ที่ร้านกล้วยทอด-ไข่เต่า แม่สำราญ กลางซอยประชาสันติ ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ลูกค้าการันตีในความอร่อยบางวันขายดีจนทอดขายแทบไม่ทัน แม้ว่าช่วงนี้โควิด-19 ระบาดอย่างหนัก จนทำให้รายได้ลดไปกว่าครึ่งก็ตาม ซึ่งนางสำราญ ชัยราช อายุ 51 ปี ผู้เป็นแม่และเป็นเจ้าของร้าน นายธนกฤต หรือฟู้ด ชัยราช อายุ 27 ปี ลูกชาย ทำหน้าที่เป็นลูกมือ ส่วนผู้เป็นพ่อค่อนข้างขี้อายนั่งก้มหน้าก้มตาปั้นแป้งขนมไข่เต่าช่วยกันอีกแรงหนึ่ง เปิดขายทุกวัน 09.30 -15.00 น. หากใครมาช้าหรือไม่ทันเวลาคงขายหมดและอดกิน
นายธนกฤต ชัยราช เปิดเผยว่า ครอบครัวเป็นชาว จ.นครสวรรค์ ย้ายมายึดอาชีพขายกล้วยทอดอยู่ที่อุดรธานี 10 กว่าปีแล้ว และทำขายจนส่งตนเรียนจบระดับ ป.ตรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และเข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งที่ กทม. เกือบ 2 ปีในตำแหน่ง หน.ฝ่าย production ควบคุมการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ค่าตอบแทนรวมโอทีประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน จากปัญหาโควิดระบาดในรอบแรก แม่เลยให้ตนกลับบ้านเพื่อช่วยครอบครัวขายช่วย เพราะเป็นลูกชายคนเดียว แม่กลัวว่าจะติดเชื้อเป็นอะไรไปเสียก่อน จึงตัดสินใจลาออกจากงานกลับมาช่วยครอบครัว และคงไม่กลับ กทม.อีกแล้ว ขายของช่วยครอบครัวก็สร้างรายได้ดีพอสมควร
”ช่วงนี้ยอดขายจะลดไปกว่าครึ่งเพราะเป็นช่วงโควิดระบาดหนัก โดยเฉลี่ยขายได้ประมาณ 3,000 บาทต่อวัน กำไรจะได้ประมาณครึ่งหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่าย ช่วงหน้าหนาวหรือวันไหนที่อากาศไม่ร้อนจะขายดีมาก หากถามถึงสูตรปรุงแป้งของแม่สำราญฯ ตนก็คงบอกไม่ได้เพราะเป็นสูตรเฉพาะของแม่ เมนูที่ทำขายจะมี กล้วยทอด มันทอด เผือกทอด และขนมไข่เต่าที่ทำมาจากมันส้ม มันม่วง และเผือก โดยเฉพาะขนมไข่เต่าที่ทำมาจากเผือกจะขายดีมาก และไม่ค่อยมีใครทำขายกันเพราะมีขั้นตอนการทำที่ยาก แต่จะขายดีกว่าเมนูอื่น หากใครยังไม่เคยชิมขอเชิญแวะมาซื้อลองไปชิมดูแล้วจะติดใจ ส่วนราคา กล้วยทอด มันทอด เผือกทอด 4 ชิ้น 10 บาท ขนมไข่เต่าทอด 7 ลูก 10 บาท ขอรับรองในความอร่อยไม่แพ้เจ้าอื่นในเมืองอุดรธานี”
ภาพ-เรื่อง นายวัฒน์พล ช้างรักษา ข่าวไทยรัฐ (ขทร.) อุดรธานี