ผู้ป่วยโควิดติดเชื้อในอุดรฯเพิ่ม มีทั้งผู้ป่วยจากพื้นที่เสี่ยงต่ำ ผู้พ้นโทษเรือนจำร้อยเอ็ดไม่ได้ตรวจเชื้อ และรถบรรทุกไปกลับพื้นที่เสี่ยงสูง หลุดการคัดกรองทำเชื้อกระจาย มีคำสั่งสะแกนหาเชื้อโชเฟอร์รถบรรทุกขึ้น-ลองทั้งจังหวัด พร้อมกำหนดกติกากักตัว-ตรวจเชื้อ ทุกเที่ยว-ทุกคน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 สิงหาคม 2564 นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข (สสจ.)อุดรธานี พ.ญ.พัชริดา กลิ่นพะยอม อายุรแพทย์ รพ.ศูนย์อุดรธานี ร่วมแถลงสถานการณ์โควิด-19 พื้นที่อุดรธานี พบผู้ป่วยในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น จากผู้ป่วยวันอาทิตย์ 191 ราย มาจากพื้นที่เสี่ยงสูง 168 ราย เป็นผู้ป่วยในพื้นที่ 23 ราย ขณะในช่วง 3 วันที่ผ่านมามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 646 ราย เป็นผู้ป่วยในพื้นที่ 49 ราย และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 161 ราย
นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี กล่าวว่า ผู้ป่วยเดินทางกลับมาเริ่มลดลง แต่ผู้ติดเชื้อในพื้นที่เริ่มสูงขึ้น จากเคสเดิมผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ถูกกักตัวอยู่ตรวจพบเชื้อ อาทิ ตลาดบ้านสามพร้าว 2 ราย , โรงงานน้ำตาล อ.บ้านผือ 6 ราย ที่เหลือเป็นเคสใหม่ อาทิ ร้านเสริมสวย ถ.อดุลยเดช ทน.อุดรธานี 5 ราย เป็นคนในครอบครัวและเพื่อน , บ้านหนองนาคำ อ.เมือง 5 ราย ติดเชื้อในครอบครัว , ครอบครัว อ.น้ำโสม 6 ราย , ครอบครัว อ.หนองหาน 5 ราย
“ ผู้พ้นโทษจากเรือนจำร้อยเอ็ด ไม่ได้ตรวจหาเชื้อมาก่อน มาทำงานร้านเฟอร์นิเจอร์ อ.เมือง ติดเพื่อน 2 ราย , โรงงานหน่อไม้ปี๊บ ต.นาข่า อ.เมือง คนงาน 42 คน ป่วย 3 ราย , งานศพผู้ป่วยวัณโรค ไม่ได้ตรวจโควิด ต.เชียงพิณ อ.เมือง เกิดติดเชื้อในครอบครัว และในงานศพรวม 10 ราย , ร้านไก่สด ต.บ้านตาด อ.เมือง ผู้ป่วยเป็นโชเฟอร์ขับรถส่งสินค้า กทม.-อุดร เอาเชื้อมาติดครอบครัวร้านไก่สด อ.เมือง และญาติ รวม 9 ราย , และโชเฟอร์ บ.ขนส่ง ขนาดใหญ่ นำเชื้อจาก จ.ชลบุรี มาติดภรรยาและแพร่ไปคนใกล้ชิด รวมทั้งทันตแพทย์ รวม 7 ราย ”
นายอุเทน หาแก้ว รอง สสจ.อุดรธานี กล่าวต่อว่า มีผู้ป่วยน้ำเชื้อมาจากเสี่ยงต่ำ 2 ครั้งๆแรก รง.น้ำตาล พบผู้ติดเชื่อ 126 คน ใกล้จะปิดเคสแล้ว ครั้งที่สองเพิ่มเริ่มต้น กรณีเรือนจำปล่อยผู้พ้นโทษไม่ตรวจเชื้อ เป็นบทเรียนผู้มาจากต่างจังหวัด จะต้องระมัดระวังตัวเองมากขึ้น สำหรับกรณีโชเฟอร์รถบรรทุก วิ่งไปกลับพื้นที่เสี่ยงสูงแพร่เชื้อ 2 เคส แจ้งให้ผู้ประกอบการ 2 ราย นำโชเฟอร์กว่า 40 ราย มาตรวจคัดกรอง ผู้ประกอบการอื่นให้ทยอยมา ที่ศาลาพิธีสนามทุ่งศรีเมือง พร้อมเตรียมออกมาตรการป้องกัน เมื่อกลับมาต้องกักตัวและตรวจเชื้อทุกคน
