ (Smile Kid School Bus) โดยมีนายสิธิชัย จินดาหลวง รอง ผวจ.อุดรธานี นำผู้บริหารสถานศึกษา 4 โรง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมรับฟังคำชี้แจงแนวทาง จากตัวแทน บ.เอสซีจี.โลจีสติก จก. ที่จะเข้ามานำร่องปฏิบัติการจริงใน 4 โรงเรียน
ตัวแทน บ.เอสซีจี.โลจีสติก จก. ชี้แจงว่า บริษัทฯได้ทำบันทึกข้อตกลงกับ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อคัดเลือกโรงเรียนในแต่ละจังหวัด 3 กลุ่ม คือ โรงเรียนสังกัด สพฐ. , สังกัด อปท. และเอกชน จังหวัดละ 3 โรง เพื่อเข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ ตามข้อเสนอและให้การสนับสนุนของ บ.เอสซีจี.โลจีสติก จก. หลังจากเกิดเหตุการณ์ลืมเด็กในรถรับส่งนักเรียน เป็นเหตุให้เสียชีวิตตั้งแต่ปี 55-ปัจจุบัน 9 ราย และยังจะช่วยลดอุบัติเหตุด้วย
“ บริษัทฯจะให้การสนับสนุนอุปกรณ์ ที่จะติดตั้งบนรถรับส่งนักเรียนคันละ 25,000 บาท และค่าใช้จ่ายเครือข่ายการสื่อสารปีละ 3,600 บาท เพื่อติดตั้งกับรถตู้หรือรถบัส พร้อมบัตรประจำตัวเด็กนักเรียน ซึ่งระบบจะเชื่อมโยงกับศูนย์ควบคุมที่กรุงเทพฯ โดยระบบเมื่อเด็กขึ้นไปบนรถรับ-ส่งนักเรียน จะใช้บัตรสแกนก่อนขึ้น และสแกนก่อนนักเรียนลงจากรถ ถ้าเด็กตกค้างในรถจะมีสัญญาเตือน ครูผู้ดูแลหรือโชเฟอร์จะต้องไปตรวจสอบ และปิดสวิตซ์ท้ายรถด้านใน ”
ตัวแทนบริษัทฯ อธิบายต่อว่า ระบบจะส่งสัญญาณไปศูนย์ควบคุม หากผิดปกติจะตรวจสอบย้อนกลับมา โดยสามารถตรวจสอบตำแหน่ง และความเร็วของรถได้ สำหรับแอพพิเคชั่นทางโรงเรียน และผู้ปกครอง จะสามารถตรวจสอบได้ว่า รถรับส่งนักเรียนจะมารับที่บ้านตอนไหน ไปถึงโรงเรียนหรือยัง บุตรหลานไปถึงโรงเรียน หรือกลับถึงบ้านหรือยัง โดยจะนำร่องฟรีโรงเรียนละ 1 คัน เป็นเวลา 6 เดือน จากนั้นผู้ปกครองต้องเสียค่าบริการ 100 บาทต่อคนต่อเดือน หากต้องการเพิ่มจำนวนรถได้บริการฟรี 2 เดือน และไม่มีการผูกมัดหากไม่ใช้งาน
ที่ประชุมขอให้เพิ่มเป็น 4 โรงเรียน โดยเพิ่มโรงเรียนสังกัด อปท.เป็น 2 โรง ประกอบด้วย รร.อนุบาลอุดรธานี , รร.เชียงเพ็งพิทยาคม , รร.เทศบาล 1 และ รร.สันติธรรม ที่พร้อมจะเข้าร่วมโครงการนำร่อง ซึ่งรถมีทั้งรถยนต์แบบรถตู้ รถบัส และรถสองแถว (ต้องปรับปรุงให้ระบบปิด) รวมทั้งรถของเอกชนที่มาจากต่างตำบล ต่างอำเภอ ต้องไปแวะส่งนักเรียนหลายแห่ง ซึ่งก็สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ให้ทั้ง 4 โรงประสานงานเรื่องเอกสาร หากเป็นไปได้ให้เริ่มเดินรถให้ได้ภายใน 1 กุมภาพันธุ์นี้….