ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 หลังจาก บ.วงศ์บัณฑิต จก.สาขาอุดรธานี เชิญนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ประกาศตัวเป็น “โรงงานยางพาราขนาดใหญ่ที่มีระบบบริหาร การจัดการสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในโลก” โดยอ้างถึงผลการตรวจกลิ่น ของกรมควบคุมมลพิษ เมื่อ 16-18 มิ.ย.60 เทียบเคียงกับค่ามาตรฐานกลิ่น 23 โรง ตามประเทศกระทรวงฯ ว่าต่ำกว่าโรงงานยางในประเทศ และต่างประเทศ ขณะที่ชาวบ้านยังเดือดร้อนจากกลิ่น ขณะวันที่ผู้ว่าฯเดินทางไปไม่มีกลิ่นเหม็นรุนแรง
เมื่อย้อนกลับไปในวันนั้น นายบัณฑิต เกิดวงศ์บัณฑิต กรรมการบริษัท บ.วงศ์บัณฑิต จก. ตอบข้อซักถามขณะที่นำผู้ว่าฯดูพื้นที่ว่า ฤดูหนาวนี้มีกลิ่นเหม็นหรือไม่ จะให้ความมั่นใจชาวบ้านยังไง ได้รับคำตอบว่า มั่นใจว่าวงศ์บัณฑิตไม่มีกลิ่นเหม็น ตามที่บริษัทฯได้ทำการแก้ไข และมีผลการตรวจสอบไปแล้ว จึงอยากจะให้ชาวบ้านให้ความเป็นธรรมโรงาน แยกแยะว่ากลิ่นเหม็นมีต้นทางที่ไหน (ไม่ได้บอกว่าจะทำอย่างไร)
นายบัณฑิตฯ กล่าวด้วยว่า โรงงานจำเป็นต้องห้ามไม่ให้บุคคล เข้ามาในพื้นที่ของโรงงานโดยพละการ ไม่หวังดีกับโรงงาน เข้ามาถ่ายภาพ นำไปทำให้โรงงานเสื่อมเสีย โรงงานไม่มีโอกาสโต้ตอบ หากชาวบ้านจะเข้ามาในโรงงาน จึงถูกโต้ตอบทันทีจากตัวแทนชาวบ้าน “กลุ่มรักหนองนาคำ” ว่า เขากับชาวบ้านหลายเป็นคนเข้ามา ตามที่ประธานฯบริษัทฯรับปากไว้ ให้เข้ามาดูข้อเท็จจริงได้ หากมีกลิ่นเหม็น เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าเกิดจากโรงงานไหน เพราะมีการแจ้งใน “ไลน์กลุ่มทั้งวันก็ยังเหม็นอยู่” และไปแจ้งความที่โรงพักเมืองอุดรธานี
นายบัณฑิตฯ กล่าวตอบว่า ไม่ใช่เฉพาะชาวบ้าน (กลุ่มรักหนองนาคำ) แต่ยังไม่บุคคลอื่น ที่เข้ามาในโรงงาน ทำให้โรงงานได้รับความเสียหาย จึงต้องมีหน่วยงานราชการมาด้วย เพื่อเป็นคนกลางพิสูจน์ว่า “กลิ่นเหม็นมาจากโรงงานไหน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าเป็นช่วงกลางคืนมีกลิ่นเหม็น ชาวบ้านจะไปหาหน่วยงานราชการที่ไหมา จะหาทางออกให้ชาวบ้านได้ยังไง (ไม่มีคำตอบ)
ตัวแทนชาวบ้านที่เดือดร้อน เปิดเผยว่า ชาวบ้านเดือดร้อนมากว่า 6 ปี ไปร้องเรียนทุกแห่งมาหมดแล้ว ก็ยังแก้ปัญหาให้เราไม่ได้ เมื่อเหม็นมากๆ ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ชาวบ้านก็ตัดสินใจไปแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี ไปลงบันทึกเป็นหลักฐานว่า “เหม็น” เป็นครั้งแรก เบื้องต้นตำรวจปฏิเสธรับแจ้ง แต่ที่สุดก็ยอมรับแจ้งไว้ แค่อยากบอกตำรวจว่าเราเหม็น ต่อมามีตัวแทนโรงงานแจ้งว่า ให้เราไปถอนแจ้งความ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหา ชาวบ้านคุยกันจะไม่ถอนแจ้งความ และหากเหม็นอีก ก็จะไปแจ้งความอีก เท่าที่เรามีเวลา