ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2563 ว่าหลายหน่วยงานได้เร่งเปิดยุทธการ “ชัดดาว ไวรัส” ของคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.อุดรธานี ตามมติให้ปิดกั้นการเข้าเมืองของไวรัส ทางเข้าเมืองตามสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ และท่าอากาศยาน แม้จะประสบปัญหาการจัดหา เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิแบบมือถือ หรือ “แฮนด์สแกน” ซึ่งมีราคาสูงกว่าราคากลางมาก
โดยที่ สนง.เทศบาลนครอุดรธานี มีการนำ“ตู้อบยาฆ่าเชื้อ”ที่สำนักช่างฯสร้างขึ้นมาทดสอบ มีโครงสร้างเป็นท่อ พีวีซี. กว้าง 1.50 ม. สูง 2 ม. คลุมด้วยพลาสติกใสและหนา มีทางเข้า-ออก 2 ด้าน ติดตั้งเครื่องพ่นหมอควัน ต่อท่อให้พ่นหมอกควันลงด้านบน ติดตั้งสวิทช์แบบเท้าเหยียบไว้ด้านใน โดยหมอกควันจะเป็นน้ำสะอาด ผสมกับน้ำยาฆ่าเชื้อ หมอกควันที่พ่นออกมา จะไม่ทำให้เสื้อผ้าเปียก ได้รับความสนใจจากข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนมาติดต่อราชการเข้ามาทดลอง
ขณะที่การคัดกรองข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนมาติดต่อราชการ ยังคงใช้เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิแบบ “แฮนด์สแกน” ตรวจทุกคนที่เข้าไปในอาคาร และมีบริการเจลล้างมือไว้บริการ ในการเข้ารับบริการ มีการจัดเก้าอี้ให้นั่งเว้น โดยเก้าอี้เว้นไม่ให้นั่ง จะคาดกากะบาดด้วยเทปสีแดง และกำหนดจุดการยืนรอรับบริการห่างกัน 1.5 ม.
นายอิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกนครอุดรธานี เปิดเผยว่า นครอุดรธานีได้ร่วมแผน “ชัดดาว ไวรัส” ที่สถานีขนส่งแห่งที่ 1 และสถานีรถไฟ ในส่วนสถานีขนส่งแห่งที่ 1 จะเริ่มได้ในวันจันทร์ที่ 23 มีนาคมนี้ โดยเจ้าหน้าที่ พนักงาน ผู้โดยสารเข้า-ออก จะต้องผ่านคัดกรองทั้งหมด ที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ติดที่อุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิ ที่มีจำหน่ายทั่วไปราคาสูงมาก จึงต้องสั่งซื้อจากตัวแทนจำหน่าย มีเครื่อง เทอร์โมสแกน และ แฮนสแกน รวมทั้งเรื่องความสะอาดดำเนินการอยู่แล้ว
“ ทน.อุดรธานี กำลังทดลองทำตู้อบยาฆ่าเชื้อ แนวคิดจากการเข้าฟาร์มขนาดใหญ่ จะต้องได้รับการฆ่าเชื้อลักษณะนี้ จึงมอบให้สำนักช่าง กับฝ่ายสาธารณสุข ไปร่วมกันทำตัวอย่างขึ้นมา จากอุปกรณ์ที่หาได้ในพื้นที่ วันนี้ได้มีการทดลองใช้งาน ที่ สนง.ทน.อุดรธานี การพ่นหมอกควันได้ผลดี ไม่ทำให้เนื้อตัว-เสื้อผ้าเปียก ยังคงต้องรอผลการประเมิน การฆ่าเชื้อจะได้ผลมากแค่ไหน หากได้ผลจะสามารถนำไปใช้ในพื้นที่อื่นอีก ”
ขณะที่นายกำแหง สายวิภู ผอ.ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี ชี้แจงว่า จากเดิมเราทำการคัดกรองผู้โดยสาร เฉพาะขาเข้าได้ทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเครื่อง “เทอร์โมสแกน” 2 จุด แต่ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา สามารถคัดกรองผู้โดยสารทั้งขาเข้า-ขาออกได้ทั้งหมด รวมทั้งทุกคนที่เข้ามาในอาคารผู้โดยสาร ด้วยการกำหนดทางเข้าออกประตู 3 และประตู 5 และใช้เครื่องแบบแฮนด์สแกนตรวจคัดกรอง
“ ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี ยังปรับการให้บริการตามแผนอุดรธานี ไม่ว่าจะเป็นการจัดที่นั่งให้ห่างกัน ลักษณะแบบตัวเว้นตัว , การทำเครื่องหมายจุดเข้าแถว ให้มีความห่าง 1.50 ม. และได้แจ้งให้ผู้ประกอบการปรับตัว ส่วนความสะอาดจัดทำทุกวัน โดยเฉพาะภาชนะและจุดสัมผัส ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อมาตรฐานสากล รวมทั้งการเตรียมสบู่ล้างมือ เจลล้างมือ ให้เพียงพอในจุดต่างๆ ”
ศูนย์ปฏิบัติการณ์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน สาธารณสุข จ.อุดรธานี รายงานว่า อุดรธานียังไม่มีผู้ป่วย ที่ผ่านมามีการเฝ้าระวังประชาชน เดินทางกลับจากประเทศระบาด และประเทศกลุ่มเสียง 1,703 ราย เพิ่มจากเมื่อวาน 97 ราย (+97) กักตัวเองอยู่ที่บ้านครบ 14 วันแล้ว 870 คน (+95) และยังคงกักตัวอยู่ที่บ้าน 833 คน (+12)โดยพบว่ากลุ่มเสียงที่มีไข้ เข้ารับการตรวจเสหะหาเชื้อ 100 ราย (+8) ไม่พบว่ามีเชื้อ 92 ราย รอผลการตรวจ 8 ราย ขณะที่ผู้เดินทางจากประเทศเกาหลี 527 ราย กักตัวพ้นระยะ 14 วัน 311 ราย หรือที่ยังกักตัวอีก 216 ราย…
