วันศุกร์, พฤษภาคม 3, 2024
Google search engine
หน้าแรกสังคมชบ.เห็นด้วยสร้างเรือนจำใหม่โคกก่อง

ชบ.เห็นด้วยสร้างเรือนจำใหม่โคกก่อง

ชาวกุดสระไฟเขียวย้ายเรือนจำอุดรฯ ไปพื้นที่ค่ายลูกเสือหลัง ว.เกษตรฯ เป็นจุดเดิมที่เคยเสนอไปแต่ถูกปฏิเสธ เหตุพื้นที่ต่ำน้ำท่วมเปลืองเงินถม เลือกให้งบมาขยายและสร้างบ้านพัก 189.75 ล. เพื่อใช้งาน 5 ปี ก่อนย้ายไปที่ไหม

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลกุดสระ อ.เมือง อุดรธานี จัดให้มีเวทีประชาพิจารณ์ โครงการก่อสร้างเรือนจำกลางอุดรธานีแห่งใหม่ บริเวณค่ายลูกเสือเดิม บ้านโคกก่อง ต.กุดสระ มีนายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี พ.อ.ปริวรรตน์ วิมลปรีชาพงศ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษมีนบุรี รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการเรือนจำกลางอุดรธานี นำผู้เกี่ยวข้อง , คณะทำงาน , สมาชิกสภา อบจ. , ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมรับฟังอีกทั้งแสดงความเห็น

นายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี กล่าวว่า เรือนจำกลางอุดรธานี มีพื้นที่ราว 40 ไร่ ไม่สามารถขยายออกไปได้อีก ผู้ต้องโทษต้องขังอยู่อย่างแออัด ครม.สัญจรที่อุดรธานี เมื่อ 22 กันยายน 2555 มีมติให้ย้ายเรือนจำอุดรธานี ที่ผ่านมามีความพยายามหลายครั้ง อันดับแรกคือหาที่ดินมากกว่า 100 ไร่ แต่เรื่องก็ไม่มีผู้รับผิดชอบสานต่อเรื่องนี้ จน รมว.ยุติธรรม คนปัจจุบันเดินทางมาที่เรือนจำกลางอุดรธานี และได้รื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมา รัฐบาลก็เห็นด้วยในเรื่องนี้

“ เรือนจำกลางอุดรธานีได้ที่ดินจากค่ายลูกเสือ บ.โคกก่อง ต.กุดสระ มาแล้ว 168 ไร่ นำมาใช้เป็นเรือนจำชั่วคราว อบจ.อุดรธานี ก็เข้ามาช่วยปรับพื้นที่ ใช้เป็นพื้นที่ศึกษาโครงการโคกหนองนาโมเดล อบจ.เห็นว่าค่ายลูกเสือทรุดโทรมมาก จึงมีแนวคิดย้ายไปสร้างพื้นที่ ต.สามพร้าว และ อบจ.จะลงทุนทำเป็นค่ายลูกเสือมาตรฐาน 20 ล้านบาท แล้วมอบที่ดินค่ายลูกเสือให้เรือนจำกลางอุดรเพิ่ม พัฒนาเป็นเมืองใหม่ให้คนในพื้นที่ได้ประโยชน์ด้วย ”

นายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี กล่าวต่อว่า อบจ.อุดรธานี ได้ร่วมกับเรือนจำกลางอุดรธานี ออกแบบการใช้ประโยชน์พื้นที่แปลงนี้ ทางเข้า-ออกจากถนนมิตรภาพ ขยายถนนเป็น 4 เลน ตามเส้นทางวิทยาลัยเกษตรฯ นอกจากตัวเรือนจำที่ทันสมัย ยังจะมีการก่อสร้างระบบประปา ส่งต่อบริการประชาชนโดยรอบ , โรงพยาบาลเรือนจำ , สนามกีฬาสำหรับชุมชน และพื้นที่สีเขียว

