เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 13 กันยายน 2566 ร.ต.อ.อภิมุข สุวรพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีคนถูกไฟชอร์ตเสียชีวิต ที่เถียงนาท้ายบ้านเหล่า ต.นาดี จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี กู้ชีพ อบต.นาดี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นเถียงนาชั้นเดียว ญาตินำศพนายอภิศักดิ์ กาส่าน อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232 หมู่ 13 ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ไปนอนอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ สภาพศพสวมกางเกงยีนขายาว ไม่สวมเสื้อ จากการชันสูตรพบฝ่ามือและนิ้วขวามีร่องรอยไหม้ แพทย์ระบุเสียชีวิตเนื่องจากโดนไฟชอร์ต มาประมาณ 1 ชม.ซึ่งนายสุพัฒน์ ประจำนวน อายุ 50 ปี เจ้าของเถียงนา ยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายสมพงษ์ ภูมิเพ็ง อายุ 61 ปี กู้ชีพ อบต.นาดี เล่าว่า ได้รับแจ้งจาก เจ้าของเถียงนามีเหตุไฟฟ้าชอร์ตมีผู้หมดสติจึงรีบมาช่วย เมื่อมาถึงก็พบนายอภิศักดิ์นอนอยู่ที่พื้นดิน มีญาติซึ่งเปียกปอนฝนช่วยกันปั๊มหัวใจ ตนจึงบอกให้ญาตินำร่างขึ้นไปบนแคร่ ตนจึงเข้าตรวจชีพจร ก็พบว่าผู้ตายไม่มีชีพจรแล้ว โดยที่รั้วไม้ไผ่มีลวดกระแสไฟต่อจากบ้านเพื่อกันวัว ควาย เป็ดไก่ เข้าไปกินพืชสวนครัว ตนได้แจ้งญาติว่านายอภิศักดิ์เสียชีวิตแล้ว และแจ้งเหตุไปที่กู้ชีพ รพ.ศูนย์อุดรธานี
ส่วนนางประไพ อินทร์ชัย อายุ 55 ปี แม่ยายผู้ตายเล่าว่า ชาวบ้านและผู้ตายได้ล้มวัวที่เถียงนานายสุพัฒน์ เพราะพรุ่งนี้จะเป็นบุญข้าวประดับดิน ระหว่างนั้นก็มีฝนตกและมีน้ำขัง ผู้ตายได้เดินกลับมาเถียงนาเพื่อเอาถุงพลาสติกไปใส่เนื้อวัวกลับบ้าน แต่พอเดินมาถึงหน้าเถียงนาผู้ตายได้ลื่นหกล้ม ผู้ตายได้คว้ารั้วไม้ไผ่ซึ่งเจ้าของเถียงนาได้ต่อกระแสไฟฟ้าจากบ้านที่รั้ว เพื่อป้องกันไม่ให้วัวเดินออกนอกรั้ว ทำให้ไฟชอร์ตผู้ตายล้มลง ชาวบ้านที่กำลังล้มวัวเห็นผู้ตายล้มลง จึงได้เข้าไปช่วยเหลือ และปั๊มหัวใจ แต่เสียชีวิตแล้ว มีลางสังหรณ์ก่อนลูกเขยตาย โดยเมื่อคืนนี้ฝันว่ามีผีไล่ตนหนีจนตกน้ำ ซึ่งตนคิดว่าผีมาคอยเอาบุญที่จะทำให้วันพรุ่งนี้ ไม่คิดว่าผีจะมาเอาชีวิตลูกเขย
นางยุพเรศ จันทร์ชา อายุ 50 ปี อสม.หมู่บ้าน เล่าว่า ตนมีลางสังหรณ์ก่อนเกิดเหตุ มีอีการ้องบินผ่านหมู่บ้าน 3 ตัว ติดต่อกัน 2 วัน และมีสุนัขเห่าหอนทั้งคืน นึกในใจว่าจะมีคนเสียชีวิต เพราะมีผู้ป่วยอยู่ในหมู่บ้าน ไม่คิดว่าจะเป็นคนอายุยังน้อย และไม่ได้เจ็บป่วย
นางยุพา หาสกุล อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 7 ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า ตนและผู้ตายอยู่ด้วยกันมา 16 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ก่อนเกิดเหตุ ไม่รู้เรื่องเลยว่าสามีไปไหน ส่วนตนนอนเล่นอยู่บนบ้านเพราะฝนตก พอญาติมาบอกว่าสามีโดนไฟชอร์ตเสียชีวิต ก็ตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัว ยังทำใจไม่ได้ ยังไม่ได้เดินไปดูศพสามี ญาติห้ามไว้ ลูกทั้งสามก็ไปโรงเรียนยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่ลางบอกเหตุล่วงหน้าเลย
เบื้องต้นญาติไม่ติดใจในการเสียใจชีวิต จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านพัก ซึ่งตำรวจจะได้นำเจ้าของเถียงนาและพยานที่เห็นไปสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
