เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 16 ธันวาคม 2565 พ.ต.ท.เจษฎา ว่องไว สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อเทรลเลอร์ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 1 ราย เหตุเกิดอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงเรียนบ้านขาม ขาเข้าตัวเมืองอุดรธานี บ้านค่ายเสนีย์ ม. 4 ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดง ทะเบียน คบฉ 219 อุดรธานี สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน จอดเสียบคาอยู่ท้ายรถบรรทุก ข้างกันพบศพนายอมร เสกขุนทด อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 348/1 ม.1 ซ.บ้านหนองบัว ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี นอนหงายคอหัก เลือดออกตามจมูกและปากเสียชีวิตอยู่ข้างรถ แรงกระแทกทำให้หมวกกันน็อคกระเด็นหลุดออก ส่วนคู่กรณีเป็นรถบรรทุกสิบล้อ อีซูซุ สีขาว มีตู้เทรลเลอร์ด้านหลัง ทะเบียน 71-2846 พระนครศรีอยุธยา มีนายสุพรรณ บุติมาลย์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ม.11 ต.แคน อ.สนม จ.สุรินทร์ คนขับรถบรรทุก ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายสุพรรณฯ ให้การว่า ตนทำงานอยู่บริษัทขนแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ หลังจากนำของไปส่งที่ศูนย์ขนส่งอุดรฯ กำลังจะเดินทางกลับเข้ากรุงเทพ จึงได้จอดรถเอาไว้ข้างทางพร้อมกับเปิดสัญญาณไฟรถเอาไว้ ก่อนที่จะลงไปซื้อน้ำและของกินที่ร้านขายของชำ ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที เมื่อตนซื้อของเสร็จ ขณะเดินกลับขึ้นรถได้ยินเสียงดังมาจากด้านท้าย จึงเดินไปดูพบว่ามีรถจักรยานยนต์มาชนท้ายรถ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ ตนตกใจมากเพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ รู้สึกเสียใจที่เป็นต้นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ตอนจอดรถได้เปิดไฟฉุกเฉินเอาไว้ อยากจะบอกว่าตนไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องแบบนี้
ร.ต.ประเสริฐศักดิ์ วรบุตร อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการทหาร เล่าว่า ตนเป็นเพื่อนกับผู้ตายมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนบ้านหมากแข้ง ผู้ตายเคยเป็นครูสอนโรงเรียนเอกชน ก่อนที่จะไปทำงานโรงงานน้ำตาล เกษียณได้ประมาณ 1 ปี และมักจะหาตนที่บ้าน วันนี้ผู้ตายมาหาที่บ้านช่วงเวลาบ่ายโมง ภรรยาตนได้ทำกับข้าวให้กิน พูดคุยกันตามประสาเพื่อน จากนั้นช่วงเย็นก่อนกลับบ้าน ผู้ตายก็เดินมากอดและหอมแก้มตน 3 ครั้ง บอกว่าไปแล้วนะ ตั้งแต่คบหากันมาผู้ตายไม่เคยจะมากอดมาหอมตน ซึ่งคิดว่าอาจจะเป็นการลาครั้งสุดท้ายก็เป็นได้ ปกติผู้ตายเวลามาหาก็จะขับรถยนต์มา แต่วันนี้ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มาก็แปลกใจอยู่เหมือนกันแต่ไม่ได้ถามเพื่อน เสียใจมากที่ต้องเสียเพื่อนรักไปจากอุบัติเหตุครั้งนี้
ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็ว และไม่เห็นรถบรรทุกจอดอยู่ริมถนน จึงพุ่งชนเข้าอย่างจัง จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งมีภาพวงจรปิดหน้าร้านของชำบันทึกภาพขณะเกิดเหตุเอาไว้ได้ และจะสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ก่อนมอบมอบศพให้มูลนิธินำไปโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อรอให้ญาติมาติดต่อไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