พ.อ.ปริวรรตน์ วิมลปรีชาพงศ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษมีนบุรี รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการเรือนจำกลางอุดรธานี กล่าวว่า มาตรฐานเรือนจำผู้ต้องขัง 1 คนต่อพื้นที่ 1.6 ตรม. ทำให้มาตรฐานเรือนจำกลางอุดรธานี จะรับผู้ต้องขังได้รวม 2,400 คน ที่ผ่านมาอุดรธานีเคยมีผู้ต้องขังมากถึง 5,000 คน แต่ปัจจุบันมีอยู่รวม 3,500 คน ซึ่งก็ยังเกินมาตรฐานอยู่ ทำให้ได้รับงบประมาณ (189.75 ล้านบาท) ขยายเรือนจำและสร้างบ้านพัก แต่เพิ่งทำการก่อสร้าง คาดว่าจะเสร็จปลายปีนี้ ก็คงจะได้ใช้งานราว 5 ปี

“ เรือนจำแห่งใหม่จะเป็นเรือนจำทันสมัย มาตรฐานรักษาความปลอดภัยสูง ส่วนของอาคารเรือนจำ จะเป็นกำแพง 2 ชั้น สูง 7 เมตร มีรั้วไฟฟ้าด้านบน พร้อมกล้องวงจรปิดโดยรอบ ภายนอกอาคารเรือนจำ นอกจากอาคารบ้านพัก ยังมีสถานีผลิตน้ำประปา , แยกน้ำออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนน้ำฝน และนำที่ผ่านการบำบัด แล้วน้ำน้ำไปใช้รดต้นไม้ , รพ.เรือนจำรองรับภูมิภาคนี้ และอาคารที่พักญาติ สนามกีฬาอนุเคราะห์จาก อบจ.อุดรธานี ซึ่งการก่อสร้าง สถานที่จะใช้เวลา 3 ปี ”

มีสมาชิกสภา อบจ.อุดรธานี , ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน ให้ความสนใจสอบถาม เพิ่มเติม อาทิ 1.ชาวบ้านไม่สบายใจเมื่อมีเรือนจำเข้ามาตั้ง ขอให้สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันก่อน แต่วันนี้เป็นวันเริ่มต้นชาวบ้านมาน้อยมาก , 2.ปัญหาเป็นที่ลุ่มต่ำ เกิดปัญหาน้ำท่วมบ่อย (น้ำล้นลำห้วยหลวง) , 3.ขวางทางระบายน้ำ ที่ไหลมาจากฝายน้ำล้นหนองแด จะทำน้ำท่วมขึ้นมาชุมชนด้านบน , 4. วางแผนรับมือปัญหาในช่วงการก่อสร้าง , 5.เพิ่มสถานบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และ 6.รูปแบบที่นำเสนอมันลอยอยู่บนอากาศ ขอให้ทำตามสัญญา หลังจากตอบข้อซักถามที่ประชุมได้ขอมติด้วยการยกมือ ปรากฏว่าผู้เข้าร่วมเวทียกมือสนับสนุน โดยไม่มีเสียงคัดค้าน

ผู้สื่อข่าวรายเพิ่มเติมว่า ในรัฐบาลที่ผ่านมาเรือนจำกลางอุดรธานี ได้เสนอขอย้ายเรือนจำมาบริเวณพื้นที่ “ค่ายลูกเสือ” หรือบริเวณเดียวกันกับครั้งนี้ วงเงินราว 1,000 ล้านบาท กรมราชทัณฑ์ได้ส่งวิศวกรกรมฯมาสำรวจ และให้เหตุผลว่าเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำเสี่ยงน้ำท่วม จะต้องถมพื้นที่สูงขึ้นใช้งบเพิ่มสูงมาก ทำให้กรมฯอนุมัติงบให้ขยายเรือนจำ และสร้างบ้านพักแทน แต่แผนงานล่าช้าเพราะต้อง “ปรับแบบ” งานจึง ล่าช้ามาเกือบ 2 ปี …………

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Google search engine

Most Popular

Recent Comments