รอง สสจ.อุดรธานี ตอบข้อซักถามด้วยว่า แผนสิงหาคมนี้อุดรฯจะได้วัคซีนเข้มแรก 50,000 โดสต่อสัปดาห์ๆแรกเป็นไปตามแผน สัปดาห์ที่สองได้มา 25,000 โดส และสัปดาห์ที่สามหรือสัปดาห์นี้ได้มาเพียง 20,000 โดส ทำให้เป้าหมายหลักจะฉีดผู้สูงอายุ , ผู้ป่วยเรื้อรัง 7 โรค และหญิงตั้งครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ ให้ได้ 50 เปอร์เซนต์ในสิ้นเดือนคงเป็นไปได้ยาก แม้ว่าอุดรธานีจะมีวัคซีนชิโนฟาร์มจาก อปท.มาเสริม
พ.ญ.พัชริดา กลิ่นพะยอม อายุรแพทย์ รพ.ศูนย์อุดรธานี กล่าวว่า สัปดาห์ก่อน รพ.ศูนย์อุดรธานี เพิ่มเตียง ไอซียู. 8 เตียง สัปดาห์นี้เพิ่มอีก 8 เตียง ทำให้เตียงสีแดงเพิ่มเป็น 55 เตียง พร้อมจะรับผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มได้อีก และในเดือนหน้าเราจะเพิ่มได้อีก 12 เตียง ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนัก ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 18 ราย ต้องใช่เครื่องออกชิเจนแรงดันสูง 35 ราย และมีผู้เสียชีวิตช่วง 3 วันที่ผ่านมาอีก 4 ราย รวมเป็น 51 ราย
รายที่ 48 เพศชาย อายุ 31 ปี ชาว อ.เมืองอุดรธานี ไม่รู้ประวัติโรคประจำตัว ไม่ได้ฉีดวัคซีน อาชีพขับรถส่งของใน กทม. มีอาการป่วย 9 ส.ค.64 ติดต่อขอรับการักษาที่อุดรฯ 13 ส.ค.64เดินทางมาถึง ระหว่างทางมีอาการเลือดออกจากทวารหนัก เลือดกำเดาไหล ไข้สูง และเสียชีวิตในวันนั้น ,
รายที่ 49 เพศหญิง อายุ 23 ปี ชาว อ.เมืองอุดรธานี น้ำหนัก 115 กก. ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 9 ก.ค.64 กลับจาก จ.สมุทรปราการ เข้ารับการรักษา รพ.สนาม (สามพร้าว) มีไข้ เจ็บคอ 18 ก.ค.64 มีอาการปอดอักเสพส่งต่อ รพ.ศูนย์อุดรธานี 2 ส.ค.64 ใส่ท่อช่วยหายใจ มีภาวะติดเชื้อในกระแสโลหิต เสียชีวิต 14 ส.ค.64 รวมเวลารักษา 35 วัน
รายที่ 50 เพศชาย อายุ 47 ปี ชาว อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี มีโรคประจำตัว ไวรัสตับอักเสพบี กระสันหลังคด 22 ก.ค.64 กลับจาก จ.นนทบุรี เข้ารับการรักษาที่ รพ.บ้านดุง 29 ก.ค.64 มีอาการปอดอักเสพ ถูกส่งต่อ รพ.ศูนย์อุดรธานี แพทย์รักษาแบบประคับประคอง 15 ส.ค.64 มีอาการหนักขึ้น และเสียชีวิตในวันต่อมา รวมเวลารักษา 25 วัน
ส่วนรายที่ 51 รอการรายงานจาก รพ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี….
