พ่อแม่ใจสลายฝากลูกสาว 2 คนไว้กับป้า ถูกลุงเขยขืนใจลูกสาว ป.6 นาน 5 เดือน พ่อแม่โร่กลับจาก กทม.พาเข้าแจ้งความเอาผิด ก่อนลุงเขยและป้าหอบเสื้อผ้าหลบหนี ล่าสุดญาติติดต่อขอพาเข้ามอบตัวกับกำนัน แต่ขอทำใจก่อน เกรงว่าจะได้รับอันตราย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 กันยายน 2565 ที่ สภ.ดงเย็น ร.ต.อ.ศุภชัย คำบัวโคตร รอง สว.สอบสวน สภ.ดงเย็น ได้เชิญตัวนายยาว อายุ 42 ปี ชาวบ้านโคกกลาง ม.4 ต.บ้านตาด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และ ด.ญ.เอ นามสมมุติ อายุ 12 ปี ลูกสาว เข้าสอบปากคำให้การ กรณี ด.ญ.เอ ถูกนายเสงี่ยม ทะระคำหาญ อายุ 54 ปี ลุงเขยล่วงละเมิดทางเพศ โดยมีนายปูรณ์ วิเวก ปลัดอำเภอบ้านดุง นายนิรุต พรหมหมอก กำนัน ต.บ้านตาด สหวิชาชีพ เจ้าหน้าที่จาก อบต.บ้านตาด และ ผู้ใหญ่บ้านบ้านตาด ร่วมให้ข้อมูลและสังเกตการณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเข้าแจ้งความไว้แล้ว เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 กันยายน 2565
นายยาว พ่อของเด็ก เปิดเผยว่า มีอาชีพขับรถสิบล้อรับจ้างอยู่ที่ กทม. มีนางป้อม อายุ 38 ปี ภรรยาชาวลาว เป็นแม่บ้านอยู่ดูแลบ้านเช่าที่ กทม. พวกตนมีลูก 3 คน คนโตเป็นผู้ชาย อายุ 15 ปี ด.ญ.เอ อายุ 12 ปี เป็นคนกลาง และคนเล็กเป็นลูกสาว อายุ 3 ปี เนื่องจากตนต้องย้ายไซต์งานบ่อยจึงฝากลูกสาวคนเล็กไว้กับนางหยึก อายุ 44 ปี พี่สาวตนเอง ซึ่งมีนายเสงี่ยมฯ พี่เขยอยู่ดูแลในบ้านหลังเดียวกัน ทั้งสองเลี้ยงลูกสาวคนเล็กมาตั้งแต่แบเบาะ จนรักเหมือนลูก เมื่อช่วงเดือนเมษายนได้ส่งตัว ด.ญ.เอ มาอยู่กับป้าและลุงเขย เพื่อช่วยเลี้ยงน้องและเรียนหนังสือที่บ้าน ส่วนลูกชายคนโตส่งไปอยู่กับปู่และย่า
“ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ไม่นึกว่าคนที่เราไว้ใจมากที่สุดจะกระทำกับลูกสาวเราแบบนี้ ตอนนี้ทั้งพ่อและแม่ยังไม่กล้าถามเรื่องราวจากปากลูกโดยตรง เกรงว่าจะกระทบกับความรู้สึกของลูกสาว ได้แต่ปลอดขวัญลูก ให้กำลังใจลูก เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยากให้ลุงเขยและป้า ออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ส่วนตัวยังไม่ได้กล่าวหาว่าลุงเขยว่าก่อเหตุจริง หากกระทำจริงต้องมารับผิด ถ้าไม่ได้กระทำต้องออกมาชี้แจง เพื่อให้ทุกคนหายสงสัย เมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาถึงขนาดนี้อยากให้ปกป้องความรู้สึกของเด็กเป็นอันดับแรก ถ้ากระทำผิดจริงก็ขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนป้าเองก็อยากให้กลับมาดูแลเหมือนเดิม ญาติพี่น้องกันยังไงก็ตัดไม่ขาด “
กำนัน ต.บ้านตาด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 ได้รับจากครูโรงเรียนที่ ด.ญ.เอ เรียนอยู่ว่า เด็กมีอาการซึมเศร้า เมื่อสอบถามแล้วทราบว่าถูกลุงเขยข่มขืนกระทำชำเรานานกว่า 5 เดือน จึงประสานให้ครูพาเด็กตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และโทรศัพท์แจ้งพ่อของเด็ก ก่อนที่จะรวบรวมพยานหลักฐานพากันเข้าแจ้งความดังกล่าว ปกติแล้วนายเสงี่ยมฯ เป็นคนดี ขยันทำมาหากิน แต่ก็ไม่นึกว่าจะมีพฤติกรรมแบบนี้ ซึ่งจากคำให้การเด็กก็ชัดเจนแล้วว่าถูกกระทำจริง ตอนนี้ทางตำรวจยังไม่ได้ออกหมายเรียกหรือหมายจับ แต่ล่าสุดน้องสาวนายเสงี่ยมได้โทรศัพท์ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว แต่ยังขอเวลาทำใจ กลัวจะได้รับอันตราย แต่ก็ได้บอกกลับไปแล้วว่า จะไปรับด้วยตัวเองและรับรองความปลอดภัย ขอให้ติดต่อกลับมาให้เร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในระหว่างที่ ด.ญ.เอ อยู่บ้านเลี้ยงน้องสาว ในช่วงวันหยุดไม่ได้ไปเรียนหนังสือ ลุงเขยจะอาศัยช่วงที่ป้าออกไปข้างนอก ลงมือกระทำชำเราข่มขืน ด.ญ.เอ ที่บ้าน จากข้อมูลทราบว่า ด.ญ.เอ ถูกลุงเขยข่มขืนมาแล้ว 7 – 8 ครั้ง ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2565 และครั้งล่าสุดเหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2565 ลุงเขยออกอุบายชวน ด.ญ.เอ หลานสาวออกไปทุ่งนา เพื่อไปตรวจดูเบ็ดตกปลาที่ปักไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ด.ญ.เอ หลงเชื่อจึงออกไปด้วย ก่อนถูกลุงเขยข่มขืนอีกครั้ง กระทั่งเด็กกลับไปเรียนหนังสือและมีอาการเศร้าซึมจนครูสังเกตเห็นและรับทราบเรื่องราวดังกล่าว ล่าสุดทราบว่าลุงเขยรายนี้ได้หนีออกไปนอกพื้นที่แล้ว ซึ่งจะได้มีการออกหมายจับต่อไป